“จอนนี่ มือปราบ” แจ้งความกลับ 3 จนท. ปมรีสอร์ตรุกที่ดินนิคมฯ

อุบลราชธานี 7 ก.ค. – “จอนนี่ มือปราบ” แจ้งความกลับ 3 เจ้าหน้าที่ ปมถูกร้องสร้างรีสอร์ตรุกที่ดินนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย จ.อุบลราชธานี ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านให้ข้อมูลที่รีสอร์ต “จอนนี่ มือปราบ” มีการทำสัญญาซื้อขาย


นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ดาบตำรวจ ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ตรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี

นายวัชระ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวกรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมฯ กันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ตเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา ทางกรมฯ ได้ลงบันทึกประจำวัน และมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ตมาตั้งแต่ปี 65 แต่เจ้าของรีสอร์ตไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ต


สำหรับนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ 24,675 ไร่ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนมีเคหสถาน และประกอบอาชีพที่มั่นคง การที่จะเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมฯ ต้องได้รับอนุญาตก่อน หรือแม้แต่จะนำที่ดินไปออกเอกสารสิทธิในที่ดินใดๆ ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการก่อนเช่นกัน จึงจะนำหนังสืออนุญาตไปขอออกเอกสารสิทธิได้ แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบ ทางกรมฯ ไม่เคยให้อนุญาตใดๆ กับบุคคลดังกล่าว จึงไม่สามารถออกเอกสารสิทธิหรือโฉนดที่ดินใดๆ ได้ และเมื่อไม่มีเอกสารสิทธิหรือโฉนด ก็ไม่สามารถซื้อขายได้ จึงไม่ทราบว่าเจ้าของรีสอร์ตดังกล่าวซื้อที่ดินมาได้อย่างไร เพราะตนเองก็ยังไม่เห็นหนังสือซื้อขาย

ตร.ปทส.เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบรีสอร์ต “จอนนี่ มือปราบ”
ผู้บังคับการ บก.ปทส. เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนรับเรื่องร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ “จอนนี่ มือปราบ” ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าที่ถูกกันไว้ 20% ของนิคมฯ ลำโดมน้อย ตาม พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ ตามมาตรา 15 จากนี้จะเร่งตรวจสอบว่าเคยมีการร้องทุกข์เป็นคดีไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ หากมีตำรวจ บก.ปทส. จะดึงสำนวนมาสอบสวนเอง แต่ถ้ายังไม่เคยมีการร้องทุกข์กล่าวโทษมาก่อน บก.ปทส. จะรับดำเนินการสอบสวนทันที และจะร่วมกับกรมพัฒนาสังคมฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบว่าเป็นพื้นที่บุกรุกจำนวนเท่าใด ก่อสร้างอะไรไปบ้าง หรือกระทำผิดกฎหมายใดบ้าง ซึ่งจะต้องสืบสวนไปตั้งแต่ต้นว่าพื้นที่ตรงนี้เริ่มต้นจากอะไร มีการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศ ที่จะทำให้ทราบว่าเริ่มมีการรุกล้ำที่ตั้งแต่เมื่อไร รวมถึงอาจสอบกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ส่วน จอนนี่ มือปราบ ก็ต้องเรียกสอบปากคำด้วย หาก จอนนี่ มือปราบ อยากจะชี้แจง เจ้าหน้าที่พร้อมจะรับฟัง แต่หากไม่ให้ความร่วมมือจะต้องใช้หมายค้นเข้าตรวจสอบรีสอร์ต พร้อมยืนยันว่าตำรวจจะให้ความยุติธรรมและรับฟังทั้ง 2 ฝ่าย

“จอนนี่ มือปราบ” แจ้งความกลับ 3 เจ้าหน้าที่ ปมรีสอร์ตรุกที่ดินนิคมสร้างตนเองฯ
ด้าน จอนนี่ มือปราบ ออกมาเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีการโพสต์คลิปหลังไปแจ้งความที่ สภ.พิบูลมังสาหาร ดำเนินคดีกับนายกันตพงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ, นายวัชระ นักวิชาการกรม ที่ไปแจ้งความตนเองเมื่อเช้า และนางจันที ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย อ.สิรินธร ในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียง และข้อหา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เลือกปฏิบัติ และจะให้ทีมทนายฟ้องส่วนตัวร้องไปยัง ป.ป.ช. และ ปปท.


ทั้งนี้ จอนนี่ ได้อธิบายว่าในปี 2511 มีการสร้างเขื่อนสิรินธรขึ้น เสร็จในปี 2514 จากนั้นมีหน่วยงานกรมพัฒนาสังคม โดยมีผู้ปกครองดูแลหน่วยนี้ชื่อนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี มาเขียนประกาศระวางที่ดิน เพื่อครอบคลุมที่ดิน ที่นาส่วนของชาวบ้าน ซึ่งก่อนหน้านั้นชาวบ้านเขาไม่ได้เดินทางมาออกเอกสารสิทธิ และการคมนาคมสัญจรไปมาลำบาก และยังย้ำว่าที่ดินที่ตนจัดตั้งรีสอร์ตนั้น ก่อนซื้อมีการตรวจสอบแล้ว มีชาวบ้านเป็นพยาน มีผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อบต. รับรอง และเป็นการซื้อขายตกทอด และก่อนที่ตนเองจะไปอยู่นั้นก็มีรีสอร์ตเกิดขึ้นมาก่อนเป็นเกือบ 100 รีสอร์ต ซึ่งอยู่ในเอกสารสิทธิเดียวกัน ยืนยันว่ายินดีให้ตรวจสอบ หากผิดจริงให้รื้อรีสอร์ตตนได้เลย แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสิ่งปลูกสร้าง เช่น วัด หมู่บ้าน โรงเรียน ในพื้นที่บริเวณดังกล่าวด้วย โดยไม่เลือกปฏิบัติ และจะต่อสู้เพื่อชาวบ้าน เพื่อศักดิ์ศรีของตนเอง

ผญบ.ให้ข้อมูลที่รีสอร์ต “จอนนี่ มือปราบ” มีการทำสัญญาซื้อขาย
ทีมข่าวลงพื้นที่พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านห้วยไฮ ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ให้ข้อมูลว่า ที่ดินบริเวณรีสอร์ตของจอนนี่ มือปราบ รู้กันทั่วไปว่าอยู่ในความดูแลของพัฒนาสังคมฯ จ.อุบลราชธานี พื้นที่ดังกล่าว 100% แบ่งออกเป็น 2 ส่วน เป็นพื้นที่ที่สามารถเอกสารครอบครองได้ 80% ส่วนอีก 20% ถูกกันออกให้เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมาย ซึ่งใน 20% มีชาวบ้านมาจับจองเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยมานานกว่า 40 ปี มีประชากรมากกว่า 500 หลังคาเรือน

สำหรับกรณีที่เป็นประเด็น หากมองว่า จอนนี่ มือปราบ สร้างรีสอร์ตบุกรุกที่สาธารณะตามที่มีการแจ้งความ หากจะต้องดำเนินการตามกฎหมายก็ต้องขับไล่ชาวบ้านทั้งหมดที่อยู่ในเขตพื้นที่กว่า 500 หลังคาเรือนออกไปด้วย เพราะไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และชาวบ้านก็ไม่ยอมที่จะออกจากพื้นที่ เพราะมีการตั้งหลักฐานครอบครัวมานานแล้ว โดยที่ดินรีสอร์ตของจอนนี่ ถูกเปลี่ยนมือมาแล้ว 2 คน จอนนี่ มือปราบ เป็นคนที่ 3 มีการร่วมทำสัญญาซื้อขาย ไม่ได้เป็นผู้ที่มาแผ้วถางแต่อย่างใด ส่วนประเด็นที่ทำให้มีข้อพิพาทคาดน่าจะเป็นเรื่องของการที่จอนนี่วิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี จนทำให้ชาวบ้านมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ เพราะถ้าจะขับไล่ดำเนินคดีควรจะกระทำตั้งแต่เริ่มแรก ไม่ได้ปล่อยให้มายาวนานถึงขนาดนี้ และการที่มีรีสอร์ตของจอนนี่ไม่ได้สร้างความเสื่อมเสียหรือผลกระทบต่อธรรมชาติ มีแต่การสร้างประโยชน์และรายได้ให้กับชุมชน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]