ตร.คาด 2 สัปดาห์ รู้ผลสอบ นร.ถูกไฟดูดดับคาตู้น้ำดื่ม

ตรัง 24 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ ตรัง สั่งทุกโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาตรัง-กระบี่ หยุดใช้ตู้กดน้ำ หลังไฟดูดนักเรียนชายวัย 14 ปี เสียชีวิต ด้านตำรวจคาดภายใน 2 สัปดาห์ จะทราบผลสอบว่าเป็นเหตุสุดวิสัย หรือกระทำการโดยประมาท


บรรยากาศที่โรงเรียนที่เกิดเหตุใน อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งวันนี้โรงเรียนยังเปิดเรียน และมีนักเรียนกว่า 300 คน เดินทางมาเรียนตามปกติ ขณะที่ครู อาจารย์ ผู้บริหาร และบุคลากรของโรงเรียน ร่วมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีขาว สีดำ ก่อนที่นักเรียนและครูจะร่วมยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัย “น้องวายุ” นักเรียนชาย อายุ 14 ปี ซึ่งทุกคนยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ และขวัญเสียกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ น้องวายุเสียชีวิตจากการถูกไฟดูดที่หน้าตู้น้ำดื่ม เหตุเกิดขึ้นในช่วงจัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสีของโรงเรียน เมื่อช่วงเที่ยงของวันวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ท่ามกลางสายตาผู้ปกครองที่ไปเชียร์บุตรหลาน เพื่อนนักเรียน ครู ผู้บริหารโรงเรียน เจ้าหน้าที่พยาบาล กู้ภัย พยายามช่วยชีวิต แต่ไม่สามารถช่วยได้ โดยทีมแพทย์ตรวจสอบสภาพศพพบร่องรอยบาดแผลบริเวณหน้าอกและรอยแผลถลอกที่ใบหน้า จึงร่วมกับแพทย์ โรงพยาบาลกันตัง ชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นเชื่อว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าดูด


เร่งสอบข้อเท็จจริง “น้องวายุ” ถูกไฟดูดหน้าตู้กดน้ำในโรงเรียน
จากการตรวจสอบบริเวณเครื่องกดน้ำจุดเกิดเหตุมีเบรกเกอร์รวมไฟอยู่ เมื่อฝนตกทำให้ไฟลงกราวด์ที่พื้น จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย ต้องรีบสับสวิตช์ไฟก่อนถึงจะนำเด็กนักเรียนออกมาจากจุดที่เกิดเหตุได้ ส่วนประเด็นที่บอกว่ามีคุณครูใช้ให้ไปปิดสวิตช์ และใช้ให้นักเรียนไปกดน้ำจากจุดนั้น ยังไม่ใช่ข้อเท็จจริง เนื่องจาก ผอ.โรงเรียน ยืนยันว่าตู้กดน้ำดังกล่าวไม่ได้มีการใช้งานมาแล้วกว่า 10 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว

ผอ.รร.เสียใจเหตุ นร.ถูกไฟดูดเสียชีวิต-จ่อรื้อตู้น้ำทิ้ง
ด้าน ผอ.โรงเรียน เปิดใจด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือและร่ำไห้ตลอดเวลาว่า ตนเองย้ายมาประจำที่นี่ได้เกือบ 2 ปีแล้ว โดยตู้ทำน้ำดื่มนี้ติดตั้งมานานและไม่ได้ใช้งานมานานแล้ว เดิมมีแนวคิดจะซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ เพื่อให้นักเรียนมีน้ำใช้ โดยตั้งงบซ่อมไว้ประมาณ 100,000 บาท แต่มาเกิดเหตุการณ์นี้เสียก่อนก็จะไม่ซ่อมแล้ว จะรื้อทิ้งเลย เพียงแต่ตอนนี้ยังเป็นวัตถุพยานทางคดี ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมายให้เสร็จสิ้นก่อน จากนั้นจะตั้งคณะกรรมการตามระเบียบราชการเพื่อรื้อทิ้งต่อไป ส่วนตัวไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ครูทุกคนก็ช็อกกันหมดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวรู้สึกว่าดูแลเด็กไม่ดี โดยได้บอกกับครอบครัวน้องไปว่าตนเองเสียใจ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วก็ต้องเดินหน้ากันต่อ

ผอ.โรงเรียน เล่าว่า ในวันเกิดเหตุมีฝนตกหนักและลมพัดแรง บริเวณพื้นใกล้กับตู้กดน้ำเต็มไปด้วยน้ำฝน จึงเกิดไฟรั่วออกมา ตอนนี้ได้ตัดสายไฟที่เกี่ยวข้องกับตู้นี้ออกทั้งหมดแล้ว ไม่เป็นอันตรายแล้ว ส่วนการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต นอกจากช่วยเหลือเรื่องงานศพแล้ว ทราบว่าน้องผู้เสียชีวิตยังมีพี่ชายอีกหนึ่งคนเรียนอยู่ชั้น ม.4 จึงตั้งใจว่าจะดูแลพี่ชายของน้องจนจบชั้น ม.6 และได้ประสานเพื่อให้เรียนต่อจนถึงระดับปริญญาตรี จะดูแลเยียวยาทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน


ผู้ว่าฯ ตรัง สั่งงดใช้ตู้กดน้ำทุกโรงเรียนในพื้นที่
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ตรัง-กระบี่ (สพม.13) ต้นสังกัดของโรงเรียนที่เกิดเหตุ ศึกษาธิการจังหวัดตรัง และตำรวจ สภ.กันตัง ผู้แทนอัยการคุ้มครองสิทธิ แถลงกรณีดังกล่าวว่าเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุทุกฝ่ายเร่งเยียวยาเต็มที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาตรัง-กระบี่ ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ฝ่ายตำรวจพิสูจน์หลักฐานเร่งค้นหาสาเหตุ

เบื้องต้นมีคำสั่งห้ามใช้เครื่องทำน้ำเย็นในทุกโรงเรียนในเขตพื้นที่แล้ว ส่วนอนาคตหน่วยงานระดับนโยบายอย่างกระทรวงศึกษาฯ จะต้องวางแผนนโยบายใหม่เกี่ยวกับการใช้งานตู้น้ำดื่ม ตรวจสอบความพร้อมความหลอดไฟเกี่ยวกับไฟฟ้าในโรงเรียน โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่อย่างวิทยาลัยเทคนิค หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาร่วมตรวจสอบความปลอดภัยเป็นวงรอบ พร้อมกำชับทุกอำเภอจะต้องมีการซ้อมแผนเผชิญเหตุการณ์จริงด้วยเสมอๆ ทุกโรงเรียน

สำหรับผลสอบคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ผอ.สพม.13 ตรัง-กระบี่ บอกว่า คาดว่าจะรู้ผลเย็นนี้ (24 มิ.ย.) ใน 2 ประเด็นคือ การเยียวยา และสาเหตุของไฟรั่ว แต่ในช่วงเกิดเหตุทุกคนได้เข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่อาจเพราะฝนตก ทำให้นักเรียนกระจายตัว เมื่อเกิดเหตุขึ้นจึงตกใจ แต่ ผอ.โรงเรียน รีบสั่งให้ตัดไฟแล้วเข้าไปนำตัวเด็กออกมาส่งโรงพยาบาล ใช้เวลา 2.1 นาที ตามที่ปรากฏในคลิป ส่วนการเยียวยา โรงเรียนช่วยเหลือไปแล้ว 120,000 บาท มีประกันกลุ่มกับบริษัทวิริยะประกันภัย อีก 90,000 บาท ผู้ปกครองพอใจและไม่ติดใจ แต่กระทรวงฯ จะศึกษาข้อกฎหมายว่ามีช่องทางใดที่จะเยียวยาเพิ่มได้หรือไม่ แต่จากข่าวทราบว่าครอบครัวต้องการ 500,000 บาท ซึ่งขึ้นกับข้อตกลงในการเจรจาเยียวยา ส่วนคดีอาญาก็ว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย

ตร.คาด 2 สัปดาห์ รู้ผลคดีว่าเป็นเหตุสุดวิสัยหรือประมาท
ด้าน ผกก.สภ.กันตัง ตั้งประเด็นการสอบสวนไว้ 3 ประเด็น คือ 1.มีบุคคลอื่นทำให้ตายหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเห็นเหตุการณ์ชัด ระบุเวลาเกิดเหตุ 11.53 น. ขณะเกิดเหตุผู้ตายเดินไปกับเพื่อนรวม 3 คน โดยผู้ตายเดินน้ำหน้า เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุได้เอามือไปแตะลูกกรงตู้น้ำทำให้โดนไฟดูดทันที โดยมีบุคคลใกล้เคียงไม่ได้ผลักหรือกระทำให้เกิดแต่อย่างใด

2.สภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าดังกล่าวมีความชำรุดทรุดโทรมหรือไม่ ไม่ได้รับการดูแลรักษาตามระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และ 3.เมื่อเกิดจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า มีผู้ใดรับผิดชอบควบคุมกำกับดูแลอุปกรณ์ดังกล่าวหรือไม่ วิธีการเดินสายไฟเป็นตามหลักวิชาการหรือไม่ ใครเป็นคนเดิน มีความเชี่ยวชาญเพียงพอหรือไม่ ซึ่งไปตรวจแล้วทั้งเบรกเกอร์ ตู้น้ำ สายไฟต่างๆ ในจุดเกิดเหตุ จากรายงานตรวจสอบที่เกิดเหตุจะระบุสาเหตุการตายได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย หรือเกิดจากข้อบกพร่อง ปล่อยปละละเลย เข้าข่ายกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือไม่ คาดว่าราว 2 สัปดาห์ จะรู้ผล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]