จับสังเกตมูลนิธิอนุรักษ์ช้าง กับ ธุรกิจปางช้าง เกี่ยวข้องกันหรือไม่

ภูเก็ต 1 มี.ค. – ข่าวคุณหมอในภูเก็ตออกมาระบุว่าถูกชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและยังเป็นเจ้าของธุรกิจปางช้างในภูเก็ตทำร้ายโดยการใช้เท้าเตะเข้าที่หลัง พูดจาในลักษณะเหยียดคนพื้นถิ่น โดยอ้างตำรวจยศใหญ่ในพื้นที่ แม้ล่าสุดจะออกมายกมือไหว้ขอโทษและบอกว่าเป็นอุบัติเหตุสะดุดล้มไม่มีเจตนา แต่สังคมยังคงพากันตั้งคำถามต่อไปถึงเรื่องมูลนิธิอนุรักษ์ช้าง


เอกสารแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิดูแลช้าง ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2564 ปรากฏชื่อกรรมการของมูลนิธิ 5 คน โดยมี นายอูร์ส ชาวสวิสเซอร์แลนด์ เป็นประธาน และมีนางคนึงนิจ ภรรยาเป็นรองประธานกรรมการและเหรัญญิก โดยเริ่มต้น มูลนิธิมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 4 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง ก่อนจะแจ้งย้ายสถานที่มา ตำบลป่าคลอก เมื่อ 20 พ.ย 66 ระบุวัตถุประสงค์การจัดตั้งเพื่อช่วยเหลือ ดูแล รักษา เยียวยาช้างที่ได้รับบาดเจ็บการใช้แรงงาน ให้ความรู้ด้านการเลี้ยงดูช้างอย่างถูกวิธีแก่ควาญช้าง โดยไม่แสวงหาผลกำไร มีทุนจดทะเบียนแรกตั้งจำนวน 5 แสนบาท โดยใช้รูปหัวช้าง เป็นเครื่องหมายของมูลนิธิ ตามข้อความที่ปรากฏในเอกสารการจดทะเบียนว่า รูปหัวช้างที่มีอาการเศร้าหมองเนื่องจากถูกบุคคล หรือผู้ใดบีบบังคับให้ใช้แรงงาน หรือไม่เหมาะกับชีวิตของช้าง

อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบ พบข้อสังเกตที่น่าสนใจว่า รูปเครื่องหมายหัวช้างของมูลนิธิ ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ไม่แสวงหาผลกำไรนี้ เป็นโลโก้แบบเดียวกับโลโก้ปางช้างของบริษัทที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจเพื่อประกอบธุรกิจนำเที่ยว และกิจกรรมการแสดงโชว์นันทนาการ ทำให้สังคมยิ่งตั้งข้อสงสัยถึงความเชื่อมโยงระหว่างมูลนิธิกับบริษัท ว่ามีความเกี่ยวข้องหรือมีผลประโยชน์ร่วมกันหรือไม่


ประธานมูลนิธิ พร้อมด้วยภรรยาชาวไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนวันนี้ ขณะที่เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดภูเก็ตเพื่อขอโทษแพทย์หญิงธารดาว ว่าปัจจุบันมูลนิธิที่จัดมาตั้งแต่ปี 64 ไม่เคยเปิดรับบริจาคเงิน และปัจจุบันมูลนิธิไม่มีช้างอยู่ในความดูแลแม้แต่ตัวเดียว เมื่อทีมข่าวตรวจสอบ ก็พบว่างบการเงินที่ทางมูลนิธิแจ้ง ไม่มีรายรับใดๆ เข้ามาเลยนอกจากทุนจดทะเบียนครั้งแรก 500,000 บาท ทำให้เป็นข้อสังเกตว่า เป็นความผิดปกติหรือไม่

เมื่อสอบถามว่าหลังจัดตั้งมูลนิธิ จนถึงปัจจุบันได้มีการเข้าไปช่วยเหลือดูแลช้างอย่างไรบ้าง ทั้งคู่ให้คำตอบว่าที่ผ่านมาได้เข้าไปช่วยเหลือดูแลช้างป่วยในภูเก็ตโดยตลอด แต่ใช้เงินของบริษัทเข้าไปดำเนินการ ยิ่งทำให้เป็นข้อสังเกตเพิ่มขึ้นว่าบริษัทและมูลนิธิแห่งนี้มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่

อดีตเจ้าของช้างที่อ้างว่าเคยเป็นลูกจ้าง อยู่ภายในปางช้างแห่งนี้ ติดต่อผ่านศูนย์ข้อมูลภูเก็ตมายังสำนักข่าวไทย เพื่อเรียกร้องขอให้ส่วนราชการตรวจสอบว่าบริษัทที่เปิดทำธุรกิจปางช้างแห่งนี้มีการใช้ชื่อของมูลนิธิเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ให้กับการทำธุรกิจปางช้างหรือไม่โดยเธอ ให้ข้อมูลว่าตัวเองเป็นอดีตลูกจ้างในปางช้างนี้ โดยตอนนั้นเธอและแม่มีช้างจำนวน 3 เชือก ให้บริการอยู่ในปางช้างแห่งนั้นเมื่อปี 61 แต่ต่อมาถูกไล่ออกเพราะช้างของเธอท้องแก่ทำงานไม่ได้ เธอจึงจำเป็นต้องพาช้างระหกระเหินออกจากปางช้างแห่งนั้นเพื่อกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดบุรีรัมย์


ซึ่งการกระทำดังกล่าวเธอบอกว่า ผิดวิสัยของคนที่บอกว่ารักช้าง ทำงานด้านการอนุรักษ์ช้าง โดยเธอยังให้ข้อมูลว่า ทางปางช้างใช้ลูกชายที่เป็นตำรวจใน สภ.ถลาง ภูเก็ต เข้ามากดดันให้เธอต้องออกจากที่นั่นแต่ที่ไม่ได้แจ้งความเพราะเกรงกลัวอิทธิพล

การเข้ามาประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติในจังหวัดภูเก็ตนับวันยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น และลุกลามไปถึงกิจการบางประเภทที่ถูกสงวนไว้กับคนไทยด้วย การตรวจสอบการทำธุรกิจของชาวต่างชาติในภูเก็ต จึงเป็นสิ่งที่รัฐต้องเร่งทำอย่างจริงจัง รวมถึงต้องตรวจสอบไม่ให้มีการนำหรือใช้มูลนิธิที่ก่อตั้งขึ้นแบบไม่แสวงหาผลกำไรเข้า ไปมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับการทำธุรกิจด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]