เปิดวงจรปิดนาทีอุ้มหนุ่มโรงงานขึ้นรถ

สมุทรปราการ 2 ก.พ. – ตำรวจเปิดภาพวงจรปิดนาทีมือฆ่าขับรถปาดหน้าหนุ่มโรงงาน ก่อนจะอุ้มขึ้นรถไปก่อเหตุ ด้านภรรยาพ้อ สภาพจิตใจแย่ ยืนยันไม่เกี่ยวกับการฆ่าสามี เป็นแค่เพื่อนร่วมงานของ “ช่างกิต”


วงจรปิดบันทึกภาพนาทีที่นายกิตติโชติ หรือ ช่างกิต บางบ่อ ผู้ก่อเหตุขับรถยนต์ปาดหน้ารถจักรยานยนต์ของผู้ตาย คือ นายธนาสันต์ อายุ 33 ปี หนุ่มโรงงาน และได้ลงมาบังคับผู้ตายให้ขึ้นรถมาด้วย ก่อนจะอุ้มขึ้นรถและนำไปก่อเหตุลงมือฆ่า กระทั่งมีการพบศพนายธนาสันต์ ถูกมัดมือมัดเท้าทิ้งหมกข้างทางเลียบมอเตอร์เวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบไทม์ไลน์ตามกล้องวงจรปิด ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา พบว่าเมื่อเวลา 22.08 น. บริเวณหน้าหมู่บ้าน ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ พบผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์ออกจากหมู่บ้าน จากนั้นเวลา 22.11 น. บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ สามแยก ซ.คลองอาเสี่ย จะเห็นผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าปากซอยจงศิริ และมีรถยนต์ของผู้ก่อเหตุขับติดตามรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต ต่อมาเวลา 22.13 น. บริเวณสามแยกถนนคลองอาเสี่ยคลอง กันยา – สิริพาร์คแลนด์ พบรถจักรยายนต์ของผู้เสียชีวิตขี่ผ่านบริเวณนี้ แต่สังเกตเห็นว่าคนขี่ไม่สวมหมวกกันน็อก ซึ่งคาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นคนขี่ จากนั้นพบรถยนต์ของผู้ก่อเหตุขับติดตามมา


เวลา 22.13 น. บริเวณสามแยก ซ.จงสิริ พบผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต มุ่งหน้า ถ.บางพลี-ตำหรุ จากนั้นพบรถยนต์ของผู้ก่อเหตุขับติดตามมา เวลา 22.15 น. บริเวณปากซอยจงสิริ พบผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต มุ่งหน้า ถ.บางพลี-ตำหรุ และยังพบรถยนต์ของผู้ก่อเหตุขับติดตามมา เวลา 22.18 น. บริเวณสี่แยกคลองขุด พบผู้ก่อเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต มุ่งหน้า ถ.บางพลี-ตำหรุ ขาออก เวลา 22.19 น. บริเวณจุดกลับรถ ถ.บางพลี-ตำหรุ พบผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต กลับรถบริเวณดังกล่าว มุ่งหน้า ถ.บางพลี-ตำหรุ ขาเข้า และเวลา 22.21 น. บริเวณจุดกลับรถ ถ.บางพลี-กิ่งแก้ว พบผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต มุ่งหน้า ถ.กิ่งแก้ว โดยมีรถยนต์ของผู้ก่อเหตุขับติดตามมา จนกระทั่งกลุ่มผู้ก่อเหตุขับออกจากพื้นที่สมุทรปราการ มุ่งหน้าเข้าเขตฉะเชิงเทรา

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อที่ 29 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 17.16 น. ตำรวจ สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุว่า มีเหตุคนเสียชีวิต บริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ช่วงกิโลเมตรที่ 41 ขาเข้ากรุงเทพฯ ม.10 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยร่างผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพถูกมัดมือและเท้า และถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด อยู่บริเวณข้างพงหญ้าริมกำแพงถนนมอเตอร์เวย์ แพทย์สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วัน

ในที่เกิดเหตุพบ น.ส.วรรณพร แสดงตัวเป็นภรรยาของผู้ตาย และยืนยันว่า ผู้ตายคือ นายธนาสันต์ พร้อมเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 22.00 น. ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ส่วนตัวออกจากบ้านพักย่าน ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพื่อเดินทางไปทำงานตามปกติ


ต่อมาได้รับแจ้งจากเพื่อนร่วมงานว่า สามีไม่ได้เดินทางไปทำงาน จึงพยายามติดต่อ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ต่อมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2567 ตนเองได้พูดคุยผ่านแชทไลน์ โดยผู้ตายส่งข้อความมาว่าขอเลิกรา โดยแจ้งเหตุผลว่าทำผู้หญิงคนอื่นท้อง ซึ่งจากลักษณะข้อความที่พูดคุย เชื่อว่าข้อความเหล่านี้ไม่ใช่ลักษณะการพูดคุยของสามี และจากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่ารถจักรยานยนต์และโทรศัพท์มือถือของสามีสูญหายไปด้วย ต่อมา พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. หัวหน้าคุมงานสืบสวนของ ตร. ได้รับทราบเรื่อง เห็นว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์ร้ายแรง และเชื่อได้ว่ามีผู้ก่อเหตุมากกว่า 1 คน มีการเตรียมการและวางแผนมาก่อน จึงสั่งเร่งคลี่คลายคดีดังกล่าว

ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ในคืนวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 21.14 น. กลุ่มคนร้าย จำนวน 5 คน รวมตัวกันที่อู่ซ่อมรถของ ช่างกิต ซึ่งตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน และพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้ก่อเหตุทั้งหมด จนทราบตัว นายกิตติโชติ หรือ ช่างกิต เป็นคนแรก และได้ขอศาลจังหวัดฉะเชิงเทราออกหมายจับ ก่อนจับกุมตัวช่างกิตได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมตรวจยึดรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ โดยช่างกิต ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันกับพวกก่อเหตุในครั้งนี้จริง ต่อมาตำรวจได้ทำการกดดันกลุ่มคนร้าย กระทั่งในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 10.00 น. นายนันทพัทธ์ หรือ โอ๊ต, นายปานเทพ หรือ แท็ป, นายสุขสงกรานต์ หรือ กรานต์ และ น.ส.อภิสรา หรือ นิว ติดต่อเข้ามอบตัว ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพ และคุมตัวชี้จุดที่นำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้งไว้ในคลองส่งน้ำ เขตพื้นที่ จ.สมุทรปราการ

ตำรวจแจ้งข้อหากลุ่มคนร้ายทั้งหมด “ปล้นทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรและความจำเป็นเร่งด่วนและโดยไม่มีใบอนุญาต และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน” ซึ่งมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต

นอกจากนี้ ในวันที่พบศพผู้ตาย ช่างกิต เป็นคนพา นส.วรรณพร ภรรยาผู้ตาย ไปดูที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งบ้านนายกิตติโชติ อยู่ไม่ไกลจากที่พบร่างผู้ตาย ส่วนชนวนเหตุสังหาร เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวน โดยมีรายงานว่า อาจมาจากเรื่องชู้สาว

ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.บางปะกง คุมตัว นายโบ๊ท หนึ่งในแก๊งอุ้มฆ่า และทำหน้าที่เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายออกมา หลังจากที่อุ้มผู้ตายขึ้นรถ แล้วยังเป็นหลานของช่างกิต ไปชี้จุดทิ้งอาวุธปืนและรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย บริเวณคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยประสานนักประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู กว่า 10 นาย ลงค้นหา พบรถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหาช่วยกันชำแหละก่อนนำมาโยนทิ้ง ส่วนอาวุธปืนที่กลุ่มผู้ต้องหายืนยันว่าทิ้งจุดเดียวกับที่พบรถนั้น ขณะนี้ยังไม่พบ ทีมนักประดาน้ำยังคงค้นหาต่อเนื่อง

ขณะที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.บางปะกง นำหมายศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าตรวจค้นบ้านใน ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านพักของนางวรรณพร ภรรยาของผู้ตาย เพื่อเก็บวัตถุพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจค้นประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับ พร้อมกับนำวัตถุพยานที่พบในบ้านไปตรวจสอบเพิ่มเติม

นางวรรณพร กล่าวว่า ขณะนี้ตนเองยังสภาพจิตใจแย่ และได้กล่าวเพียงสั้นๆ ยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่า ตนเองไม่เกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมสามี และยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นทุกอย่าง รายละเอียดให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว หลังทราบว่า นายกิต เป็นคนลงมือ ตนเองตกใจมาก ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ และเป็นพฤติกรรมที่ตนรับไม่ได้ ส่วนนิสัยใจคอนั้น ลึกๆ ตนเองไม่ทราบว่านายกิตเป็นคนแบบไหน เพราะเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของช่างกิต ในพื้นที่หมู่ 8 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยทีมพิสูจน์หลักฐานจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมชุดสืบสวนภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบหาวัตถุพยาน หาความเชื่อมโยงกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงวัตถุพยานอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง

จากการตรวจสอบในห้องพักของช่างกิต พบกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 6 นัด, เสื้อยืดสีเขียวแขนยาว จำนวน 1 ตัว ที่ใส่ไปในวันพบศพ, ครีม 1 กระปุก กับ 2 ขวดปั๊ม, สร้อยข้อมือเลส 1 เส้น, แหวนทองเหลือง 2 วง, ถุงเท้า 1 คู่, กล้องถ่ายรูป 1 ตัว, โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง, เคสโทรศัพท์ 4 อัน และกล่องใส่รองเท้า 1 กล่อง เจ้าหน้าที่จึงนำกลับไปตรวจสอบ เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุหรือไม่

สอบถาม ป้าอู๊ด อายุ 67 ปี พี่สาวแม่ของช่างกิต กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ตนนอนอยู่ด้านหลังของบ้านช่างกิต ไม่ได้ยินเสียงใดๆ และไม่มีใครมาหาที่บ้าน ตนไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้ยินเสียงปืน หรือมีเสียงคนทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น เมื่อถามว่ารู้จักกับน้องพร ภรรยาของผู้เสียชีวิตหรือไม่ ป้าอู๊ดตอบว่า ช่างกิตเคยพามาแนะนำให้รู้จัก แต่เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างช่างกิตกับน้องพรนั้น ป้าอู๊ดไม่ขอตอบในรายละเอียด ได้แต่ยิ้มแล้วเดินเข้าบ้านปิดประตูไป ส่วนเรื่องของการประกันตัว ต้องเป็นหน้าที่ของแม่ช่างกิต ที่จะต้องดำเนินการ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]