โซเชียลเดือด! วัยรุ่น 18 ทำร้ายเด็ก 14 ดับ โพสต์โชว์กร่าง พ่อรวยช่วยตลอด มั่นใจไม่ผิด

9 พ.ย. – คดีวัยรุ่นอายุ 18 ฆ่าเพื่อนรุ่นน้องวัย 14 ปี กำลังร้อนระอุ หลังผู้ก่อเหตุนำเรื่องราวดังกล่าวไปโพสต์โชว์กร่างในโซเชียลอย่างไร้สำนึก ล่าสุดถูกแจ้งข้อหาเจตนาฆ่าเพิ่มเติม


จากคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นของวัยรุ่น 18 ที่พูดถึงเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายเด็กชายวัย 14 ปี จนเสียชีวิต ซึ่งโลกโซเชียลกำลังให้ความสนใจจำนวนมาก ในคลิปวัยุร่น 18 ปี บอกว่า มั่นใจตัวเองไม่ผิด จึงไม่หนี บ้านผมรวย พ่อผมช่วยผมตลอด ถ้าอยากมีเรื่องกันก็ไปฟ้องศาลเอา แล้วให้ญาติผู้ตายไปหาหลักฐานมาว่าตัวเองผิดยังไง จะผิดก็แค่ทำร้ายร่างกาย โดนแค่ไม่กี่ปี

และยังอ้างว่า ตัวเองฉลาด รู้กฎหมาย งานศพก็ช่วยเท่าที่ไหว ช่วยมากสุด 2,000 แต่ไม่สน ทำไมจะต้องเสียเงิน ผมขายยา ขายปืน ตำรวจเอาเรื่องผมไม่ได้ หลักฐานไม่มี ตำรวจก็จับไม่ได้ ผมเป็นเด็กฉลาด ผมดูแลตัวเองได้ อายุ 18 โตแล้ว ไม่ต้องมาสอน


ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ได้ติดต่อสอบถามทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ซึ่งได้ให้ความเห็นว่า กรณี ของคดีวัยรุ่น 18 ปี ฆ่าเด็ก 14 ปี หากมีการปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยแล้ว และปรากฏมีคลิปเสียง และจำเลยวัยรุ่น 18 รายนี้ ไปพูดตามคลิปเสียงนี้ และโพสต์ในลักษณะว่า จะรอดคดี พ่อแม่ช่วย ตำรวจจับไม่ได้ มีทนายเขียนสำนวนดี รวมทั้งการโพสต์ในลักษณะท้าทายญาติฝ่ายผู้เสียชีวิตว่า ให้เวลา 3 วัน ถ้าสิ่งที่พูดทั้งหมดนี้ทำจริง แล้วมีการปล่อยตัวชั่วคราวไปแล้ว ประเด็นนี้ ขอให้พนักงานสอบสวนในคดี ไปร้องขอต่อศาลให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว เพราะมีลักษณะทั้งการดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และการยุ่งเกี่ยวกับหลักฐาน พยาน ข่มขู่พยาน หรือไม่

สำหรับประเด็นสำคัญ ในคดีเด็ก 18 ฆ่าเด็ก 14 มีอยู่ 7 ประเด็นสำคัญคือ วัยรุ่นอายุ 18 ปี ฆ่า เด็กอายุ 14 ปี วัยรุ่น 18 ปี บอกเด็กถือมีดออกมาก่อน พยานเห็นบอกเด็ก 14 ไม่ได้ถือมีด วัยรุ่น 18 ประกันตัวออกมา 20,000 เด็ก 18 ข่มขู่พี่เด็ก 14 วัยรุ่น 18 ไม่มีความสำนึกใด บอกตัวเองรวย ขายยา พ่อแม่สนับสนุน จะรอดคดี และวัยรุ่น 18 มั่นใจว่าไม่ผิด และจะช่วยงานศพ แค่ 2,000

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พ.ย. คลิปจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์วันเกิดเหตุ ขณะที่วัยรุ่นชายอายุ 18 ปี (เสื้อสีดำ) ตะโกนโวยวาย ก่อนเข้าไปทำร้ายเด็กชายอายุ 14 ปี ซึ่งอยู่หลังกล้องวงจรปิด ขณะคนที่เห็นเหตุการณ์พยายามเข้าไปห้ามปราม และนำตัวเด็ก 14 ส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายเด็กชาย 14 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาลระยอง เมื่อวันที่ 6 พ.ย.65 ด้วยอาการเลือดคั่งในสมอง


ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พ.ย.65 โลกออนไลน์ มีการติดแฮชแท็ก #เด็ก18ฆ่าเด็ก14 โดยมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากวัยรุ่นอายุ 18 ปี ถูกจับ เขาอ้างว่าฝ่ายผู้เสียชีวิตได้ถือมีดจะฟันตนเองก่อน จึงต้องป้องกันตัว จนถูกแจ้งข้อหาฆ่าคนตาย ต่อมามีคนไปประกันตัวที่โรงพักในวงเงิน 20,000 บาท และเมื่อได้ประกันออกมาแล้ว ก็มีการโพสต์สตอรี่ว่าตัวเองไม่ผิด และจะไปเที่ยวงานลอยกระทง ทำให้เกิดดราม่าต่างๆ ตามมามากมาย

ขณะที่เมื่อวานนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปงานสวดอภิธรรมศพ เด็กชายวัย 14 ปี พบกับญาติของเด็กชายที่อยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ พร้อมเล่าว่า ผู้ตายเป็นเพื่อนกับวัยรุ่น 18 ปี เคยมากินนอนเล่นด้วยกันอยู่ที่บ้านประจำ และไม่เคยคาดคิดว่าเด็ก 18 จะทำร้ายกันจนถึงขั้นเสียชีวิต ในวันเกิดเหตุคือวันที่ 3 พ.ย. 65 เวลาประมาณเที่ยงเศษ วัยรุ่นอายุ 18 ปี ขี่รถจักรยานยนต์มาที่บ้าน ก่อนเรียกเด็กชายอายุ 14 ปี ให้ออกไปพูดคุยกันบริเวณหน้าบ้าน

หลังจากออกมามีปากเสียงทะเลาะเสียงดัง จากนั้นวัยรุ่นอายุ 18 ปี กระโดดถีบเข้าหน้าอกเด็กชายอายุ 14 ปี ล้มลง แล้วใช้สายไฟฟาดตีซ้ำเข้าบริเวณศีรษะและตามร่างกาย จนเพื่อนบ้านและผู้เห็นเหตุการณ์เข้าไปห้ามปรามและแยกตัวออกจากกัน

จากนั้นเด็กชาย 14 ปี ได้เดินเข้าบ้าน ล้มฟุบลงกับพื้น ชักกระตุก วัยรุ่น 18 ปีจึงพาไปส่งศูนย์สาธารณสุขในหมู่บ้าน และต้องส่งต่อโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติมาบตาพุด แต่อาการสาหัส เนื่องจากเลือดคั่งในสมอง แพทย์จึงส่งต่อไปโรงพยาบาลระยอง พอไปถึงโรงพยาบาล แพทย์บอกว่า หลานชายสมองตายแล้ว และขอให้ญาติทำใจ จนวันที่ 6 พ.ย. 65 จึงเสียชีวิตในที่สุด

ส่วนสาเหตุทำร้าย คาดว่าน่าจะเกิดจากการเข้าใจผิดของแก๊งวัยรุ่น เพราะในพื้นที่ตำบลห้วยโป่ง มาบตาพุด มีแก๊งวัยรุ่น 2 กลุ่ม เป็นอริกัน คือ แก๊งกลุ่มเด็กห้วยโป่ง และแก๊งกลุ่มเด็กบ้านแขก หลานชาย อายุ 14 ปี มีเพื่อนอยู่ทั้ง 2 กลุ่ม และไปมาหาสู่กันประจำ

ขณะที่ผู้ก่อเหตุอายุ 18 ปี อยู่แก๊งกลุ่มเด็กห้วยโป่ง เกิดความไม่พอใจที่หลานชายอายุ 14 ปี ไปคบหากับแก๊งกลุ่มเด็กบ้านแขก ที่ผ่านมาเคยขู่จะทำร้าย หากยังคบกับแก๊งกลุ่มเด็กบ้านแขก พร้อมยื่นคำขาด อย่าเข้ามาในเขตห้วยโป่งเด็ดขาด ถ้าไม่เชื่อจะถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดทางญาติทราบเรื่องมาตลอด แต่ไม่คาดคิดว่าจะกล้าทำร้ายกันรุนแรงเช่นนี้

ทางครอบครัวจึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากตำรวจให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา เพราะผู้ก่อเหตุนำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์เหมือนเป็นการเยาะเย้ยและข่มขู่ทางครอบครัว ทั้งที่ตำรวจบอกว่าได้จับกุมตัวส่งศาลและเรือนจำแล้ว แต่เฟซบุ๊กของผู้ก่อเหตุก็ยังเคลื่อนไหว และโพสต์ข้อความในเชิงข่มขู่ครอบครัวของตน

หลังวัยรุ่น 18 ได้รับการประกันตัวออกไปในข้อหาทำร้ายร่างกายทำให้บาดเจ็บสาหัส เนื่องจากศาลเห็นว่าเป็นเด็ก แต่เมื่อผู้ก่อเหตุได้ประกันออกมาแล้ว ทางตำรวจเห็นพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุว่าไม่มีสามัญสำนึก และในวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้บาดเจ็บเสียชีวิต พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อเจตนาฆ่าเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านผู้ก่อเหตุ ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง พบกับแม่เลี้ยง พร้อมบอกว่า ไม่ขอพูดหรือยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ลูกเลี้ยงคนนี้ไม่มีงานทำ เรียนไม่จบ มาอาศัยอยู่กับพ่อที่บ้านหลังนี้ แต่ไม่ค่อยอยู่บ้าน ส่วนพ่อไปทำงาน หลังก่อเหตุและได้รับการประกันตัวออกมา ผู้ก่อเหตุมาบ้านเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน และอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้านทันที จนขณะนี้ยังไม่พบเห็นหน้า

อย่างไรก็ตาม ในส่วนคดี พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยโป่ง เจ้าของคดี ได้เรียกเพื่อนของผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในคลิป ใส่เสื้อยืดสีขาว นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากับผู้ก่อเหตุ โดยยอมรับว่าวันเกิดเหตุไปกับผู้ก่อเหตุจริง แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายผู้เสียชีวิต หลังจากสอบปากคำแล้วเสร็จ พนักงานสอบสวนปล่อยตัวไป

ส่วนกรณีการประกันตัวของผู้ก่อเหตุนั้น ผู้สื่อข่าวสอบถามกับนายประกันที่ศาลจังหวัดระยอง รายหนึ่ง ระบุว่า ศาลอนุญาตให้ประกันตัวออกไปจริงเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนที่คู่กรณีเด็ก 14 จะเสียชีวิต 1 วัน โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 20,000 ยื่นประกันตัว ศาลพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวออกไป ส่วนเหตุผล ศาลคงมีดุลยพินิจอยู่แล้วว่าข้อหาที่ผู้ก่อเหตุถูกแจ้งกล่าวหานั้น น่าจะเป็นข้อหาทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น ประกอบกับคาดว่าประวัติของผู้ก่อเหตุ ไม่เคยมีคดีติดตัว ศาลจึงอนุญาตให้ประกันตัว แต่ต้องติดกำไลอีเอ็ม แต่เนื่องจากในวันนั้นเป็นวันหยุด เจ้าหน้าที่ติดกำไลอีเอ็มไม่มี ศาลจึงนัดให้นายประกันซึ่งเป็นพ่อของเพื่อนผู้ก่อเหตุ นำตัวมาติดกำไลอีเอ็ม วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ หรือในวันพรุ่งนี้ ที่ศาลจังหวัดระยอง เวลาประมาณ 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวสอบถามพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุจากเพื่อนบ้านในชุมชนเดียวกันต่างระบุว่า วัยรุ่นคนดังกล่าวมีพฤติกรรมเกเร งานไม่ทำ และมักจะมีเรื่องก่อเหตุบ่อยครั้ง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]