ภูมิภาค 28 ก.ย. – เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำรับพายุโนรู ล้นคันกั้นน้ำท่วมหลายอำเภอใน จ.ชัยนาท และอ่างทอง ชาวบ้านเร่งย้ายของหนีจ้าละหวั่น
นี่เป็นผลมาจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้พังแนวกระสอบทรายในหมู่ 5 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและถนนหนทางจนสัญจรลำบาก ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง รวมถึงเสริมความแข็งแรงของเสาบ้าน เพื่อรองรับน้ำที่ไหลบ่าเข้ามาอย่างรวดเร็ว บางส่วนขนย้ายสัตว์เลี้ยงไปเลี้ยงบนถนน อย่างที่ อ.ไชโย ขนไก่ชนกว่า 30 ตัว มูลค่าหลายแสนบาท ไปเลี้ยงบนถนนเช่นกัน
ด้านนายณัฐเดช มุลาลี นายอำเภอป่าโมก บอกว่า เบื้องต้นแจ้งให้ชาวบ้านขนของขึ้นที่สูง เนื่องจากบริเวณนี้ไม่สามารถป้องกันได้แล้ว รวมทั้งได้ประสาน อบต. และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตั้งเต็นท์ เรือและอุปรณ์ต่างๆ ที่จะบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม คาดว่าคืนนี้น้ำจะมาเพิ่มอีก บางจุดกระสอบทรายไม่สามารถเสริมขึ้นสูงได้กว่านี้ เพราะพื้นดินด้านล่างจะทรุดตัว จึงต้องหาแนวทางป้องกันจุดที่ยังพอทำได้
ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน เพื่อเตรียมรับน้ำเหนือที่จากอิทธิพลของพายุโนรู ซึ่งจะทำให้ฝนตกหนักในพื้นที่ ล่าสุดบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบแล้วรวม 4 อำเภอ คือ อ.ป่าโมก อ.วิเศษชัยชาญ กว่า 833 หลังคาเรือน
ขณะที่สถานการณ์น้ำ จ.ชัยนาท หลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเตรียมรับน้ำหลากจากพายุโนรู ทำให้ระดับน้ำที่ อ.สรรพยา สูงขึ้น 32 เซนติเมตร ส่งผลให้บ้านเรือนที่อยู่ในที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำที่ถูกน้ำท่วมอยู่ก่อนแล้ว มีน้ำท่วมสูงขึ้นและกระจายวงกว้างมากขึ้น แต่ระดับน้ำยังอยู่ต่ำกว่าตลิ่ง 1.57 เมตร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ในพื้นที่ อ.สรรพยา ต่างนำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และขุดลอกวัชพืชในคลองระบายน้ำ เพื่อให้การระบายน้ำที่จะท่วมขังในพื้นที่ทำได้สะดวกรวดเร็วขึ้น
ขณะที่บ้านเรือนประชาชนบ้านงิ้ว ม.5 ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา ชาวบ้านต่างเร่งเก็บของขึ้นที่สูง และเร่งขนย้ายสิ่งของขนาดใหญ่ โต๊ะ ตู้ เตียง หนีน้ำไปฝากไว้ตามบ้านเพื่อนและบ้านญาติที่อยู่ในพื้นที่สูงกว่า และรีบนำรถยนต์ รถการเกษตร และอุปกรณ์ทำกิน หนีน้ำออกไปจอดไว้บนถนนคลองมหาราช
ลำปางอ่วม ประกาศหยุดเรียนกว่าสัปดาห์
ปริมาณน้ำในแม่วังที่สูงเป็นทุนเดิมก่อนหน้านี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจากอิทธิพลของโนรู ทำให้ในพื้นที่ลุ่ม อาทิ โรงเรียนต้นธงวิทยาอ.แม่พริก จ.ลำปาง น้ำทะลักเข้าท่วมภายในโรงเรียนทั้งหมด สูงเกือบ 1 เมตร จนต้องประกาศหยุดเรียนยาวไปตลอดสัปดาห์นี้ เนื่องจากต้องเตรียมสถานการณ์จากพายุโนรูด้วย
นายวัชระ สุยะลังกา ผู้อำนวยการโรงเรียนต้นธงวิทยา บอกว่า เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีที่จะต้องเจอกับอิทธิพลของพายุโนรูอีก จึงต้องหยุดเรียนชั่วคราวตลอดสัปดาห์ เพราะคาดว่าจะได้รับผลกระทบอีกระลอกแน่นอน ซึ่งในอดีตเมื่อ 10 ปี ก่อนเคยประสบภัยมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2554 แต่ไม่หนักมากเท่ากับครั้งนี้ ยังมีหมู่บ้านแม่เชียงรายลุ่ม ต.แม่พริก ที่ขณะนี้มีบ้านเรือนหลายหลังคาเรือนที่ได้รับผลกระทบน้ำวังไหลเข้าท่วม และเป็นหมู่บ้านเสี่ยงภัยระดับสีแดง ที่อาจจะต้องมีการอพยพคนออกมา หากเจอฝนตกหนักในช่วงพายุโนรู และน้ำวังเพิ่มขึ้นรวดเร็ว จะกระทบบ้านเรือนประชาชนนับร้อยหลังคาเรือน
ทุ่งบางระกำโมเดลยังรับน้ำไหว
สถานการณ์น้ำในทุ่งบางระกำโมเดล จ.พิษณุโลก ทุ่งรับน้ำหลากในช่วงฤดูฝนของชลประทาน ปีนี้สภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง แม้จะมองเห็นน้ำท่วมทุ่งไกลสุดลูกหูลูกตาเหมือนทะเลสาบ แต่ชาวบ้านไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากไม่ได้ท่วมเส้นทางคมนาคมทางบกที่เชื่อมระหว่างหมู่บ้าน
นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก บอกว่า สถานการณ์ทุ่งบางระกำ ซึ่งใช้เป็นพื้นที่รองรับน้ำ เกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวหมดแล้ว สามารถรองรับน้ำได้สูงสุด 400 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีการนำน้ำเข้าทุ่งบางระกำไปแล้ว คิดเป็นปริมาณน้ำประมาณ 240 ล้านลูกบาศก์เมตร ยังสามารถรองรับมวลน้ำที่จะหลากมาได้อีกประมาณ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นพื้นที่รองรับปริมาณมวลน้ำจากพายุโนรูที่จะเข้ามาในพื้นที่วันนี้ถึง 30กันยายนนี้ จากการวิเคราะห์ปริมาณฝนที่จะมามากในช่วงนี้ ยืนยันว่าทุ่งบางระกำยังรองรับน้ำไหว
มท.1 กำชับผู้ว่าฯ กลุ่มจังหวัดเสี่ยงทำแผนเผชิญเหตุ
วันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ประชุมทางไกลระบบ VDO Conference ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดเขตพื้นที่กลุ่มเสี่ยงได้รับผลกระทบจากพายุโนรู หลังปรับแผนกะทันหันไม่ไป จ.อุบลราชธานี เพราะสภาพอากาศปิด ไม่สามารถนำเครื่องบินลงจอดได้ โดยใกำชับให้เตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุ และตั้งศูนย์พักพิงเพิ่ม เพราะขณะนี้มีชุมชนที่ได้รับผลกระทบ 44 ชุมชน 4,100 คน ที่อพยพมาอยู่ศูนย์พักพิง ที่มีรองรับอยู่ 40 ศูนย์ จึงต้องเร่งตั้งศูนย์เพิ่ม
นอกจากนี้ยังลงพื้นที่บ้านวังพรม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เยี่ยมญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุถูกน้ำพลัดวานนี้ เนื่องจากน้ำในลำน้ำเข็กล้นตลิ่งไหลท่วมบ้านเรือนประชาชน พบว่ากระแสน้ำไหลเชี่ยว นอกจากนี้ยังได้พบปะประชาชนในพื้นที่หมู่7 บ้านวังพรม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เพื่อมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัย พร้อมสั่งผู้ว่าฯ เร่งสำรวจความเสียหายนาข้าว และซ่อมบ้านที่เสียหายจากน้ำท่วม หวังปีหน้าน้ำไม่ท่วม
กทม.เร่งเสริมกระสอบทรายกั้นน้ำท่วม
กทม. เร่งบรรจุกระสอบทรายสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมเพิ่มเติมกว่า 2.5 ล้านใบ ในเขตลาดกระบัง หนองจอก ประเวศ รวมทั้งเสริมแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา และจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย
