ยันไม่เคยแทรกแซงการทำงานคมนาคม

รัฐสภา 20 ก.ค.- “ศักดิ์สยาม” แจงยิบ 4 ประเด็นซักฟอก ยันไม่เคยแทรกแซงการทำงานของคมนาคม รับพ่อเคยเช่าที่เขากระโดง แต่คนละแปลงกับที่สมาชิกอภิปราย ส่วนกรณีไม่แจงขายหุ้น เพราะดำเนินการก่อนรับตำแหน่ง


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงประเด็นที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ตนสรุปได้ว่ามีการอภิปรายใน 4 ประเด็น โดยประเด็นแรก เกี่ยวข้องกับที่ดินของการรถไฟที่เขากระโดง ประเด็นที่ 2 คือ ประเด็น การขายหุ้นของ หจก. บุรีเจริญ ว่าเป็นนิติกรรมอำพราง ประเด็นที่ 3 คือประเด็นที่มีการกล่าวหาว่ามีการจัดสรรงบประมาณของหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ไปที่จังหวัดบุรีรัมย์มากผิดปกติ และประเด็นสุดท้าย คือประเด็นของการวางแผน MR map ว่าเป็นการลงทุนที่ซ้ำซ้อน

นายศักดิ์สยาม ชี้แจงในประเด็นที่ดินเขากระโดงว่า ประเด็นดังกล่าวได้ถูกหยิบยกมาอภิปรายหลายครั้งแล้ว ซึ่งปัญหาที่ดินเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน มีข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐและประชาชนในบริเวณนั้น ตั้งแต่ปี 2502 และอยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิ์ของกรมที่ดิน และการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยต้องมีการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง และขอยืนยันว่า ตนไม่เคยแทรกแซงการทำงานของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม และสั่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายมาโดยตลอด และยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจ ว่าตนเป็นเพียงผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่ เพราะทุกอย่างต้องอยู่ในกระบวนการพิสูจน์สิทธิ และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย


“ข้อกล่าวหาว่าแทรกแซงการทำงานของหน่วยงานในสังกัด การรถไฟ ยืนยันว่า ได้สั่งการให้การทำงานของการรถไฟยึดหลักการดำเนินการตามกฎหมายและหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด และจะต้องมีการดำเนินการในสิ่งที่กำกับดูแลอย่างชัดเจน จึงได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์การบริหารพื้นที่ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยในหนังสือสั่งการในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงนามให้สั่งการให้การรถไฟ แก้ไขปัญหาทางที่ดินรถไฟบริเวณเขากระโดง โดยให้มีการติดตามความก้าวหน้า และดำเนินการตามกฎหมายและหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด โดยให้ปฏิบัติด้วยการเท่าเทียมเสมอภาคและโปร่งใส ซึ่งมีการลงนามในเอกสารที่ปรากฏ” นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า ในฐานะที่หน่วยงานการรถไฟเป็นหน่วยงานของรัฐ การที่จะให้รถไฟไปฟ้องร้องกับประชาชนที่มีเอกสารสิทธิ์ ออกโดยชอบ โดยหน่วยงานของรัฐ ไม่เป็นธรรมต่อประชาชน แต่สิ่งที่การรถไฟจะต้องดำเนินการตามมาตรฐาน คือจะต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงคือการพิสูจน์สิทธิ์ ซึ่งขณะนี้การรถไฟเชื่อว่า การออกเอกสารสิทธิ์ของกรมที่ดินมีความคลาดเคลื่อน จึงขอให้กรมที่ดินพิจารณาตามกรอบอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกทับซ้อนในที่ดินของการรถไฟ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มีคำร้องไปยังศาลปกครอง เพื่อให้มีกระบวนการในการวินิจฉัยในเรื่องนี้

ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่า เหตุใดการรถไฟจึงต้องฟ้องแย่งศาลปกครองนั้น นายศักดิ์สยาม ระบุว่า “ทางการรถไฟได้รายงานว่า เพราะศาลปกครองกลางสามารถมีคำสั่งให้เพิกถอนที่ดินทั้งแปลงตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 61 ได้ และจะทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและรัดกุม ซึ่งจะทำให้ไม่มีที่ดินส่วนใดส่วนหนึ่งตกหล่น รวมทั้งระยะเวลาในการพิจารณาจนเสร็จสิ้นกระบวนการมีเพียง 2 ศาล คือ ชั้นศาลปกครองกลางและชั้นศาลปกครองสูง ซึ่งเรื่องนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ใช้สิทธิ์ทางศาล ยื่นฟ้องกรมที่ดินในฐานะนายทะเบียนต่อศาลปกครอง ขณะนี้ได้มีคำวินิจฉัยรับคำร้องไว้พิจารณาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นเรื่องนี้เมื่อเข้าสู่กระบวนการการพิจารณาของศาล จะต้องรอคำวินิจฉัยว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร” หากศาลวินิจฉัยออกมาอย่างไรก็ให้ปฏิบัติไปตามนั้น


นายศักดิ์สยาม กล่าว่า สำหรับเรื่องการพิสูจน์สิทธิ ในการยื่นต่อศาลปกครองกลาง มีเรื่องที่เป็นประเด็นที่มีสมาชิกอภิปราย พาดพิงถึงบุคคลที่ตนเคารพที่สุดในชีวิต คือพ่อของตนคือ นายชัย ชิดชอบ ซึ่งวันนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว ว่าจริง ๆ แล้วพ่อของตนเคยเช่าที่ดิน ซึ่งที่ดินที่พ่อดำเนินการ เป็นที่ดินของการรถไฟจริง แต่เป็นที่ดินคนละแปลงกับที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 3466 ติดกัน แปลงที่สมาชิกได้หยิบยกขึ้นมานั้นเป็นแปลงที่เป็นที่ดินของการรถไฟ พ่อของตนก็ได้ไปขอทำสัญญาอาศัยที่ดินดังกล่าว มีเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ 1 งาน 48 ตารางวา โดยมีการทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2516 ส่วนที่ดินแปลงที่ดิน หมายเลข 3466 มีเนื้อที่ 7 ไร่ 1 งาน 55.8 ตารางวา โดยมีการยื่นออกเอกสารสิทธิ์จากกรมที่ดิน มีการรับรองแนวเขตจากผู้ที่มีสิทธิ์ข้างเคียง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟไปรับรองแนวเขตให้ด้วย

นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวว่า ส่วนประเด็นการขายหุ้นห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ น่าสงสัยว่าเป็นการซื้อขายปลอม ไม่มีหลักฐานว่ามีการซื้อขายจริง แต่เป็นในลักษณะนิติกรรมอำพราง เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ประโยชน์ในกานวันที่ 16 มกราคม 2561 โดยได้มีการโอนเงินเสร็จเรียบร้อยมีหลักฐานยืนยันจากธนาคารธนชาตสาขาบุรีรัมย์ มีการโอนเงิน 3 ครั้ง ครั้งแรกวันที่ 2 เดือนสิงหาคม 2560 จำนวน 35 ล้านบาท จากธนาคารธนชาต สาขาบางบัวทอง ครั้งที่ 2 วันที่ 5 เดือนกันยายนปี 2560 จำนวนเงิน 35 ล้านบาทจากธนาคารธนชาตสาขาบางบัวทอง และครั้งสุดท้ายโอนเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2561 จำนวนเงิน 49,500,000 บาท จากธนาคารธนชาตสาขาบางบัวทอง โดยมีนายศุภวัฒน์เป็นผู้โอน รวมจำนวนเงิน 119,119,500,000 บาท ซึ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นที่มีการดำเนินการซื้อขายจริง และมีการจด เปลี่ยนหนังสือรับรองของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าของกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 28 มีนาคมปี 2561 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญอีกเลย เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผู้ถือหุ้นหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญไปดำเนินธุรกิจธุรกรรมอะไรก็เป็นเรื่องของเขา ซึ่งตนเขาไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง หากมีข้อสงสัยอะไรคงต้องไปสอบถามจากทาง หจก. บุรีเจริญ

ขณะที่ประเด็นข้อซักถามว่า ทำไมการจดการขายซื้อหุ้นครั้งนี้จึงไม่มีการยื่นหลักฐานไปที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้วย ขอยืนยันว่า เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่า กรณีที่ต้องยื่นมีเรื่องเดียวเพียง มีการเพิ่มการลงทุนหรือจดใหม่ ส่วนที่มีการโอนหุ้นและซื้อขายถูกต้องไม่จำเป็นต้องยื่น

“ยืนยันว่า มีหลักฐานทั้งหมด เพราะฉะนั้นจะต้องเรียนว่าตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ ของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ ส่วนเงินที่ได้จากการซื้อขายหุ้นก็เป็นเรื่องส่วนตัวของตนจะนำไปใช้อะไร ตนคิดว่าคงไม่ต้องรายงานต่อสมาชิก” นายศักดิ์สยาม กล่าว

ส่วนเหตุใดจึงไม่มีการรายงานเป็นบัญชีทรัพย์สินต่อไปนั้น นายศักดิ์สยาม ชี้แจงว่า กิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นระหว่างที่ตนยังไม่เข้าสู่ตำแหน่ง ตนเข้าสู่ตำแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมปี 2562 และตามกฎหมาย จะต้องมีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินที่มีในขณะนั้นภายใน 30 วัน โดยมีการแจ้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีการที่แจ้งในเอกสารดังปรากฏและประกาศเป็นการเปิดเผยจากทาง ป.ป.ช. สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนไม่ได้อยู่ในข้อบังคับที่จะต้องมาชี้แจง

ส่วนการตั้งประเด็นว่า งานของกระทรวงคมนาคมโครงการต่าง ๆ มีการประมูลงานที่เป็นลักษณะของการฮั้วประมูล นายศักดิ์สยาม ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงและเป็นไปไม่ได้ ตั้งแต่ตอนเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ให้นโยบายกับข้าราชการของกระทรวงคมนาคมในการปฏิบัติงานอยู่ 4 ข้อ คือ ต้องปฏิบัติงานให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายต้องถูกต้องตามมติครม ต้องเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพราะฉะนั้น ข้อกล่าวหาที่มีการฮั้วประมูลงานของกระทรวงคมนาคมเป็นไปไม่ได้

ส่วนข้อกล่าวหาที่มีการจัดงบประมาณของกรมทางหลวงชนบทและกรมทางหลวง ไปยังจังหวัดบุรีรัมย์มากผิดปกตินั้น นายศักดิ์สยาม ชี้แจงว่า ในสิ่งที่ดำเนินการในการจัดทำงบประมาณ พิจารณาในเรื่องขอตั้งงบประมาณที่มีการดำเนินการของกระทรวงคมนาคมในเรื่องกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ย้อนหลัง 10 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557 ถึงปี 2566 โดยปี 2566 ไม่ยังไม่มีการจัดสรรงบประมาณ อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะพบว่าการของบประมาณของกระทรวงคมนาคมเราขอไปมาก แต่จะได้รับการจัดสรรเพียงไม่เกิน 1 ใน 3 ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีทั้งเรื่องของการจัดตั้งงบประมาณที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นงบผูกพัน การจัดตั้งงบประมาณขนาดเล็กหรืองานปีเดียว โดยการพิจารณาจัดสรรงบประมาณกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทจะเป็นผู้เสนอโครงการที่มีความพร้อมในการดำเนินการและมีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งมีการตรวจสอบและศึกษามาอย่างดีมายังกระทรวง โดยกระทรวงจะมีคณะทำงานดูเรื่องนี้ ก่อนที่เรื่องจะมาถึงตนและตนจะพิจารณาสอบถามว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ความจำเป็นหรือไม่ ก่อนที่จะลงนำเสนอไปยังสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณา ทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการไม่มีเรื่องที่จะสามารถไปสั่งได้

ส่วนที่บอกว่างบประมาณเป็นกระจุกตัวที่จังหวัดบุรีรัมย์นั้น นายศักดิ์สยาม ชี้แจงว่า 10 ปีที่ผ่านมาจังหวัดบุรีรัมย์ มีงบของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ดำเนินการในพื้นที่หากเปรียบเทียบย้อนหลัง จะเห็นได้ว่าจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดใหญ่ๆอย่างนครราชสีมา นครปฐม จังหวัดอื่น ๆ ได้รับงบประมาณจัดสรรมากกว่าจังหวัดบุรีรัมย์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]