ปลัดกห.ยันต้องรายงานใช้งบลับทุก 3 เดือน

รัฐสภา 18 ก.ค. -ปลัดกลาโหม ยัน กองทัพเริ่มนโยบายลดกำลังพลมาตั้งแต่ปี 63 ตั้งเป้าลดอัดตราผู้ทรงคุณวุฒิ 50% ภายในปี 70 ใช้จ่ายงบลับในภารกิจงานข่าว–ยาเสพติด ต้องรายงาน รมว.กห.ทุก 3 เดือน แจง ซื้อ “ยูเอวี” ตามขั้นตอน


พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ชี้แจงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยยืนยันว่า ทุกเหล่าทัพมีนโยบายชัดเจนเรื่องการลดกำลังพล โดยเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 และตั้งเป้าว่าภายในปี 2570 อัตราผู้ทรงคุณวุฒิจะต้องลดลงครึ่งหนึ่ง ขณะที่กำลังพลทั่วไปจะลดลง 5% ของอัตราบรรจุจริง ขณะนี้ทุก 3 เดือน กระทรวงกลาโหมสั่งการให้ทุกเหล่าทัพรายงานกรอบอัตรากำลังพล เพื่อให้นโยบายดังกล่าวบรรลุผล

ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การรับสมัครตั้งแต่นักเรียนนายสิบถึงนักเรียนนายร้อย นายเรือ และนายเรืออากาศ ปรับลดจำนวนลงตามลำดับ ขณะเดียวกันการจัดวางอัตรากำลังพล ซึ่งใช้กรอบการจัดตั้งตามมาตรฐานแบบตะวันตก ซึ่งมีกำหนดไว้ชัดเจนว่า 1 กองพลต้องมีกี่กองร้อย และ 1 กองร้อยต้องมีกี่คน ปัจจุบันการบรรจุจริงไม่เกิน 60% ของอัตราคือไม่ได้บรรจุเต็มร้อย ยกเว้นในอนาคตหากมีสถานการณ์ จึงจะพิจารณาตามสถานการณ์


“สำหรับประเด็นการเกณฑ์ทหาร ยืนยันว่า ลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่น ปีนี้เรียกประจำการเพียง 8 หมื่นคนเศษ เพราะกองทัพได้พิจารณาตามเหตุผลและความจำเป็น เนื่องจากการนำทหารเข้าประจำการ ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายเรื่องเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เบ็ดเตล็ดด้วย เช่น ค่าเครื่องแบบและเครื่องแต่งกาย เป็นต้น” พล.อ.วรเกียรติ กล่าว

ปลัดกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า กองทัพบกเดินหน้านโยบายสมัครใจเข้าเป็นทหารผ่านระบบออนไลน์ และเปิดโอกาสให้ทหารประจำการสมัครเข้าเป็นนักเรียนนายสิบได้ถึง 80% ส่วนข้อถามถึงคุณภาพชีวิตและสิทธิของทหารที่เข้าประจำการ ยืนยันว่า ทหารที่ถูกเรียกเข้าประจำการจะได้รับการศึกษาและการฝึกอาชีพ และยังมีรายได้ทั้งเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงเพียงพอให้ทหารส่งให้ครอบครัวได้ ส่งผลให้ปัจจุบันมีตัวเลขทหารที่ปลดประจำการ และขอสมัครต่อ ซึ่งกองทัพจะพิจารณาอนุญาตให้คราวละ 1 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปีต่อเนื่องอยู่ทุกปี

พล.อ.วรเกียรติ ชี้แจงประเด็นเงินรถประจำตำแหน่งว่า เป็นการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงกลาโหม และจ่ายให้เฉพาะผู้ที่อยู่ในตำแหน่งระดับรองนายพล ที่เทียบเคียงตำแหน่งรองเจ้ากรมขึ้นไป ไม่ได้จ่ายให้กับพันเอก (พิเศษ) ทุกคน โดยอัตราการจ่ายตามตำแหน่งต่าง ๆ ระบุชัดประกอบด้วยตำแหน่ง พันเอก (พิเศษ) เทียบรองเจ้ากรม ได้รับค่ารถประจำตำแหน่ง 25,400 บาทต่อเดือน ตำแหน่งเทียบเท่าพลตรี แต่ต้องอยู่ในตำแหน่งหลัก ได้รับ 31,800 บาทต่อเดือน และตำแหน่งพลโทและพลเอก แต่ต้องอยู่ในตำแหน่งหลัก ได้รับ 41,000 บาทต่อเดือน


ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า งบประมาณสำหรับรถประจำตำแหน่งไม่ใช่ รถประจำตำแหน่ง แต่เป็นรถควบคุมสั่งการทางการสื่อสาร ซึ่งใช้ในด้านยุทธการและใช้งบปกติ ไม่ใช่งบลับ ซึ่งก่อนจัดหาต้องตกลงกับสำนักงบประมาณด้วย ส่วนกรณีการซื้อยูเอวี ตรวจการชายฝั่งกองทัพเรือ ยืนยันว่า เป็นไปตามระเบียบ เพราะหากใช้จ่ายงบประมาณเกิน 500 ล้านบาทจะต้องขออนุมัติที่กระทรวงกลาโหม ซึ่งตนในฐานะปลัดกระทรวงจะดูว่าเป็นไปตามขั้นตอน และผ่านความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมพระธรรมนูญ หรือสำนักงบประมาณของกระทรวงกลาโหมหรือไม่

“ส่วนข้อซักถามกรณีนโยบายซื้ออาวุธ ควบคู่เทคโนโลยี กองทัพบรรจุไว้เป็นนโยบายในการต่อรองซื้ออาวุธ และพยายามทำเต็มที่แต่ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่า บางครั้งคู่สัญญาก็กำหนดเช่นกันว่า หากซื้อทั้งสองอย่าง ก็อาจจะต้องใช้งบเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า แต่ยืนยันกองทัพเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ หรือผลิตเพื่อส่งขายผ่านหน่วยนงานต่าง ๆ เช่น ศูนย์อำนวยการซ่อมสร้างอาวุธ หรือสถานบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ที่พยายามดำเนินการอยู่” ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าว

พล.อ.วรเกียรติ กล่าวถึงปัญหาผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาที่ตกค้างอยู่ในศูนย์อพยพกว่า 30 ปีว่า เงื่อนไขการเดินทางกลับของผู้อพยพคือไม่สามารถเลือกพื้นที่ในเมียนมาได้ จึงทำให้ไม่สามารถกลับไปในถิ่นฐานเดิมได้ และเมื่อไปอยู่ในถิ่นฐานใหม่ที่ทางเมียนมากำหนดให้แล้วรู้สึกไม่พอใจ ทำให้ผู้อพยพรายอื่น ๆ ไม่สมัครใจจะเดินทางกลับไปเพิ่มขึ้น

“ส่วนประเด็นเครื่องบินเมียนมารุกล้ำ มีรายละเอียดที่ผู้บัญชาการทหารอากาศจะชี้แจงในโอกาสต่อไป แต่สำหรับภาพรวมของกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า ในส่วนของฝ่ายความมั่นคงได้ดำเนินการทุกระดับตั้งแต่รูปแบบคณะกรรมการชายแดน ไปจนถึงคณะกรรมการนโยบายหรือ HLC ซึ่งกลไกต่าง ๆ เหล่านี้ กระทรวงกลาโหมยืนยันจะดำเนินการให้ดีที่สุด เพื่อรักษาความสัมพันธ์ เนื่องจากเมียนมาและไทยมีพรมแดนติดกันยาว 2 พันกว่ากิโลเมตร” ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าว

พล.อ.วรเกียรติ ชี้แจงถึงประเด็นงบราชการลับว่า เป็นเรื่องที่มีความจำเป็น ในการรักษาความมั่นคง ซึ่งเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. 2547 ที่กำหนดภารกิจไว้ 4 ประเภท เช่น งบด้านความมั่นคง งบเกี่ยวเสพติดและการข่าว เป็นต้น โดยทุก 3 เดือนจะต้องเสนอรายงานการใช้จ่ายให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับทราบ ขณะเดียวกันเมื่อปี 2564 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้กำหนดหลักเกณฑ์การตรวจงบลับเพิ่มเติมต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้ ผู้ว่าฯ สตง.ได้เข้าพบผู้บริหารเหล่าทัพต่าง ๆ เพื่อแจ้งหลักเกณฑ์ และจะเริ่มต้นเข้ามาตรวจงบลับของกองทัพตั้งแต่ปี 2566 ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]