ท่าช้าง 8 มิ.ย.-นายกฯ เปิดท่าเรือท่าช้าง-สาทร เชื่อมต่อระบบล้อ ราง เรือ ยกระดับความปลอดภัย มุ่งให้ประชาชนได้รับความสะดวก ประหยัด รวดเร็วในการเดินทาง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดท่าเรือท่าช้าง–สาทร “SMART PIER SMART CONNECTION” โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม หน่วยงานราชการ ประชาชนในพื้นที่ร่วมพิธี โดยมี ส.ส.ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ มารอต้อนรับ อาทิ น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันติ และ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์
นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมศูนย์บริการร่วมคมนาคม บริเวณท่าเรือสาทร ซึ่งเป็นศูนย์รวมการให้บริการด้านคมนาคมแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป โดยมี 19 หน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคม ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางรางมาให้บริการประชาชน ณ จุดเดียวกันแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร โดยนายกรัฐมนตรีได้ทดสอบระบบ และสอบถามปัญหา อุปสรรคการทำงาน พร้อมกล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ขอให้เรียนรู้ พัฒนาการทำงานให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีปัจจุบัน เน้นย้ำให้บูรณาการการทำงานเชื่อมโยงข้อมูลของทุกกระทรวง เพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้มาใช้บริการ สามารถเข้าถึงบริการภาครัฐแบบครบวงจรตามนโนยบายของรัฐบาลที่ต้องการเสริมเสริมให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล
จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ นั่งเรือไฟฟ้าออกเดินทางจากท่าเรือสาทรไปยังท่าเรือท่าช้าง เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจมุ่งมั่นขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งทุกรูปแบบของประเทศให้เจริญก้าวหน้า ทันสมัย การยกระดับท่าเรือในวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมากพอสมควร สร้างประโยชน์ต่อส่วนรวม ประเทศชาติและประชาชน หลากหลายมิติ และยังสอดคล้องกับแผนงานของรัฐบาลที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานทางระบบขนส่ง ให้เชื่อมโยงระบบ ล้อ ราง เรืออย่างมีประสิทธิภาพ ทันสมัย รวดเร็ว ปลอดภัย เป็นไปตามมาตรฐานสากล อำนวยความสะดวกให้ทุกคน ทุกกลุ่มเข้าถึงโอกาส และมีทางเลือกในการเดินทาง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของประชาชน ลดความแออัดบนท้องถนน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดพลังงานคาร์บอนฯ จึงต้องปรับทุกอย่างเป็นระบบไฟฟ้า ทั้งเรือไฟฟ้าและรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตให้ได้ 30% ภายในปี 2030
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คาดว่าการสร้างสถานีเรือจะสำเร็จในปี 2570 จำนวน 29 สถานีเรือ นอกจากนี้ยังถือเป็นการต่อยอดการลงทุน สร้างงาน สร้างอาชีพ เป็นห่วงโซ่ต่อทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม ที่สำคัญยังส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวริมฝั่งเจ้าพระยาด้วย อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าประเทศไทยพร้อมจะเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตอันใกล้ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
“ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่รัฐบาลเพียงอย่างเดียว แต่มาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนและประชาชน ประเทศไทยยังมีสิ่งที่ดีอีกมาก โดยเฉพาะซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งหากภูมิภาคของเรามีความสงบและมีเสถียรภาพ จะเพิ่มโอกาสต่าง ๆ ได้มากขึ้น บ้านเมืองต้องอยู่ในความสงบเรียบร้อย รัฐบาลมีเสถียรภาพ ประชาชนรักสามัคคี ไม่แบ่งแยก รัฐบาลจำเป็นต้องหารายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากการท่องเที่ยว ยืนยันจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด เพราะรัฐบาลเห็นใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งนับเป็นความเจ็บปวดในขณะนี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนที่มารอต้อนรับ ได้นำดอกกุหลาบและกระเช้าของที่ระลึกมอบให้กับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวสอบถามกรณีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไม่มาร่วมต้อนรับนายกรัฐมนตรีในงานนี้ ซึ่งตามปกติแล้วผู้ว่าฯ กทม.จะมาให้การต้อนรับในงานลักษณะนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ผมไม่รู้จะตอบอย่างไร สงสัยท่านไม่ว่างมั้ง”
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าได้อ่านที่ประชาชนใช้ถ้อยคำหยาบคายแสดงความเห็นในเพจประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan -O -Cha หรือไม่ โดยนายกรัฐมนตรีส่ายหน้า ไม่ตอบคำถามดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย
