เพื่อไทย ชี้“ประยุทธ์”แจงเหมืองทองอัครา ไร้แก่นสาร

พรรคเพื่อไทย 21 ก.พ.- “จิราพร เพื่อไทย” เปิด 6 พฤติกรรม “ประยุทธ์” ชี้แจงประเด็นเหมืองทองอัคราไร้แก่นสาร ระบุ รัฐเลิกโยนความผิดรัฐบาลไทยรักไทย เหตุบริษัทเหมืองทองจัดตั้งในไทยก่อน รัฐบาลทักษิณ


น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญปี 2560 ถือเป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านต่อรัฐบาลในการตรวจสอบถ่วงดุลของฝ่ายนิติบัญญัติต่อฝ่ายบริหารตามวิถีทางในการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ฝ่ายค้านได้ซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี และเป็นโอกาสที่ประชาชนจะได้รับฟังคำชี้แจงเหตุผลในเรื่องที่ถูกอภิปราย โดยในประเด็นเรื่องเหมืองทองอัครา ได้ถูกนำมาเปิดเผยในสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้ง รวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมี 6 พฤติกรรมที่การชี้แจงหรือตอบคำถามดังนี้ พฤติกรรมที่ 1 คือ ตอบเหมือนเดิม พรรคเพื่อไทยหยิบยกเรื่องนี้อภิปรายรวม 4 ครั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรี ที่ลุกมาตอบคำถามแทน กลับยังใช้ข้อมูลชุดเดิมที่ไม่ฟังขึ้น มาชี้แจงซ้ำซาก เช่น เมื่อถูกตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของการใช้ ม.44 ก็จะตอบแบบแผ่นเสียงตกร่องว่า การใช้ ม.44 เพื่อปกป้องประชาชนในเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เคยย้ำถึงจุดยืนของเราหลายครั้งแล้วว่า เราเห็นด้วยที่รัฐบาลจะเข้าไปดูแลปกป้องประชาชนในเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม แต่ต้องใช้กฎหมายปกติ เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการใช้ ม.44 เข้าไปจัดการ เพราะได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศเพิ่มขึ้น สุดท้ายต้องเปิดเหมืองคืนให้กับบริษัทอัคราฯ และยังให้พื้นที่สำรวจแร่ทองคำเพิ่มอีกมหาศาล ประชาชนที่เคยเรียกร้องให้ปิดเหมืองวันนี้ก็คงจะงงงวยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ดีใจได้เพียง 5 ปีเศษ นึกว่าจะไม่มีการทำเหมืองแล้ว กลับกลายเป็นว่าตอนนี้มีแนวโน้มที่พื้นที่ทำเหมืองจะเยอะกว่าเดิมหลายเท่าตัว พฤติกรรมที่ 2 เลือกตอบบางคำถามแต่ตอบไม่ตรงคำถาม ซึ่ง ตนเองได้ซักถามว่าเหตุใดถึงมีการเลื่อนออกคำชี้ขาดไปหลายครั้ง ได้รับคำตอบโดยอ้างว่าเพราะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ข้อเท็จจริงคือ การไต่สวนและสืบพยานหลักฐานของคดีเหมืองทองอัครา จบไปตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 คณะอนุญาโตตุลาการพร้อมอ่านคำชี้ขาดแล้ว แต่มีการขอเลื่อนการอ่านคำชี้ขาดจึงยังไม่ได้มีการตัดสิน และบริษัทคิงส์เกตฯ ยังแจ้งในแถลงการณ์ต่อตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564 เองว่า ไทยกับคิงส์เกตฯ ขอเลื่อนการออกคำชี้ขาดไปเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้เจรจาหาข้อยุติข้อพิพาทกัน และยังระบุด้วยว่ากำลังเจรจาต่อรองกันทั้งหมด 11 รายการ อีกด้วย จะเห็นว่าทั้งๆ ที่มีหลักฐานเอกสารชัดเจนแต่ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีที่ลุกขึ้นชี้แจงแทนก็ยังยืนยันเสียงแข็งปฏิเสธ แบบนี้ถือว่าเป็นการพูดเท็จกลางสภาฯ หรือไม่ พฤติกรรมที่ 3 ไม่ตอบคำถาม เนื่องจากสิ่งที่คนไทยอยากรู้มากที่สุดคือ ไทยถูกบริษัทคิงส์เกตฯ ฟ้องร้องในประเด็นใดบ้างและเรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ และถ้าไทยแพ้คดีใครต้องเป็นคนรับผิดชอบ พล.อ.ประยุทธ์ หรือ ประเทศ ซึ่งคนไทยทั้งประเทศอยากฟังจากปากพล.อ.ประยุทธ์ แต่การเปิดเผยคำฟ้อง ซึ่งเป็นเอกสารปกติ ไม่ใช่ความลับ พล.อ.ประยุทธ์ กลับไม่มีความกล้าหาญมากพอที่จะเปิดเผยกับประชาชน เหตุที่ปิดเพราะละอายต่อสิ่งที่ตัวเองทำผิดพลาดมหันต์ ใช่หรือไม่ แต่ถึงแม้พล.อ.ประยุทธ์ จะละอายต่อความผิดพลาดตัวเอง แต่ก็ไม่ได้เกรงกลัวต่อบาป ยังจะมีพฤติการณ์เอาทรัพย์สมบัติชาติไปแลกให้มีการถอนฟ้อง ซึ่งเดิมมีคดีพิพาทในพื้นที่แค่ 3,000 กว่าไร่ แต่ตอนนี้พอเกิดคดีพิพาทและคดียังไม่จบ แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กลับรีบอนุมัติคืนพื้นที่ 3,000 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นของกลางอยู่ ให้บริษัทอัคราฯ กลับไปดำเนินการได้แล้ว และยังได้พื้นที่สำรวจเพิ่มกว่า 400,000 ไร่ และจ่อจะอนุญาตคำขอประทานบัตรทำเหมืองแร่อีก 600,000 ไร่ รวมเป็นกว่า 1 ล้านไร่ ซึ่งในห้วง 1 ปีที่ผ่านมาตรวจสอบแล้วพบว่า บริษัทอัคราฯ เป็นบริษัทเดียวที่ได้รับการอนุญาตให้สำรวจแร่ในพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย พฤติกรรมพฤติการณ์แบบนี้ทำให้ยิ่งน่าสงสัยจนไม่มีใครเชื่อสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงแล้ว ทั้งยังมีอีกประเด็นในเรื่องของที่ดินที่รออนุมัติคำขอประทานบัตร 600,000 ไร่ ยังมีพื้นที่ทับซ้อนกับเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง และเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งซ้าย จ.พิษณุโลก อีกด้วยน.ส.จิราพร ยังกล่าวว่า พฤติกรรมที่ 4 คือ ให้คนอื่นตอบคำถามแทน ซึ่งพฤติกรรมนี้ คล้ายกับเหตุการณ์เมื่อครั้งมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งล่าสุดกรณีการทุจริตวัคซีนซิโนแวค พล.อ.ประยุทธ์ใช้วิธีให้ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขออกมาแถลงข่าวตอบคำถามแทนรัฐบาล ส่วนรอบนี้ ให้ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐมาอภิปรายชี้แจงแทน ซึ่งตามหลักการแล้วการยื่นญัตติ ม.152 เป็นการยื่นญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่ออภิปรายซักถามและเสนอแนะปัญหาต่อนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ซึ่งวันนั้นปรากฏว่า ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นอภิปรายชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งตามมารยาทต้องให้นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องได้ตอบ เพราะประชาชนต้องการฟังนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 และเป็นผู้รับผิดชอบต่อคดีนี้โดยตรง พฤติกรรมที่ 5 คือ กล่าวโทษทุกคนยกเว้นตัวเอง ทุกครั้งที่พลเอกประยุทธ์ ลุกขึ้นชี้แจงจะโทษทุกคน โทษฝ่ายค้าน โทษประชาชน แต่ไม่เคยโทษตัวเอง ล่าสุดมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลุกขึ้นชี้แจงโดยใช้วิธีเหมือนจะโยนความผิดเรื่องเหมืองทองอัคราให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเอาภาพตอน ดร.ทักษิณ ไปเปิดเหมืองทองอัคราในปี 2544 มาแสดงต่อสภาฯ ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้ เพราะแม้เหมืองทองอัคราฯ ได้สิทธิส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และเริ่มดำเนินการผลิตทองคำเชิงพาณิชย์ในปี 2544 ตรงกับยุครัฐบาลไทยรักไทยพอดี แต่แท้จริงแล้วเหมืองอัคราฯ จดทะเบียนในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2536 และได้เริ่มสำรวจแร่ในประเทศไทยปี 2537 และได้รับประทานบัตรทำเหมือง รวมเหมืองชาตรีใต้ในปี 2543 ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่จะมีรัฐบาลพรรคไทยรักไทย นายทักษิณ ทำพิธีเปิดเหมืองตามตำแหน่งหน้าที่ในตอนนั้น แต่จุดศูนย์กลางของปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นในตอนนั้นแต่อย่างใด พล.อ.ประยุทธ์คิดอะไรไม่ออกก็โทษตระกูลชินวัตรพฤติกรรมที่ 6 ข่มขู่ผู้อภิปราย ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ มีการเบี่ยงเบนประเด็นด้วยการข่มขู่ว่าจะฟ้องร้องฝ่ายค้าน ในการอภิปรายมาตรา 152 ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ข่มขู่ตนให้ระวังการนำเสนอข้อมูล ซึ่งตนยืนยันว่าไม่กลัว เพราะเอกสารหลักฐานที่นำมาแสดงต่อสภาฯ เผยแพร่อยู่ในเวปไซต์ บริษัทคิงส์เกตฯ ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ หากเชื่อว่าเอกสารมีเนื้อหาเป็นเท็จ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไปฟ้องร้องบริษัทคิงส์เกตฯ เอง หากท่านไม่ฟ้องร้องก็แสดงว่าข้อมูลทุกอย่างที่ดิฉันนำเสนอนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด

น.ส.จิราพร กล่าวอีกว่า หากไทยมั่นใจว่าจะชนะคดี เหตุใดจึงมีการเจรจาประณีประนอมยอมความระหว่างไทยกับคิงส์เกตฯ แต่ได้รับคำตอบว่าทำตามคำแนะนำคณะอนุญาโตตุลาการ เพื่อประโยชน์สูงสุดของทั้งสองฝ่าย แต่อย่าลืมว่าคิงส์เกตฯ ฟ้องร้องประเทศไทย ประเทศไทยตกเป็นจำเลย ถูกเรียกร้องใช้ชดใช้ค่าเสียหาย ถ้าไทยยืนยันว่าที่ใช้ ม.44 เป็นสิ่งที่ถูกต้อง และมั่นใจว่าจะชนะคดีแน่นอนเหมือนที่ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เคยตอบคำถามสภาไว้ ก็ต้องยืนยันที่จะสู้คดีจนถึงที่สุด ถ้าชนะไทยไม่ต้องเสียอะไร และได้ค่าชดเชยคืนมาด้วยซ้ำ และพล.อ.ประยุทธ์ยังยืนยันหนักแน่นว่า การอนุมติให้นำผงเงินผงทองคำที่ถูกอายัดไว้ออกขาย การอนุญาตให้สำรวจแร่ทองคำที่ในพื้นที่จำนวน 400,000 ไร่ และการต่อประทานบัตรทำเหมืองทองชาตรี 4 แปลง ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการประนีประนอมยอมความ หากไม่ใช่แล้วไทยเอาอะไรไปเจรจาต่อรองกับเขา เขาถึงยอมเจรจาด้วย มันมีมีจริงหรือไม่ที่จะมีการเจรจายอมความกันโดยที่ฝ่ายโจทก์ไม่ได้ประโยชน์ที่สมน้ำสมเนื้อกลับไป แต่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ก็บ่ายเบี่ยงไม่มีคำตอบในประเด็นนี้ ทำให้ประชาชนยิ่งเกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่าอาจมีดีลใหญ่เพื่อแลกกับการถอนฟ้องจริงหรือไม่


ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยไม่ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ ลอยตัวเหนือปัญหาและโยนบาป โยนความรับผิดชอบมาให้ประชาชนต้องรับภาระแทน ไม่อยากเห็นประเทศไทยแพ้คดี และต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนมหาศาล และไม่อยากเห็นพลเอกประยุทธ์เอาทรัพย์สมบัติประเทศไปชดใช้แทนความผิดของตนเอง ซึ่งถ้าคำนวณออกมาแล้วมันอาจมากมายมหาศาลมากกว่าที่ไทยต้องชดใช้ในกรณีแพ้คดีเสียอีก เราไม่มีปัญหาหากบริษัทอัคราฯ จะได้สิทธิการทำเหมืองคืนตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการและผ่านกระบวนการทางกฎหมายที่ถูกต้อง แต่เราไม่อยากเห็นการทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรมของประเทศของรัฐบาลโดยการไปเจรจาที่ไม่เป็นไปตามหลักกฎหมายภายในประเทศ ซึ่งจะก่อปัญหาไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้น สิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะจับตาต่อไปคือ เราจะติดตามว่าการเจรจาประนีประนอมยอมความนั้นถูกต้อง สุจริตหรือไม่ โดยใช้กลไกสภาผู้แทนราษฎรทุกช่องทาง และร่วมมือกับเครือข่ายภาคประชาชนที่มีอยู่ในการตรวจสอบรัฐบาล หากพบว่ามีความผิดปกติ และส่อทุจริต แน่นอนว่าเหมืองทองอัคราจะเป็นประเด็นสำคัญที่ใช้อภิปรายเป็นครั้งที่ 5 ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 ที่จะถึงนี้

“คำพูดของชายชาติทหารที่ไร้สัจจะ ไม่ทำให้ดิฉันหวั่นไหวและเกรงกลัวในการทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์แทนพี่น้องประชาชนเลยแม้แต่น้อย เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ชายชาติทหารที่บอกว่ารักชาติรักแผ่นดิน และจะรับผิดชอบคดีเหมืองทองอัคราเองคนนี้ กลับมีพฤติกรรมกลับกลอก ผิดคำพูดตัวเอง เอางบประมาณแผ่นดินกว่า 731 ล้านบาท ไปใช้ในการต่อสู้คดีที่ตัวเองก่อขึ้น โยนความรับผิดชอบให้เป็นภาระของประชาชน ถ้าพล.อ.ประยุทธ์มีความเป็นสุภาพบุรุษชายชาติทหารที่พูดแล้วไม่คืนคำ ก็ขอให้คืนเงิน 700 กว่าล้านบาท ก้อนนั้นเข้าคลังแผ่นดิน” น.ส.จิราพรกล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]