สั่งเข้มสถานศึกษาหลังพบคลัสเตอร์ต่อเนื่อง 

ทำเนียบรัฐบาล 28 ม.ค.-ศบค.เข้มโควิดในโรงเรียน พบคลัสเตอร์หญิงล้วนราชบุรีป่วย 311 ราย หลังกลับมาจากปีใหม่ สั่งปิดโรงเรียนทันที ชี้การตรวจ ATK อาจเจอผลลบลวงได้


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาล (ศบค.) เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนอาจตื่นตระหนกกับการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน BA.2 หรือ เวอร์ชันล่องหน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเน้นย้ำว่ายังไม่มีรายงานชัดเจนที่น่าเป็นห่วง แม้จะมีการติดเชื้อเกิน 14 รายแล้ว แต่ในเบื้องต้นยังไม่พบความแตกต่างทางพันธุกรรมสายพันธุ์โอไมครอนเดิม สิ่งสำคัญแม้จะมีรายงานในต่างประเทศว่า การตรวจหาเชื้อยากขึ้น หลบเลี่ยงการตรวจได้ง่าย แต่ทางกรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายงานว่า ยังสามารถตรวจหาเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน BA.2 ได้จากการตรวจ ATK และ RT-PCR ที่เป็นมาตรฐานสาธารณสุขไทย สิ่งสำคัญยังไม่มีรายงานว่ามีความรุนแรงกว่าเดิม แต่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด พร้อมจะรายงานให้ประชาชนทราบเป็นระยะ

“ฝากทุก ๆ จังหวัดเรื่องของการให้บริการวัคซีนและเปิดรับจองการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไป เข็ม 3 ที่มีความประสงค์จะฉีดวัคซีน แต่มีความลำบากเรื่องการเดินทาง ขอให้ทางโรงพยาบาล คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ช่วยวิเคราะห์พื้นที่และอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ที่สำคัญในส่วนของวัคซีนเด็กที่มาถึงไทยวานนี้ (27 ม.ค.65) ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป กระทรวงสาธารณสุขจะกำหนดให้ฉีดวัคซีนให้แก่เด็กด้วย” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ศบค.พบคลัสเตอร์สถานศึกษาหลายจังหวัด ได้แก่ ราชบุรี น่าน เพชรบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ร้อยเอ็ด สมุทรปราการ หนองคาย ยโสธร เลย ศรีสะเกษ โดยพบโรงเรียนที่ติดเชื้อตั้งแต่ระดับก่อนวัยเรียนหรือพรีอนุบาล โรงเรียนอนุบาล มีทั้งสถานศึกษาทั้งของภาครัฐและเอกชน มีทั้งโรงเรียนประจำ โรงเรียนกีฬา รวมถึงโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษา ทั้งนี้ แต่ละโรงเรียนที่พบรายงานคลัสเตอร์ มีมาตรการที่เข้มงวด มีบุคลากรฉีดวัคซีนค่อนข้างครบถ้วน แต่ปัจจัยเสี่ยงจากการติดเชื้อมักจะมาจากการจัดกิจกรรม การรวมกลุ่ม การแข่งขันกีฬา กิจกรรมปัจฉิมนิเทศ ฉลองนักเรียนจบ ม.6 ซึ่งรับประทานอาหารร่วมกัน เปิดหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นลักษณะปัจจัยเสี่ยงเดียวกับพิธีกรรมทางศาสนา การจัดงานเลี้ยง งานบวช งานแต่งงาน

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า จากการวิเคราะห์คลัสเตอร์โรงเรียนที่จังหวัดราชบุรี เป็นโรงเรียนประจำหญิงล้วน ตอนนี้มีรายงานยืนยันของ สสจ.ราชบุรีว่า มีผู้ติดเชื้อรวมกันทั้งสิ้น 311 ราย ซึ่งเป็นกรณีที่โรงเรียนประจำอนุญาตให้นักเรียนกลับบ้านช่วงปีใหม่ และกลับมาในวันที่ 14-16 มกราคม 2565 นักเรียนประมาณ 570 คน กลับมาจากที่ที่แตกต่างกัน โรงเรียนได้มีมาตรการที่ถูกต้อง มีการตรวจ ATK ในเบื้องต้นตั้งแต่วันที่กลับมา ปรากฎว่าผลตรวจออกมาเป็นลบทั้งหมด (ไม่พบการติดเชื้อ) รวมทั้งกลุ่มครูด้วย

“เมื่อตรวจ ATK ครั้งที่ 2 วันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่าจากเดิมที่มีผลเป็นลบ กลายเป็นผลบวก ครั้งแรกที่เจอ 120 ราย โรงเรียนดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฉุกเฉินอย่างถูกต้อง รีบแจ้งไปที่ สสจ.ราชบุรี โดยโรงพยาบาลปากท่อ ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเหลือ มีการคัดแยกผู้ป่วย มีการแยกผู้ที่มีความเสี่ยงสูง มีการเก็บตัวอย่าง PCR ตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.65 เป็นต้นมา รายงานวันนี้ผลเป็นบวก 311 ราย จากจำนวนนักเรียนรวมครู 6 ท่าน รวมเป็น 576 ราย โดยในวันนี้ทาง สสจ.ราชบุรี รายงานว่า นักเรียนได้เข้ารับการรักษาแล้ว 26 ราย ในโรงพยาบาล และมีอีก 285 ราย เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสนาม เบื้องต้นมีการปิดโรงเรียนไปก่อน มีการทำความสะอาด มีการสอบสวนโรค และดำเนินการตามมาตรการที่เหมาะสม” พญ.อภิสมัย กล่าว


ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า การตรวจ ATK มีความสำคัญ แต่ต้องพึงระวังว่าสามารถเกิดผลลบลวงได้ไม่เกิน 10% หรืออยู่ที่ประมาณ 5-7% ซึ่งกระทรวงสาธาณสุขแนะนำว่า แม้ว่าจะตรวจ ATK เป็นลบ แต่ถ้าสำรวจประวัติแล้ว เดินทางมาจากหลายพื้นที่ เข้ารวมกลุ่มคนจำนวนมาก มีประวัติสัมผัสผู้ที่มีความเสี่ยง ขอให้กักตัวก่อนเป็นเวลา 7 วัน เมื่อครบเวลากักตัวแล้วสามารถไปทำงาน แต่ยังต้องแยกพื้นที่กับผู้อื่น

“เมื่อเกิดคลัสเตอร์การติดเชื้อในโรงเรียน อาจทำให้ผู้ปกครองรู้สึกลังเล ไม่มั่นใจให้ลูกหลานไปโรงเรียน กระทรวงสาธารณสุขและที่ประชุม ศปก.ศบค. มีความเป็นห่วง จึงต้องเน้นย้ำว่า เรายังคงต้องอยู่ร่วมกับโควิดสักระยะหนึ่ง แม้ทิศทางนโยบายของต่างประเทศ หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) ใช้มาตรการการอยู่ร่วมกับโควิดให้ได้ หรือที่เรียกว่า Smart Living With Covid-19 โดย ศบค.ชุดใหญ่ มีแนวโน้มผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งไม่ใช่ความเสี่ยงลดลง โควิดยังคงอยู่ แต่เราจำเป็นต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้ประชาชนดำเนินชีวิตใกล้เคียงปกติมากที่สุด” พญ.อภิสมัย กล่าว

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ ผอ.ศบค. มีความเป็นห่วง จึงหารือร่วมกันอย่างเร่งด่วน เรื่องการกำกับติดตามสถานศึกษาปลอดโควิดเข้มงวด พร้อมขอความร่วมมือผู้ปกครอง เพื่อให้บุตรหลานได้กลับเข้าสู่โรงเรียน และสนับสนุนพัฒนาการของเด็กต่อไปได้

ส่วนการรับนักท่องเที่ยว Test and go ที่จะเริ่มลงทะเบียนวันที่ 1 ก.พ.นี้ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า เมื่อนักท่องเที่ยวหรือคนไทยที่เดินทางกลับมา จะมีกระบวนการประเมิน ตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งคงต้องใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน และอนุญาตให้เดินทางได้ แต่การประเมินจะต้องมีความเข้มงวดโดยกรมควบคุมโรค ต้องตรวจสอบหลักฐานการฉีดวัคซีนครบ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะร่วมกับโรงแรม ที่พัก สถานประกอบการ ตรวจสอบเกี่ยวกับการจองที่พักถูกต้องหรือไม่ และโรงแรมที่จองนั้นเป็น SHA+ หรือไม่

“สิ่งสำคัญนักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขที่กำหนด ด้วยการตรวจ RT-PCR ซ้ำครั้งที่ 2 ที่ต้องทำให้ได้ 100% นอกจากการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานว่า เรามีโรงพยาบาล ครูปฏิบัติการที่ให้บริการตรวจ RT-PCR กว่า 30 โรงพยาบาลทั่วประเทศ จะให้เหตุผลว่าไม่ได้ไปตรวจ เดินทางไปที่จังหวัดอื่นแล้วไม่ได้ เพราะจะกำกับโดยพื้นที่อย่างเข้มงวด หากตรวจพบติดเชื้อจะมีประกันคุ้มครองที่จะครอบคลุมการรักษาเบ็ดเสร็จ ไม่เป็นภาระระบบสาธารณสุขไทย” พญ.อภิสมัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]