ทำเนียบรัฐบาล 17 พ.ย.-ศบค.ชี้มีผู้ยังไม่ฉีดวัคซีนกว่า 11 ล้านคน ขอผู้นำชุมชนเร่งฉีดให้มากขึ้น โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ พบนักท่องเที่ยวบางส่วนไม่ปฏิบัติตามมาตรการ แต่สนามบิน-โรงแรม ช่วยแก้ปัญหาได้เรียบร้อย
พญ.สุมณี วัชรสินธุ์ ผู้ช่วยรองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศวันนี้ (17 พ.ย.) ว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,524 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 5,856 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 263 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 393 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 12 ราย มาจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร อียิปต์ เบลเยียม ประเทศละ 1 ราย กัมพูชา เมียนมา ประเทศละ 2 ราย เยอรมนี 3 ราย
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 2,073 ราย สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศ ตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 2,030,700 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 7,943 ราย อาการหนัก 1,739 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 407 ราย
พญ.สุมณี กล่าวว่า สำหรับจังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 894 ราย สงขลา 430 ราย เชียงใหม่ 339 ราย สมุทรปราการ 251 ราย นครศรีธรรมราช 240 ราย ชลบุรี 209 ราย ปัตตานี 190 ราย ยะลา 182 ราย สุราษฎร์ธานี 162 ราย และตรัง 153 ราย
“ปัจจุบันยังพบการระบาดในกลุ่มก้อน (Cluster) ดังต่อไปนี้ โรงงาน/สถานประกอบการ พบที่ จ.ลำปาง ระยอง ชลบุรี และเชียงใหม่ ส่วนที่ตลาด พบที่ จ.เชียงใหม่ กาญจนบุรี ขอนแก่น จันทบุรี และชลบุรี, สถานที่ก่อสร้าง พบที่กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ และจันทบุรี, สถานศึกษา พบที่ จ.อุบลราชธานี เชียงใหม่ และชลบุรี, งานทอดกฐิน พบผู้ป่วยที่ จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเดินทางไปทอดกฐินที่ จ.น่าน และพิษณุโลก และเดินทางไปเที่ยวเชียงรายด้วย ส่วนงานศพ พบที่ จ.พะเยา และปราจีนบุรี” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว
พญ.สุมณี กล่าวว่า ส่วนผู้เสียชีวิต 56 ราย เป็นเพศชาย 38 ราย เพศหญิง 18 ราย อายุเฉลี่ย 75 ปี (22-93 ปี) โดยมีสัดส่วนผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 41 ราย คิดเป็น 73% ผู้มีโรคเรื้อรัง 13 ราย คิดเป็น 23% และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย คิดเป็น 4% รวมยอดเสียชีวิตสะสม จำนวน 20,143 ราย
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร วันที่ 16 พ.ย.64 มีจำนวน 3,931 ราย เข้ามาในกลุ่มไม่ต้องกักตัว (Test&Go) 3,290 ราย Sandbox 494 ราย Quarantine 7 วัน 88 ราย และ Quarantine 10 วัน 59 ราย
พญ.สุมณี กล่าวว่า สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 สรุปการได้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-16 พ.ย.64 รวม 86,071,507 แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 45,700,036 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 37,527,295 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 2,844,176 ราย ทั้งนี้ จากการสำรวจยังพบว่ามีผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนกว่า 11 ล้านคน จึงขอความร่วมมือผู้นำชุมชนช่วยกันเร่งรัดการฉีดวัคซีนในพื้นที่ให้มากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดที่ยังพบการระบาด
“เมื่อแยกตามกลุ่มเป้าหมายที่ต้องเร่งรัด คือ หญิงตั้งครรภ์ ซึ่งครอบคลุมเข็มแรกเพียงร้อยละ 17.7 ทั้งนี้ สามารถขอรับวัคซีนในสถานพยาบาลที่ฝากครรภ์ได้เลย ส่วนกรณีไม่มีการคีย์ข้อมูล หรือคีย์ข้อมูลไม่ถูกต้อง ขอให้ประชาชนแจ้งต่อสถานที่ฉีด เพื่อให้บันทึกข้อมูลให้ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ในการนำผลการฉีดวัคซีนไปใช้ในกรณีต่าง ๆ เช่น การขึ้นเครื่องบิน” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว
ส่วนสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก พญ.สุมณี กล่าวว่า ล่าสุดวันนี้ (17 พ.ย.) มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 255,072,442 ราย เสียชีวิต 5,129,420 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 48,161,377 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 24
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ศบค.ชุดเล็ก หารือเรื่องการเปิดประเทศกับหน่วยงานต่าง ๆ ผ่านทางออนไลน์มาโดยตลอด ซึ่งได้นำเสนอข้อขัดข้องการดำเนินมาตรการต่าง ๆ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังทำตามมาตรการได้อย่างถูกต้อง และพบว่ามีนักท่องเที่ยวเพียงส่วนน้อยที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ เช่น ไม่ได้จองโรงแรมที่พักผ่านระบบ SHA หรือ SHA+ ก่อนเดินทางมาประเทศไทย หรือไม่ได้เตรียมรถรับส่งจากสนามบินมายังที่พัก
“ปัญหาเหล่านี้ได้รับการแก้ไขทันทีตั้งแต่ที่สนามบิน โดยทางโรงแรมช่วยอำนวยความสะดวกเต็มที่ พร้อมทั้งจัดแพ็กเกจการจองที่พัก พร้อมรถรับส่ง การตรวจ RT-PCR เพื่ออำนวยความสะดวกและให้ถูกต้องตามมาตรฐาน นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการและเจ้าของโรงแรมยกระดับการจัดการให้เป็น SHA หรือ SHA+ หากพบว่าไม่ปฏิบัติตาม อาจถอดชื่อออกจากระบบ” พญ.สุมณี กล่าว.-สำนักข่าวไทย
