เลิกพรรคปชช.ปฏิรูปถูกกม. “ไพบูลย์” ไม่พ้นส.ส.

ศาลรัฐธรรมนูญ 20 ต.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากชี้“ไพบูลย์” ไม่สิ้นสุดสมาชิกภาพส.ส. พรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพชอบด้วยกฎหมาย ส่วนข้อกล่าวหามีวาระซ่อนเร้น ไม่มีพยานหลักฐาน


คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมเพื่อแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องของ ส.ส.จำนวน 60 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพส.ส.ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(10) ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่ กรณีนายไพบูลย์ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปและส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคประชาชนปฏิรูป สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลังจากพรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรค มาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7) ทั้งที่ต้องปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปอยู่จนกว่าการชำระบัญชีจะแล้วเสร็จ และไม่ได้เป็นผู้มีชื่อในบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ก่อนปิดการรับสมัครเลือกตั้ง จะเป็นเหตุให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงหรือไม่

จากนั้น องค์คณะศาลรัฐธรรมนูญได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง โดยศาลรัฐธรรมนูญมอบหมายให้นายวิรุฬห์ แสงเทียน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้อ่านคำวินิจฉัย ว่าพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา คำชี้แจงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเอกสารประกอบ ปรากฎว่าผู้ถูกร้องเป็นหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปภายหลังการเลือกตั้งทั่วไป ผู้ถูกร้องเป็นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคประชาชนปฏิรูปเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2562 พรรคประชาชนปฏิรูปประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคครั้งที่ 10/2562 และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เลิกพรรคประชาชนปฏิรูป และให้แจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ผู้ถูกร้องมีหนังสือลงวันที่ 5 สิงหาคม 2562 แจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เลิกพรรคประชาชนปฏิรูป ตามข้อบังคับพรรคประชาชนปฏิรูป 2561 ข้อ 122 นายทะเบียนพรรคการเมือง ตรวจสอบข้อเท็จจริงเสนอต่อ กกต.พิจารณาและประกาศการสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองของพรรคประชาชนปฏิรูปในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562


ต่อมาวันที่ 9 กันยายน 2562 นายไพบูลย์สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแจ้งจำนวนสมาชิกตามมาตรา 25 วรรคสองต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง และนายทะเบียนพรรคการเมืองมีหนังสือลงวันที่ 17 ตุลาคม 2562 แจ้งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่าผู้ถูกร้องเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้ว มีข้อพิจารณาเบื้องต้นว่าการสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองของพรรคประชาชนปฏิรูปชอบด้วย พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7) ประกอบวรรคสี่หรือไม่

ศาลเห็นว่าเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าคณะกรรมการบริหารพรรคประชาชนปฏิรูปได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เลิกพรรคการเมือง ตามข้อบังคับพรรคประชาชนปฏิรูป 2561 ข้อ 122 เป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการที่กำหนดในข้อ 54 คือมีกรรมการบริหารพรรคการเมืองมาประชุมจำนวน 16 คน ซึ่งไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่มีอยู่ในขณะนั้น คือ 29 คน และกรรมการบริหารพรรคการเมืองผู้มาประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ทั้ง 16 คน จึงเป็นเสียงข้างมากของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองตามข้อ 55 มติของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ให้เลิกพรรคประชาชนปฏิรูป จึงเป็นไปโดยชอบตามข้อ 122 ประกอบข้อ 54 และข้อ 55 โดยเหตุผลให้เลิกพรรคประชาชนปฏิรูปว่าเนื่องจากกรรมการบริหารพรรคการเมืองหลายคนลาออก และอีกหลายคนกำลังจะลาออก รวมทั้งขาดบุคลากรสนับสนุน ทำให้ไม่สามารถดำเนินกิจการพรรคประชาชนปฏิรูปต่อไปได้

เมื่อนายทะเบียนพรรคการเมืองได้รับแจ้งการเลิกพรรคประชาชนปฏิรูป นายทะเบียนพรรคการเมืองจึงตรวจสอบกรณีดังกล่าวตามอำนาจหน้าที่ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 91 วรรคสอง และให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองผู้เข้าร่วมประชุมลงมติครั้งนั้นให้ถ้อยคำต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว ปรากฏว่าคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง 15 คนให้ถ้อยคำยืนยันสอดคล้องกันว่าการประชุมลงมติให้เลิกพรรคประชาชนปฏิรูปด้วยเหตุผลดังกล่าวจริง ส่วนอีก 1 คนอยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ นายทะเบียนพรรคการเมืองจึงเสนอให้กกต.พิจารณา ซึ่งกกต.พิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ประกาศการสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองของพรรคประชาชนปฏิรูป และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 การสิ้นสภาพของพรรคประชาชนปฏิรูปจึงเป็นไปโดยชอบ


ส่วนข้ออ้างของผู้ร้องที่ว่าการเลิกพรรคประชาชนปฏิรูปตามข้อบังคับพรรคอันเป็นเหตุให้พรรคประชาชนปฏิรูป สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตามประกาศของ กกต.เป็นการกระทำของผู้ถูกร้องที่มีเจตนาซ่อนเร้น อาศัยมติของคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งนายไพบูลย์เป็นหัวหน้าพรรค มีอำนาจเหนือกว่ากรรมการบริหารพรรค เห็นว่าไม่มีข้อเท็จจริงหรือพยาน หลักฐานใดแสดงให้ศาลรัฐธรรมนูญ เห็นได้ว่ากรณีเป็นไปดังที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง เมื่อพรรคประชาชนปฏิรูปเลิกตามข้อบังคับของพรรคประชาชนปฏิรูป 2561 ข้อ 122 และกกต.ประกาศสิ้นสภาพของพรรคประชาชนปฏิรูปในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 มีผลให้พรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสุดลงตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 90 (1) ประกอบมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7) ทำให้สมาชิกภาพของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง

เมื่อพรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพการเป็นพรรคการเมืองตามข้อบังคับพรรคประชาชนปฏิรูป 2561 ข้อ 62 วรรคหนึ่ง (6 ) ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2562 แต่นายไพบลูย์เป็นส.ส. ซึ่งได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (10 )ประกอบพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 91 วรรคสี่ ที่บัญญัติให้ถือว่าการสิ้นสภาพของพรรคการเมืองตามมาตรานี้เป็นการถูกยุบพรรคการเมืองโดยมีเจตนารมณ์เพื่อคุ้มครองสมาชิกที่เป็น ส.ส. ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากพรรคการเมืองสิ้นสภาพ อันเป็นหลักการเดียวกับการคุ้มครอง ส.ส.ที่สังกัดพรรคการเมืองที่ถูกยุบพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (10 ) ดังนั้น สมาชิกพรรคการเมืองที่สิ้นสภาพตามมาตรา 91 จึงเข้าไปสมาชิกพรรคการเมืองอื่นได้ภายใน 60 วันนับแต่วันที่พรรคการเมืองสิ้นสภาพ นายไพบูลย์จึงสมัครเข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นภายใน 60 วัน นับแต่วันที่มีคำสั่งยุบพรรคการเมืองได้ คือวันที่ 6 กันยายน 2562 ซึ่งเป็นวันที่พรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง

เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ถูกร้องสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 จึงเป็นระยะเวลาภายใน 60 วันนับแต่วันที่พรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง สำหรับข้ออ้างของผู้ร้องที่ว่านายไพบูลย์ในฐานที่เป็นหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปต้องอยู่ปฎิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรคจนกว่าจะชำระบัญชีเสร็จ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 95 ศาลเห็นว่าบทบัญญัติมาตราดังกล่าวเป็นการกำหนดหน้าที่ของหัวหน้าพรรคการเมือง ที่พรรคการเมืองสิ้นสภาพหรือยุบพรรคการเมืองต้องปฎิบัติหน้าที่จนกว่าการชำระบัญชีจะแล้วเสร็จ โดยมีหน้าที่ให้ข้อมูลส่งบัญชีและงบดุล รวมทั้งเอกสารเกี่ยวกับการเงินของพรรคการเมืองภายใน 30 วัน นับแต่วันที่พรรคการเมืองสิ้นสภาพหรือยุบ และห้ามหัวหน้าพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในนามพรรคการเมืองที่สิ้นสภาพหรือถูกยุบไปแล้ว แต่ไม่ห้ามดำเนินกิจกรรม ทางการเมืองในนามพรรคการเมืองอื่น

ส่วนข้ออ้างของผู้ร้องที่ว่าผู้ถูกร้องไม่ได้เป็นบุคคลที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อต่อ กกต.ก่อนการปิดรับสมัครการเลือกตั้ง นายไพบูลย์จึงไม่สามารถเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐได้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 90 และมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (5) และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 56 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 57 ศาลเห็นว่ารัฐธรรมนูญ มาตรา 90 กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดทำบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง และมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (5) กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการได้มา ซึ่งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองโดยมีวัตถุประสงค์ใช้บังคับกับกรณีที่อยู่ระหว่างการจัดการเลือกตั้งและก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง จึงเป็นคนละกรณีกับการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 ( 10 ) ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7) และมาตรา 91 วรรคสี่ที่เกิดขึ้นภายหลังจากการเลือกตั้ง และผู้ถูกร้องได้รับการประกาศผลการเลือกตั้งเป็นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อแล้ว อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของผู้ถูกร้อง ไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(10) ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (5).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]