จับตาศาลชี้ขาดคดีเหมืองทองอัครา 31 ต.ค.นี้

พรรคเพื่อไทย 19 ต.ค.- เพื่อไทยเรียกร้องประชาชน-สื่อ จับตาคำชี้ขาดคดีเหมืองทองอัครา 31 ต.ค.นี้ ชวนลงชื่อคัดค้านปกป้องสมบัติชาติ ชี้ “พล.อ.ประยุทธ์” ต้องรับผิดชอบหลังใช้ ม.44 สร้างความเสียหาย


นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และน.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย  ร่วมแถลงข่าวเรื่องมหากาพย์ค่าโง่ เหมืองทองอัครา !! “ปกป้องทรัพย์สมบัติชาติ ไม่ให้นำไปชดใช้ความผิดพลาดจากการปิดเหมืองทองอัคราของคสช.”  ที่ใช้อำนาจมาตรา 44 ดำเนินการ โดยนายสมพงษ์ กล่าวถึงข้อห่วงใยการดำเนินการของรัฐบาล โดยเฉพาะความเสียหายที่อาจเกิดผลกระทบต่อประเทศชาติ ซึ่งกรณีเหมืองทองอยู่ในชั้นอนุญาโตตุลาการ และเมื่อ 23 กันยายน2564 ที่ผ่านมา บริษัทคิงส์เกตได้แถลงต่อตลาดหลักทรัพย์ในออสเตรเลีย แจ้งการเจรจากับรัฐบาลไทยขออนุญาตดำเนินการเรื่องต่าง ๆ โดยเร็วนั้น จึงมีความห่วงเรื่องการเจรจา ก่อนจะยื่นให้อนุญาโตตุลาการตัดสิน 31 ตุลาคมนี้ กังวลว่าหากเป็นไปตามที่คิงส์เกตแถลงต่อตลาดหลักทรัพย์ จะเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง

น.พ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยติดตามมาโดยตลอด ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ ส.ส.ของพรรคนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ได้อภิปรายเปิดประเด็นไว้เมื่อปี 2562 และ นางสาวจิราพร อภิปรายไม่ไว้วางใจปีนี้ที่เพิ่งผ่านมา ก่อนจะอธิบายถึงการใช้กฎหมายมาตรา 44 ที่72/2559 ของ คสช. ระงับการทำเหมืองแร่ทองคำเมื่อ 1 มกราคม 2560 จากนั้นได้นำประเด็นพิพาทเข้าสู่อนุญาโตตุลาการเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2560 ก่อนจะเข้ากระบวนการไต่สวน บริษัทคิงส์เกตเรียกค่าเสียหาย 22,500 ล้านบาท ซึ่งไต่สวนที่ประเทศสิงคโปร์  ช่วงวันที่ 3-12 กุมภาพันธ์ 2563 จากนั้น 23 กันยายน 2564 บริษัทคิงส์เกตแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ของออสเตรเลียเรื่องการเจรจากับไทยว่าจะได้ข้อยุติที่เป็นประโยชน์ โดยจะประกาศข้อตัดสินชี้ขาด 31 ตุลาคมนี้


“ก่อนหน้านี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประกาศที่ประชุมครม.ว่าจะรับผิดชอบเอง เพราะเป็นผู้ดำเนินการตั้งแต่ต้น เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562 พรรคจึงอยู่นิ่งไม่ได้ เพราะอนุญาโตตุลาการเตรียมออกคำตัดสินชี้ขาด แต่คู่พิพาทระหว่างรัฐบาลไทย กับ บริษัทคิงส์เกตได้เจรจาตกลงกันว่าจะขอยืดเวลาสั้น ๆ ให้อนุญาโตตุลาการพิเศษออกคำตัดสินในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ในข้อเจรจายุติประนีประนอมข้อพิพาทที่สองฝ่ายพึงพอใจ ซึ่งถ้อยแถลงการของคิงส์เกตุ มีส่วนหนึ่งที่คนไทยต้องสนใจว่าจะเป็นมหากาพย์ค่าโง่ ที่ไทยจะสูญเสียทรัพย์สมบัติของชาติ เพื่อแลกกับความผิดพลาดของคสช. โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาที่ยึดเหมืองทองของเขามาเป็นของรัฐโดยมิชอบ ซึ่งมาตรา 44 เป็นกฎหมายบังคับใช้ที่ไม่ผ่านรัฐสภา” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สิ่งที่บ.คิงส์เกตแถลงอยู่นอกเหนือข้อพิพาท อ้างถึงคือ 1.ข้อเสนอของคิงส์เกตจะได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลไทยทุกข้อโดยไม่มีข้อจำกัด ได้รับการอนุญาตทำเหมือนได้ใหม่ทั้งหมด 2. ยังได้ได้รับทำเหมืองในพื้นที่ใหม่เพิ่มเติมนอกจากเหมืองทองชาตรีที่มีอยู่ 3,900 ไร่  3.คิงส์เกตมีความมั่นใจว่าจะได้นับการสนับสนุนการลงทุน ในตลาดหลักทรัพย์จากรัฐบาลไทย มีนักลงทุนจากไทยไปร่วม และการดำเนินการครั้งใหม่จะได้รับค่าช่วยเหลือค่าภาคหลวงและภาษีต่างรวมถึงกระบวนการอนุมัติจะดำเนินการโดยเร็ว แต่ข้ามขั้นตอนไม่เป็นไปตามกฎหมายไทย

“หากรัฐบาลไทยยินยอมเช่นนั้น และคำแถลงของคิงส์เกตไปปรากฎในคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการจริง คาดว่าไทยจะเสียหายอย่างมหาศาล เป็นการประนีประนอมที่เอาทรัพย์สมบัติชาติไปแลกกับความผิดพลาดของคสช. หรือหากอนุญาโตตุลาการตัดสินให้ไทยแพ้ ไทยก็ต้องชดใช้ เพราะเป็นไปตามอนุสัญญาระหว่างประเทศที่ไทยลงนามไว้ ที่เรียกว่า “นิวยอร์กคอนเวนชัน” ซึ่งคำตัดสินออกมาประชาชนไทยมีสิทธิ์ร้องคัดค้านให้ศาลไทยไม่ปฏิบัติตาม เพื่อร่วมกันปกป้องสมบัติชาติ” นพ.ชลน่าน กล่าว


น.ส.จิราพร กล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยออกมาชี้แจงเรื่องนี้ ทั้งที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ แต่กลับเก็บเป็นความลับ สถานการณ์ของประเทศไทยเกี่ยวกับคดีเหมืองทองอัคราอยู่ในสภาวะแพ้คดีก็เสียหาย เจรจาก็เสียเปรียบ เพราะหากไทยแพ้คดี จะมีค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 25,350 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการที่บริษัทคิงส์เกตร้องขอชดเชยค่าเสียหาย 11 รายการ หนึ่งในนั้นคือการ ขอต่ออายุและขอให้ไทยอนุมัติในใบอนุญาตสำรวจสำคัญ และเมื่อตรวจสอบพบว่าบริษัทคิงส์เกตยังมีใบอนุญาตทำเหมืองแร่และการขออัชญาบัตรพิเศษ ในการสำรวจแร่ 6 จังหวัดคือ ชลบุรี ลพบุรี พิจิตร พิษณุโลกและสระบุรี เป็นคำขอที่ค้างไว้และให้ประเทศไทยอนุมัติรวมพื้นที่ทั้งหมด 6 แสนไร่

“เท่ากับว่าจะมีสมบัติของชาติเกือบ 1ล้านไร่ ที่ต้องเสียค่าโง่จากการใช้ ม.44 สั่งปิดเหมืองทองอัคราของพล.อ.ประยุทธ์ นอกจากนี้ยังมีข้อเรียกร้องให้ไทย คืนใบอนุญาตให้ บริษัทคิงส.เกต กลับมาดำเนินการในเหมืองทองชาตรีที่ถูกระงับไป หากพล.อ.ประยุทธ์เปิดทางให้คืนใบอนุญาตตามที่ร้องขอ คำถามคือ เหตุใดจึงใช้คำสั่งม.44 สั่งปิดเหมืองทองชาตรีทองคำตั้งแต่แรก ซึ่งการปิดทำให้ประเทศไทยเสียหายอย่างหนัก และเมื่อมีการขอเจรจาปรับมีความเสียหายมากขึ้นกว่าเดิมสรุปแล้วการปิดเหมืองทองคำ ต้องเสียหายมากกว่าเดิมหรือไม่” น.ส.จิราพร กล่าว

น.ส.จิราพร กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของบริษัทคิงส์เกต เคยยื่นดำเนินการแล้วตั้งแต่ปี 2560 ผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณกรุงแคนเบอร์รา เพื่อขอเจรจากับประเทศไทยเพื่อไม่ต้องนำเรื่องเข้าสู่คณะอนุญาโตตุลาการ แต่พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธ พร้อมยืนยันจะไม่เปิดให้ทำเหมืองทองคำในประเทศไทยอีกต่อไป แต่มาถึงวันนี้กลับพบว่าสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์เคยปฏิเสธถูกนำไปดำเนินการตามข้อเรียกร้องของบริษัทคิงส์เกต 4 แสนไร่ และมีแนวโน้มจะเพิ่มอีก 6 แสนไร่

“แม้ขณะนี้ยังไม่มีคำชี้ขาดจากคณะอนุญาโตตุลาการ ต้องรอวันที่ 31 ตุลาคม นี้ แต่ความเสียหายได้เกิดขึ้นกับประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว เพราะทันทีที่สั่งปิดเหมืองทองอัครา ส่งผลกระทบให้ประชาชนกว่า 1000 ชีวิตตกงาน ส่วนปัญหาสิ่งแวดล้อมที่พล.อ.ประยุทธ์อ้างต้องสั่งปิดเหมืองทอง ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการใช้ ม.44 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศอย่างมาก เพราะการสั่งปิดโดยที่ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนเป็นการแสดงถึงความไม่เข้าใจ และการใส่ใจในกฎกติการะหว่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติและความเชื่อมั่นของประเทศที่ประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ได้ โดยสิ่งสำคัญมีใบเสร็จความเสียหายเกิดขึ้น หลังครม.อนุมัติงบจากภาษีประชาชนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการระงับข้อพิพาท จำนวน 731 ล้านบาท จึงขอตั้งคำถามไปยังพล.อ.ประยุทธ์ ว่าการใช้งบประมาณแผ่นดิน ไปดำเนินการในคดีที่เป็นความผิดของตัวเอง แบบนี้เป็นความรับผิดชอบของชายชาติทหารหรือไม่” น.ส.จิราพร กล่าว

น.ส.จิราพร กล่าวว่า ผู้ที่ใช้มาตรา 44 สั่งปิดเหมืองทองอัคราคือพล.อ.ประยุทธ์ จึงถือเป็นจำเลยหลักในคดีนี้ และ มีคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นจำเลยร่วม การใช้มาตรา44 อาจทำให้ผู้ใช้รอดในประเทศ แต่ไม่ได้ทำให้ประเทศรอดจากกฎกติการะหว่างประเทศ ความเสียหายของคดีเหมืองทองอัคราเป็นตัวอย่างความเร็วร้ายของ มาตรา44 เป็นมรดกบาปของคณะรัฐประหารที่สร้างไว้กับประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยเดินมาถึงจุดที่ต่างชาติฟ้องร้อง พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมือง ยืนยันว่าได้ทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติในประเด็นเหมืองทองอัครามาโดยตลอด และขอเรียกร้องให้ประชาชนสื่อมวลติดตาม การออกคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในวันที่ 31 ต.ค.นี้ และขอให้ประชาชนร่วมกับพรรคเพื่อไทยลงชื่อคัดค้านพล.อ.ประยุทธ์นำสมบัติและภาษีของชาติ ไปชดใช้ความผิดของตนเอง โดยพรรคเพื่อไทยจะประกาศผ่านแพลตฟอร์มให้ประชาชนร่วมลงชื่อคัดค้าน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]