ศบค.ห่วงเชื้อโควิดระบาดชายแดนใต้

ทำเนียบ 29 ก.ย.-ศบค.ห่วงการแพร่ระบาดเชื้อโควิดในชายแดนใต้ เตือนให้ทุกพื้นที่เคร่งครัดป้องกันช่วงเทศกาลกินเจ ย้ำแม้ผ่อนคลายแต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข เพื่อก้าวผ่านอยู่กับโควิดให้ได้ในฐานะโรคประจำถิ่น

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า ศบค.เป็นห่วงการระบาดในพื้นที่ชายแดนภาคใต้  ที่ยังคงมีผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้สรุปจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 20 – 29 ปี แต่กลุ่มที่ป่วยหนักและเสียชีวิตจะเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป รวมทั้งกลุ่มที่มีโรคประจำตัว จึงต้องเน้นย้ำเฝ้าระวังการสัมผัสใกล้ชิด โดยเฉพาะวัยแรงงานที่อาจจะติดเชื้อแล้วไม่มีอาการ  ยังสามารถดำเนินชีวิตตามปกติ ไปสัมผัสกับผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยติดเตียง ผู้ที่มีโรคประจำตัว ทำให้คนกลุ่มนี้มีอาการหนักและเสียชีวิตได้  ทั้งนี้คงต้องเน้นไปยังแต่ละจังหวัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัด  คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด  เร่งระดมฉีดวัคซีนให้ได้ตามกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้สูงอายุ  ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป


ซึ่งกรมควบคุมโรค ยังรายงานว่า การติดเชื้อยังอยู่ในส่วนของชุมชนที่มีการรวมกลุ่ม เช่น โรงเรียนนายสิบ ที่ประจวบคีรีขันธ์  ล้งผลไม้ ที่มีแรงงานต่างด้าวสัมผัสใกล้ชิด  และลามไปยังล้งผลไม้อื่นๆ   รวมทั้งงานศพ ที่มีรายงานอย่างต่อเนื่อง  ดังนั้นเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด  ในพื้นที่กำกับติดตามกวดขันให้ทุกงานศพมีการเฝ้าระวังมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด  นอกจากนั้นในวันที่ 4 ตุลาคมที่จะมีเทศกาลกินเจ ขอเน้นย้ำให้ทางจังหวัดตรวจสอบมาตรการอย่างเข้มงวด  โดยเฉพาะโรงเจ  ผู้ประกอบการจะต้องจัดสถานที่ที่เหมาะสม และมีมาตรการเฝ้าระวังควบคุมโรคอย่างเข้มงวด บุคลากร หรือผู้ดำเนินการ จะต้องใช้หลักการ covid free setting  หรือ โรงเจปลอดโควิด-19 เพื่อความปลอดภัย โดยอาจจะต้องให้พนักงานฉีดวัคซีน หรือตรวจหาเชื้อ ATK

พญ.อภิสมัย เน้นย้ำข้อกำหนดออกตามความมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เห็นชอบเมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา  นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. ลงนามแล้ว  และจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา  ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป  เป็นฉบับที่ 34 เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ คือ ตั้งแต่ 1 – 15 ตุลาคม  กำหนดระดับพื้นที่สถานการณ์เพื่อการบังคับใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ  จำแนกเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด 37 จังหวัด  และพื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด ห้ามบุคคลใดในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22:00 น ถึง 04:00 น ของวันรุ่งขึ้น  จนถึงวันที่ 15 ตุลาคม


ส่วนมาตรการข้อห้ามและข้อปฏิบัติสำหรับพื้นที่ควบคุมสมดุลและเข้มงวดตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดที่ประกาศก่อนหน้านี้ให้คงไว้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง  การขนส่งสาธารณะ   การปฏิบัติงานนอกสถานที่ทำงาน หรือ work from home ยังคงขอความร่วมมือให้ส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ยังคงดำเนินการอย่างเต็มความสามารถที่จะทำได้  ขอให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ หรือ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด  กำกับดูแลและติดตามการดำเนินการของสถานที่กิจการหรือกิจกรรมในพื้นที่  สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่ได้ปรับมาตรการตามข้อกำหนดนี้ เพื่อให้เปิดดำเนินการได้โดยให้ผู้ประกอบการหรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบจัดเตรียมสถานที่ ตรวจสอบระบบหมุนเวียนระบายอากาศ   การกำกับดูแลความพร้อมของบุคลากรผู้ให้บริการ และปฏิบัติตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบระเบียบ และมาตรการป้องกันโรคต่างๆ ตามที่ทางราชการกำหนด

ตั้งแต่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป ข้อกำหนดที่ 34 อนุญาตให้โรงเรียน สถาบันการศึกษาทุกประเภท ใช้อาคาร สถานที่ เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรมหรือการทำกิจกรรมใด ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากได้ โดยให้ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่รับผิดชอบ ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ หรือ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณาความจำเป็น และการดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรค ที่ทางราชการกำหนด ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และสถานการณ์ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ

เช่นเดียวกับสถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถาบันพัฒนาเด็กปฐมวัย ศูนย์เด็กพิเศษ สถานที่ให้การดูแล หรือสถานสงเคราะห์อื่น ที่เป็นการจัดสวัสดิการให้แก่เด็ก ให้เปิดทำการได้  ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มสามารถเปิดให้บริโภคอาหาร หรือเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกิน 21:00 น.  ห้ามบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน และจำกัดจำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน  กรณีห้องแอร์ให้มีผู้นั่งบริโภคไม่เกินร้อยละ 50 หากเป็นพื้นที่เปิดอากาศถ่ายเทได้ดีให้มีจำนวนผู้บริโภคไม่เกินร้อยละ 75 จากที่นั่งปกติ   สามารถแสดงดนตรีในร้านอาหารได้โดยมีผู้แสดงไม่เกิน 5 คน  


ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด หรือตลาดนัด  เฉพาะการจำหน่ายสินค้าอุปโภคหรือบริโภค เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติถึง 21.00 น. โดยจำกัดเวลาสำหรับร้านสะดวกซื้อที่ตามปกติเปิดให้บริการในช่วงเวลากลางคืนให้ปิดบริการระหว่าง 21.00 น. ถึง 04.00 น ของวันรุ่งขึ้น

การเรียนรู้ห้องสมุด และพิพิธภัณฑ์ทุกประเภท บ้านหนังสือ หอศิลป์ แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ศูนย์การเรียนรู้ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อุทยานวิทยาศาสตร์ สามารถเปิดดำเนินการได้และจำกัดจำนวนผู้ให้บริการ แต่งดกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดความแออัด งดการบริโภคอาหาร และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุข กำหนดอย่างเข้มงวด  

โรงภาพยนตร์สามารถเปิดดำเนินการได้ไม่เกิน 21.00 น. จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 50 ของความจุที่นั่ง งดการบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา   สถานเสริมความงาม  ร้านเสริมสวยแต่งผมหรือตัดผม ร้านทำเล็บ ร้านสัก สามารถเปิดดำเนินการ และให้บริการผ่านการนัดหมาย จนถึงเวลา 21.00  น.  โดยกำหนดเงื่อนไขสำหรับร้านสัก ที่จะให้บริการเฉพาะผู้รับบริการที่แสดงหลักฐาน  ว่าได้รับวัคซีนตามกำหนด หรือ มีหลักฐานผลการตรวจยืนยัน  ว่าไม่มีเชื้อโควิค-19   ในระยะเวลา 72 ชั่วโมง ก่อนการใช้บริการโดยวิธี RT-PCR หรือ ชุดตรวจ ATK              

“ย้ำให้ทุกกิจกรรม ที่ได้รับการผ่อนคลาย ร่วมปฏิบัติตามมาตรการ อย่างเคร่งครัด  ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย  การตรวจวัดอุณหภูมิ หรือขอผล ATK  และการเว้นระยะห่าง  เพราะหากดำเนินการได้ การผ่อนผันผ่อนคลายก็จะมีเพิ่มขึ้น แต่หากปล่อยปะละเลยจนกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ก็อาจนำไปสู่การทบทวนอีกครั้ง  จึงอยากขอความร่วมมือให้ทุกฝ่ายช่วยกัน  เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางของหลายๆประเทศ  ที่กำลังปรับเพื่อให้อยู่กับโควิดในฐานะโรคระบาดประจำถิ่นให้ได้ต่อไป” พญ.อภิสมัย กล่าว .- สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]