ทำเนียบรัฐบาล 20 ก.ย.- ศบค.ย้ำ กทม.ยังไม่กำหนดวันรับนักท่องเที่ยว แต่มีแนวโน้มสถานการณ์ดีขึ้น เชื่อเปิด Sandbox ได้แน่นอน เตือนทุกหน่วยระวังงานเลี้ยงมุทิตาจิต ชี้หน่วยราชการต้องเป็นตัวอย่างที่ดี
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายวันในกรุงเทพฯ วันนี้ 2,831 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อในจังหวัดอื่นๆ ที่แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะไม่สูงอยู่ใน 10 อันดับแรก แต่ก็มีรายงานการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนที่กรมควบคุมโรครายงานวันนี้ ได้แก่ แคมป์คนงานก่อสร้างที่ ปราจีนบุรี จันทบุรี ระยอง กาญจนบุรี ตลาด งานศพ ที่จังหวัดอุดรธานีเป็นคลัสเตอร์ใหญ่เกิน 200 ราย หลายจังหวัดเป็นการติดเชื้อในตลาดสด เช่น สระแก้ว ชัยภูมิ นครศรีธรรมราช และศูนย์ฝึกทหาร นักเรียน ทหาร นักบวช ที่จังหวัดสตูล ชุมชน การสัมผัสร่วมบ้าน เป็นคลัสเตอร์ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ปัตตานี ยะลา และสงขลา นอกจากนี้ยังมีคลัสเตอร์ตั้งวงดื่มสุราในหน่วยงานราชการ จึงขอเน้นย้ำให้หน่วยงานราชการเข้มงวดมาตรการ โดยเฉพาะงานเกษียณอายุราชการ งานมุทิตาจิต โดยกรมควบคุมโรค รายงานว่าหลายรายทราบว่าตัวเองติดเชื้อแล้วยังออกไปใช้ชีวิตตามปกติ รวมถึงผู้สัมผัสเสี่ยงสูงก็ไม่มีการกักตัว จึงอยากให้ประชาชนเข้มงวดมาตรการส่วนบุคคลไปอีกระยะ
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า หลายจังหวัดเริ่มมีการวางแผนพัฒนาให้เป็นพื้นที่นำร่องเพื่อเปิดรับการท่องเที่ยวการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญ โดยต้องมีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง อัตราการตาย การพบผู้ติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ลดลง เป็นปัจจัยสำคัญที่จะพิจารณาให้เปิดพื้นที่ท่องเที่ยวได้ เช่นเดียวกับ กทม. ซึ่งมีการฉีดวัคซีนเข็ม 1 เกิน 100% คือ 7,863,347 ราย, เข็มที่ 2 ฉีดแล้ว 3,277,404 ราย คิดเป็นคิดเป็นร้อยละ 42.57, เข็มที่ 3 ฉีดแล้ว 197,982 ราย
ส่วนเตียงรองรับของ กทม. community isolation หรือสุญญากาศและดูแลในชุมชน ยังเปิดรับผู้ติดเชื้อได้อีก 64 แห่ง ซึ่งแนวโน้มผู้ป่วยลดลงอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับ home isolation หรือการแยกกักตัวที่บ้าน มีผู้ป่วยลงทะเบียนใหม่ 306 ราย ซึ่งตัวเลขก็เริ่มลดลงเช่นกัน หากตัวเลขลดลงเรื่อยๆ ต่อไป มีความเป็นไปได้ที่กรุงเทพฯ จะสามารถเปิดเมือง เป็นกรุงเทพแซนด์บ็อกซ์ ได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ศปก.ศบค. วันนี้ พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ย้ำว่ากรุงเทพแซนด์บ็อกซ์ยังไม่ได้กำหนดวัน โดยหลักเกณฑ์การพิจารณา คือ ประชาชนในกรุงเทพฯ จะต้องได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 เกินร้อยละ 70 และอัตราผู้ติดเชื้อรายวันก็จะต้องมีทิศทางลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะมีการพิจารณาควบคู่กับศักยภาพเตียงรองรับ หากมีการพบว่ามีการติดเชื้อสูงขึ้น หรือเป็นกลุ่มก้อน กทม. จะต้องมีศักยภาพที่สามารถรองรับได้ ก่อนที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวจากพื้นที่อื่น หรือจากต่างประเทศ ทั้งนี้ที่ผ่านมา กทม. มีการหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการภาคเอกชนต่างๆ รวมทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ขนส่งสาธารณะ วันพุธที่ 22 กันยายนนี้ กทม.จะมีการประชุม video conference ร่วมกับทีมภูเก็ต เพื่อเรียนรู้ร่วมกันด้วย
ส่วนที่จังหวัดอื่นๆ เช่น เชียงใหม่ ประชาชนที่จะได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม เกินร้อยละ 70 ประมาณเดือนพฤศจิกายน และที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่ก็มีอัตราของผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่อง การบริหารจัดการผู้ติดเชื้อที่พบเป็นคลัสเตอร์ เชียงใหม่ก็ทำได้ดี ดังนั้นการพิจารณาเปิดเมืองเป็นพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวน่าจะมีความเป็นไปได้ ส่วนจังหวัดชลบุรี แม้ว่าจะมีรายงานผู้ติดเชื้อทั้งจังหวัดค่อนข้างสูง แต่หากพิจารณาเป็นรายอำเภอ เช่น ศรีราชา บ้านบึง สัตหีบ จะพบว่าแต่ละอำเภอมีอาการผู้ติดเชื้อที่แตกต่างกัน ดังนั้นการจะพิจารณาเป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว หรือเปิดกิจการตามเศรษฐกิจของพื้นที่นั้นๆ หากจะทำก็อาจจะเลือกเป็นบางอำเภอ หรือบางจังหวัด ระดับอำเภอยังไม่พร้อม จะเลือกเป็นพื้นที่ย่อยระดับตำบลก็ได้ ที่จะใช้เป็นพื้นที่นำร่องสำหรับการเปิดเมืองตามวิถีใหม่ covid free setting โดยหลักเกณฑ์การพิจารณา จะต้องฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในอำเภอหรือตำบลนั้นๆ ให้ครบร้อยละ 80 พนักงานที่เปิดร้านจะต้องได้รับวัคซีนครบ 100% โดยเป้าหมายทั่วประเทศ เดือนตุลาคม จะเป็นการระดมฉีดวัคซีนทั่วประเทศ
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ขอเน้นย้ำการที่สถานประกอบการซื้อชุดตรวจ ATK ให้กับพนักงาน สามารถลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า แม้พนักงานจะเป็นแรงงานต่างชาติ หรือแคมป์คนงานก่อสร้างก็ตาม ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข จะนำเสนอมาตรการต่างๆ เข้าสู่ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ครั้งต่อไป พร้อมเน้นย้ำว่าทุกกิจการจะไม่ถูกหลงลืม ไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนตร์ สถานบันเทิงต่างๆ เพียงแต่ขอให้ช่วงนี้ค่อยๆเปิดเพื่อให้เป็นไปอย่างมั่นคง ปลอดภัย ใครพร้อมเปิดก่อน หากทุกคนให้ความร่วมมือ เชื่อว่า เราจะสามารถผ่านวิกฤตนี้ไปได้แน่นอน.-สำนักข่าวไทย
