ศบค.เตือนคลายล็อกดาวน์หากคุมไม่ดี อาจติดเชื้อแตะ 3 หมื่นราย

ทำเนียบ 6 ก.ย. – ศบค. เผยไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 13,988 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 17,284 ราย กำลังรักษาอยู่ 148,622 ราย เสียชีวิต 187 ราย อายุน้อยสุด 13 ปี มีโรคประจำตัว เตือนคลายล็อกดาวน์หากคุมไม่ดี ต้นเดือน ต.ค. อาจติดเชื้อ 3 หมื่นรายต่อวัน

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13,988 ราย โดยแบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 13,544 ราย ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 11,561 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 1,966 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 444 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 17 ราย ผู้ติดเชื้อสะสม 1,294,522 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 17,284 ราย สะสม 1,132,858 ราย กำลังรักษาอยู่ 148,622 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 44,954 ราย และโรงพยาบาลสนาม 103,668 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 4,601 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,013 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 187 ราย รวมเสียชีวิต 13,042 คน


ขณะที่ยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกเดือนเมษายน เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 เป็นต้นมา พบผู้ติดเชื้อแล้ว 1,265,659 ราย หายป่วยสะสม 1,105,432 ราย เสียชีวิตสะสม 12,948 ราย ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 5 กันยายน 2564 มีผู้รับวัคซีนสะสมทั้งหมด จำนวน 35,912,894 โดส วันที่ 5 กันยายน 2564 มีผู้รับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 129,317 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 195,241 ราย เข็มที่ 3 จำนวน 660 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงแบบจำลองคาดการณ์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ว่า จากการล็อกดาวน์ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. ได้รับความร่วมมือ สามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ระดับหนึ่ง เป็นผลจากมาตรการเข้มข้นที่ได้รับความร่วมมือจากภาคธุรกิจและผู้ประกอบ และประชาชน แต่ ศบค.มีการปรับมาตรการ จึงเห็นบรรยากาศที่ประชาชนเข้าห้างสรรพสินค้าไปซื้อของ จึงขอฝากให้ทุกคนดูแลตัวเองให้ดี การ์ดอย่าตก เพราะหากคุมสถานการณ์ไม่ดีอาจเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นในเดือน ต.ค. วันละ 3 หมื่นรายได้


“ตามการคาดการณ์ จะมีแรงเฉื่อยปลายเดือนนี้ และต้นเดือนตุลาคม เส้นเหล่านี้จะพุ่งขึ้น หมายถึงว่าจะมีคนไข้ที่ป่วยมากขึ้นกว่านี้อีก ตรงนี้แหละครับน่ากลัว ถ้าคุมไม่ดีจะไปแตะที่ 3 หมื่นรายต่อวันได้เช่นเดียวกัน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 187 ราย ชาย 101 ราย หญิง 86 ราย เป็นชาวไทย 181 ราย เมียนมา 4 ราย จีน 1 ราย อเมริกัน 1 อายุค่ากลาง 70 ปี อายุน้อยสุด 13 ปี อายุมากสุด 95 ปี แบ่งเป็น กทม. 24 ราย ชลบุรี 20 ราย สมุทรสาคร 17 ราย ปทุมธานี 16 ราย พระนครศรีอยุธยา 12 ราย นครปฐม อ่างทอง จังหวัดละ 11 ราย สระบุรี 13 ราย สระบุรี 10 ราย สมุทรปราการ สุพรรณบุรี จังหวัดละ 5 ราย นนทบุรี ปัตตานี สงขลา ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา จังหวัดละ 4 ราย ชัยภูมิ ตาก ระนอง ลพบุรี สมุทรสงคราม 3 ราย เชียงราย นครสวรรค์ ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี จังหวัดละ 2 ราย มหาสารคาม อุบลราชธานี นครราชสีมา พิษณุโลก สตูล พัทลุง ยะลา ตรัง ราชบุรี ระยอง นครนายก ตราด เพชรบุรี จังหวัดละ 1 ราย โรคประจำตัวยังเป็นปัจจัยเสี่ยงความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง พบผู้ป่วยอายุ 60 ปีขึ้นไป 131 ราย อายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 41 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 14 ราย เด็กอายุ 13 ปี จ.ตาก มีโรคประจำตัว เสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย จ.ระยอง ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อจากคนรู้จัก คนในครอบครัว

ส่วนแบบจำลองจากกระทรวงสาธารณสุข ที่คาดการณ์ผู้เสียชีวิตกับตัวเลขคาดการณ์จากมาตรการล็อกดาวน์ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การเสียชีวิตประมาณ ต.ค. พุ่งขึ้นอีก แต่ไม่สูงเท่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นผลจากการเร่งฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ และฉีดวัคซีนให้กับ 8 กลุ่มโรค


สำหรับ 10 อันดับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ วันที่ 6 ก.ย. 2564 คือ 1.กรุงเทพมหานคร 3,610 ราย 2.สมุทรปราการ 868 ราย 3.สมุทรสาคร 711 ราย 4.ชลบุรี 703 ราย 5.เพชรบูรณ์ 488 ราย 6.ระยอง 464 ราย 7.นนทบุรี 300 ราย 8.พระนครศรีอยุธยา 294 ราย 9.นครราชสีมา 278 ราย 10.ราชบุรี 267 ราย ขณะที่ผู้ป่วยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 3,610 ราย ที่อยู่ขณะป่วยอยู่ในกทม. 3,169 ราย ที่อยู่ขณะป่วยอยู่ต่างจังหวัดเข้ารักษาโรงพยาบาลในกทม. 441 ราย มี 10 อันดับเขต ที่พบผู้ป่วยสูงสุด ดังนี้ 1.หลักสี่ 135 ราย 2.จอมทอง 132 ราย 3.บางกะปิ 125 ราย 4.บางขุนเทียน 101 ราย 5.บางคอแหลม 101 ราย 6.หนองแขม 96 ราย 7.ประเวศ 92 ราย 8.บางบอน 90 ราย 9.ธนบุรี 89 ราย 10.บางแค 89 ราย

ขณะที่สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก วันจันทร์ที่ 6 กันยายน 2564 เวลา 10.00 น. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 221,542,850 ราย อาการรุนแรง 105,498 ราย รักษาหายแล้ว 198,036,657 ราย เสียชีวิต 4,581,744 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1.สหรัฐอเมริกา จำนวน 40,805,259 ราย 2.อินเดีย จำนวน 33,027,136 ราย 3.บราซิล จำนวน 20,890,779 ราย 4.รัสเซีย จำนวน 7,012,599 ราย 5.สหราชอาณาจักร 󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿จำนวน 6,978,126 ราย ส่วนประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 29 จำนวน 1,294,522 ราย

นพ.วีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าที่จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ก็จะมีการดูตัวเลขต่างๆ ในรอบ 14 วันที่ผ่านมานำมาประกอบด้วย

“ผมก็อยากจะฝากทุกท่านว่า วันนี้เรากินบุญเก่าของ 2 สัปดาห์ที่แล้ว และถ้าวันนี้เราจะต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อที่จะมีผลไปอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้กิจการ กิจกรรมต่าง ๆ ที่สื่อบอกว่าเป็นการผ่อนคลาย แต่ผมก็อยากบอกว่าเป็นการปรับมาตรการ ขอให้ท่านการ์ดอย่าตก ซึ่งมีคำขยายความไม่ว่าจะเป็น universal prevention เรื่องของบับเบิลแอนด์ซีล อะไรทั้งหลายแหล่ มีศัพท์ต่าง ๆ มากมาย แต่ที่สุดแล้วถ้าท่านทุกคนมีสุขอนามัยอย่างดี ดูแลตัวเอง ซึ่งเราไม่อยากให้กราฟสีเขียวพุ่งขึ้นมาและทำให้เกิดติดเชื้อวันละ 3 หมื่นคนอีก” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าวในตอนท้าย และว่าขณะนี้ทฤษฎีด้านการแพทย์ที่จะกำจัดโรคนี้ไปเป็นศูนย์ ไม่ได้หวังอย่างนั้นแล้ว ว่าจะกำจัดโควิด-19 ไปได้ ซึ่งก็จะเหมือนกับวัณโรค ไข้หวัดใหญ่ ที่จะต้องอยู่คู่กับโลกนี้ โควิด-19 ก็เช่นเดียวกัน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]