กสม.จัดเวทีระดมความคิดเห็น สิทธิเด็กกับการชุมนุม

กสม. 30 ส.ค.-กสม.เปิดเวทีรับฟังความเห็นสิทธิเด็กกับสถานการณ์การชุมนุม “โมเดลสมรภูมิดินแดง” เห็นพ้องให้รัฐเปิดพื้นที่รับฟังเด็ก-เยาวชน ร่วมทำแผนชุมนุมสาธารณะ วางกรอบกติกาชุมนุม

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม.จัดเวทีระดมความคิดเห็น : สิทธิเด็กกับสถานการณ์การชุมนุม (กรณีสามเหลี่ยมดินแดง) โดยนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิฯ กล่าวว่า สิ่งที่น่าห่วงคือเด็กในการชุมนุม โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงที่เกิดความรุนแรงขึ้น กสม.คิดว่าเรื่องสิทธิเด็กและการชุมนุมทางการเมืองคงได้รับการปรึกษาหารือ เพื่อปกป้องสิทธิเด็กไม่ให้ถูกละเมิด


นายโยธิน ทองพะวา ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การชุมนุมของเด็กและเยาวชนมาจากความกดดันที่เป็นปัญหามาจาการการไม่สามารถจัดการกับโรคระบาดได้ และปัญหาปากท้อง ที่เยาวชนเข้าไม่ถึงการเยียวยา เป็นการกดทับของหลายๆ ปัญหาจนเขาต้องออกมาเหมือนการปะทุของระบเบิดเวลา โดยการแก้ปัญหา ช่องทางที่รับฟังเสียงไม่ใช่แค่ในช่องทางในปัจจุบัน กลไกการรับฟังควรมีคนที่มีอำนาจในการแก้ปัญหาจริงมารับฟังบ้าง อย่างกรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการออกมารับฟังม็อบนักเรียนเลว

ส่วนระบบการดูแลเด็กในม็อบ นอกจากจะมีนักสังคมสงเคราะห์แล้ว นักสังคมสงเคราะห์จะต้องเป็นคนที่มีความรู้ความเข้าใจ และไม่มีความคิดสุดโต่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และต้องมีความเป็นมิตร เพื่อให้สามารถเข้าถึงเด็กได้ง่ายขึ้น ส่วนการดำเนินคดีเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ควรมีความแตกต่างจากการดำเนินคดีปกติ เพราะจะกลายเป็นการกดดันเด็ก


ด้าน น.ส.ปิยะนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์ทั้งปีที่ผ่านมา มีกว่า 1,500 การชุมนุม โดยในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. มีเยาวชนเป็นร้อยคนถูกดำเนินคดี บางคนถูกดำเนินคดีแล้ว 18 ครั้ง และทุกคืนมีเยาวชนถูกจับจากการชุมนุม ในช่วงควบคุมตัวเจ้าหน้าที่มีการใช้อำนาจไม่ชอบ ทั้งการล็อกมือไขว้หลัง การยึดโทรศัพท์ หลังจากดำเนินคดียังมีการคุกคามข่มขู่ รวมทั้งการติดตาม ทั้งนี้ควรมีการแยกกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงไม่ใช่ปฏิบัติเหมารวม เพื่อให้การเกมาะสมกับสัดส่วน

อย่างไรก็ตามแม้มีเยาวชนบางกลุ่มมีการใช้ความรุนแรง แต่จะบอกว่าจะใส่ใจแค่เด็กที่ชุมนุมโดยไม่ใช้ความรุนแรงไม่ได้ ดังนั้นจะต้องหาวิธีรับฟังและเข้าใจเด็ก ไม่ควรมองว่าเด็กเป็นคู่ต่อสู้ ที่สำคัญคือการเอาตำรวจที่ทำนอกเหนือหน้าที่มารับผิดชอบ และไม่ควรมีเหตุการณ์รุนแรงหรือเด็กโดนทำร้ายอีกต่อไป

นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) กล่าวว่า การชุมนุมในพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดง สถานการณ์มีแนวโน้มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดมีการนัดชุมนุมกันในวันที่ 1 กันยายน ทั้งนี้ข้อกฎหมาย 1.เกี่ยวกับการชุมนุมที่มีปัญหาคือ การจับที่ใช้เครื่องพันธนาการ และมีการใช้กำลังเข้าจับ 2.เรื่องการสอบสวนเด็กและเยาวชนต้องมีผู้ปกครองอยู่ด้วยเสมอ แต่การปฏิบัติของตำรวจมีการยึดมือถือไม่ให้ติดต่อญาติ ทั้งนี้สำหรับการชุมนุมเจ้าหน้าที่ควรให้โอกาสเขาเดินให้ไปถึงบางอย่าง ใกล้เคียงจุดหมายบางอย่างโอกาสที่การใช้ความรุนแรงก็น้อย ทั้งนี้บ้านนายกฯอยู่ในค่ายทหาร หากมีการป้องกันก็เชื่อว่าสามารถควบคุมไม่ให้บุกรุกเข้าในค่ายได้ แต่หากมีผู้ชุมนุมบางคนบุกเข้าไปได้ก็ทำการจับกุมฐานบุกรุกสถานที่ราชการได้ แต่ผู้ชุมนุมสามารถไปถึงหน้าบ้านนายกฯ ตะโกนด่านายกฯ ได้ระบายความอึดอัดจากปัญหา พอถึงกำหนดเวลาก็กลับ แต่ปัญหาคือผู้บัญชาการตำรวจที่ซีเรียสเกินไป โดยการห้ามผู้ชุมนุมไปโดยเด็ดขาด จึงนำไปสู่การบาดเจ็บจำนวนมาก จากการใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง และแนวโน้มในอนาคตมีแต่จะชุมนุมถี่ขึ้นและมีโอกาสที่ความรุนแรงจะไต่ระดับเพิ่มขึ้นไปอีก ดังนั้นตำรวจระดับนโยบายควรซีเรียสน้อยลง


อย่างไรก็ตามต้องมองสมรภูมิดินแดงที่เกิดขึ้นว่าเป็นการชุมนุมทางการเมือง ไม่ใช่การจลาจล ไม่ได้ทำความเสียหายต่อประชาชนทั่วไป หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร แต่มีเป้าหมายเฉพาะ และแม้ใช้ความรุนแรงแต่เบื้องหลังความรุนแรงมีสาเหตุและที่มา ต้องแก้ปัญหาที่ที่มาด้วย ไม่ใช่แค่การจับกุม

น.ส.พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ องค์กร Article19 กล่าวว่า การมีเด็กในที่ชุมนุมไม่ใช่ปรากฏการใหม่ของทั่วโลก แต่อาจเป็นปรากฎการณ์ใหม่ของไทย ซึ่งถึงจุดที่เราต้องยอมรับว่ามีเด็กจำนวนมาก ดังนั้นมาตรฐานการปฏิบัติไม่ควรเป็นการใช้วิธีเดียวกับการปฏิบัติกับผู้ใหญ่ รวมทั้งการใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางอาจจะมีผลกระทบระยะยาวต่อเด็กได้ ซึ่งในทางกฎหมายระหว่างประเทศเด็กมีสิทธิประท้วงแสดงความคิดเห็นเท่ากับผู้ใหญ่ แต่เด็กจะได้รับการคุมครองเป็นพิเศษ

ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนควรได้รับการอบรมเรื่องการปฏิบัติต่อเด็กและสิทธิเด็ก ด้วยมาตรฐานระหว่างประเทศ เกี่ยวกับสิทธิการชุมนุมสิทธิเด็ก รวมทั้งรูปแบบการควบคุมตัวก็ควรแตกต่างออกไป นอกจากนั้น กสม.ควรปกป้องเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ถูกนำข้อมูลส่วนตัวมาเปิดเผยในโซเชียลมีเดีย หรือการล่าแม่มด นอกจากนั้นควรเปิดพื้นที่ชุมนุม โดยรัฐต้องคอยปกป้องไม่ให้เกิดความรุนแรง ไม่ใช่การไปบอกว่าห้ามทำอะไรหรือทำอะไร

ผศ.ดร.ปารีณา ศรีวนิชย์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เรื่องสิทธิเด็กกับการชุมนุมเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เป็นการเปลี่ยนสู่สังคม GEN Z ซึ่งเติบโตขึ้นมากับการกล้าแสดงออก และเทคโนโลยีไอที ที่สำคัญคือคนกลุ่มนี้เติบโตมาพร้อมวิกฤติ ทั้งวิกฤติต้มยำกุ้ง ภัยธรรมชาติ สึนามิ และความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งในช่วงเวลา 20 ปี มีนายกฯ และผู้นำรัฐประหาร 10 คน มีการรัฐประหาร 2 ครั้ง ซึ่งการชุมนุมสาธารณะมีมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้เป็นการชุมนุมที่มีเด็กและเยาวชนที่ออกมาชุมนุมจำนวนมาก โดยสิทธิการชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน แต่จำกัดได้เท่าที่จำเป็นและได้สัดส่วน ผู้ใหญ่ควรฟังอย่างจริงจัง ในข้อเรียกร้องของเด็ก ไม่ใช่ปิดสิทธิของเขา ทั้งนี้ควรปรับทัศนติเรื่องการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ต้องเข้าใจว่าการชุมนุมโดยสงบของแต่ละฝ่ายคืออย่างไร นอกจากนั้นหน่วยงานของรัฐควรมีหน้าที่ปกป้องเด็กในการชุมนุมด้วย เพื่อสนับสนุนการใช้สิทธิของเขา และภาครัฐควรระมัดระวังอย่างมากในการใช้ความรุนแรง ควรมีการจัดทำแผนว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ไม่ใช่แค่มุมมองการใช้อำนาจรัฐอย่างเดียว

น.ส.อรพินท์ ศักดิ์เอี่ยม ผู้เชียวชาญด้านเด็ก กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า เห็นด้วยในประเด็นให้เด็กและเยาวชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในทุกเรื่องที่มีผลกระทบต่อตัวเด็กและเยาวชน แต่ต้องอยู่บนหลักการที่ไม่กระทบต่อความคิดเห็นของผู้อื่น ควรเป็นการชุมนุมโดยสงบ และต้องไม่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่น ต้องเคารพสิทธิผู้อื่นได้ อย่างไรก็ตามเห็นด้วยกับการเปิดเวทีรับฟังเสียงทุกฝ่าย ซึ่งทางกรมกิจการเด็กและเยาวชน ก็มีช่องทางรับฟังเด็กและเยาวชน ส่วนเรื่องการตอบสนองต่อข้อเสนอแนะแม้จะไม่ได้ 100% แต่ก็พยายามตอบสนอง ส่วนกรณีเด็กและเยาวชนที่ถูกจับกุม ตำรวจมีการประสานให้นักสังคมสงเคราะห์เข้าร่วมด้วยในทุกครั้ง

นายมงคล บางประภา นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปฏิบัติกับผู้ชุมนุมที่เป็นเยาวชนควรมีความแตกต่างกับกรณีผู้ชุมนุมทั่วไป รวมทั้งการปฏิบัติกับอาชญากรที่จะต้องมีความแตกต่างกันออกไป ส่วนการแยกแยะกลุ่มผู้ชุมนุมผู้ที่ก่อความรุนแรง และกลุ่มที่ไม่ใช้ความรุนแรง คิดว่าเจ้าหน้าที่จะแยกได้ลำบาก ดังนั้นผู้จัดการชุมนุมจะต้องช่วยปรามในการใช้ความรุนแรง เพราะการออกมาใช้สิทธิจะต้องอยู่บนพื้นฐานสิทธิและผลกระทบของคนอื่นด้วย นอกจากนั้นเด็กเล็กไม่ควรอยู่ในพื้นที่ชุมนุม เพราะหากเกิดความรุนแรงขึ้นจะเป็นอันตราย แต่ไม่ได้หมายความว่าปิดกั้นการแสดงออก ควรจะมีเวทีแสดงออกโดยเฉพาะ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]