ส.ส.มองงบพลังงานไม่มีโครงการเพื่อประชาชน

รัฐสภา 20 ส.ค.-“ชวน” เตือน ส.ส.รักษามาตรฐานสภาฯ ทำตามข้อบังคับการประชุม หลังมี ส.ส.ไม่เข้าใจการแปรญัตติ ขณะสภาฯ ถกงบ ก.พลังงาน ชี้ปล่อยปละละเลยไม่มีโครงการเพื่อประชาชน


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วาระที่ 2 และ 3 วันที่ 3 เริ่มพิจารณามาตรา 18 งบประมาณกระทรวงพลังงาน จำนวน 1,873,129,300 บาท ทั้งนี้ ก่อนเริ่มการประชุม นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า สมาชิกส่วนใหญ่ได้ยึดตามแนวข้อบังคับ ซึ่งการแปรญัตติอาจมีบางท่านทำไม่ได้ด้วยความไม่เคยชิน แต่ขอเตือนอีกครั้งว่า การเตือนนี้ไม่ได้จุกจิกจู้จี้ แต่เพื่อให้ทุกคนได้รักษามาตรฐานของสภาฯ สมาชิกย่อมมีสิทธิในการอภิปราย เพราะเป็นการแปรญัตติ แต่ในข้อบังคับหากไม่ได้แปรญัตติ และไม่ได้สงวนความเห็น ก็อภิปรายได้เฉพาะถ้อยคำที่มีการเปลี่ยนแปลงตามข้อบังคับ ถ้าเข้าใจจุดนี้จะได้ปฏิบัติภารกิจได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น เพราะบันทึกทุกคนที่อภิปรายจะเป็นประวัติศาสตร์วันข้างหน้า หากคนมาอ่านก็จะได้เข้าใจว่า สมาชิกท่านนี้รู้กฎเกณฑ์หรือไม่

จากนั้นได้เข้าสู่วาระการประชุมพิจารณามาตรา 18 งบประมาณกระทรวงพลังงาน โดยนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 กล่าวว่า กรรมาธิการฯ ปรับลดงบกระทรวงพลังงานไม่มาก ซึ่งในส่วนของตนได้สงวนความเห็นกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (2) แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาความมั่นคงทางพลังงาน รายการเงินอุดหนุนการชดเชยส่วนต่างการซื้อน้ำมันดิบของการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย 100 ล้านบาท


“รับทราบข้อมูลว่า กระบวนการน้ำมันปาล์มที่นำเข้ามาโดยไม่ถูกต้อง และปิดบังอำพรางบางส่วน บางครั้งก็สวมสิทธิโดยมิชอบ นำน้ำมันภายนอกเข้ามาทำราคาน้ำมันปาล์มให้สูงขึ้น หากสังเกตจะพบว่า ช่วงหลังๆ น้ำมันปาล์มมีราคาแพง แม้จะมีเงินชดเชยเงินอุดหนุนให้กับกรมพัฒนาพลังงานฯ ก็ไม่ได้หมายความว่า ตลาดค้าน้ำมันปาล์มดิบที่นำมาใช้มีความไม่ชอบมาพากลในกระบวนการอยู่ และมีมูลค่าที่สูงมาก จึงอยากให้ ส.ส. ผู้ที่เป็น กมธ.ได้ติดตามและตรวจสอบ เพื่อให้ผลประโยชน์ของประเทศไม่รั่วไหล และให้ประชาชนใช้สินค้าที่มีราคายุติธรรม พร้อมทั้งให้กระบวนการทุจริตถูกปราบปราม” นายเรืองไกร กล่าว

นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ได้สงวนความเห็นขอตัดลดงบกระทรวงพลังงาน 10% ซึ่งได้ตั้งโจทย์ไว้ตั้งแต่ในวาระ 1 อาทิ นโยบายของกระทรวงพลังงาน เป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชนหรือไม่ น้ำมันแพง ของแพง ก๊าซ ค่าไฟ ขนส่งแพง กระทบประชาชนทั้งสิ้น เอกสารงบฯ ระบุว่า ตัวชี้วัดสำคัญที่สุด คือ การตั้งราคาพลังงานไปยึดโยงกับรายได้ของครัวเรือน ซึ่งมันไม่ได้ ประเทศมีพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติเพียงส่วนหนึ่ง มันต้องเกลี่ยต้นทุน ไม่ใช่เอาต้นทุนไปเทียบกับกำลังซื้อของประชาชนเป็นหลัก ตรงนี้มันผิดแต่ต้น จึงอยากถามว่า กรรมาธิการฯ ซักถามหรือไม่ว่า นโยบายกระทรวงฯ เป็นอย่างนี้หรือไม่

“ผมบอกว่าให้ช่วยไปดูราคาหน้าโรงกลั่นของเราที่แพงกว่าภูมิภาคนี้ ตั้งแต่ปี 61, 62, 63 และ 64 เห็นชัดว่าสูงกว่าทุกปี ซึ่งปี 64 สูงกว่าถึง 61% และราคาก๊าซ ผมก็ชี้ให้เห็นในคราวที่แล้วว่า หลักคิดของราคาก๊าซ ไปคิดอ้างอิงราคาตลาดทั้งที่ประเทศไทยมีก๊าซส่วนหนึ่งในประเทศ มีต้นทุนต่ำกว่า คำตอบคือ สำนักปลัดฯ ออกมาชี้แจง ซึ่งอยู่ในรายงานการประชุมกรรมาธิการฯ ว่า จะปรับลดเงินเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงาน จาก 10 สตางค์ เป็น 5 สตางค์/ลิตร ท่านได้ดูหรือเปล่าว่าลดแค่นี้พอหรือไม่ อีกประการคือ ไม่ได้บอกว่าจะทำเมื่อไหร่ พูดลอยๆ กรรมาธิการฯ พอใจหรือ เพราะนี่คือทุกข์ของประชาชน” นายเกียรติ กล่าว


นายเกียรติ กล่าวว่า เรื่องก๊าซธรรมชาติ สำนักนโยบายและแผนพลังงาน ระบุไว้ในรายงานการประชุมว่า เปิดเสรีก๊าซธรรมชาติ ปตท.เป็นผู้ดำเนินการ คำถามคือ เรามีกำกับดูแลกิจการพลังงานทำไม ท่านเขียนในรายงานของท่านอย่างนั้น แล้วท่านพอใจกับคำตอบนี้หรือว่า ปตท.จะเป็นผู้ดำเนินการในแง่ซึ่ง ปตท.เป็นเพียงตัวละครตัวหนึ่ง แต่กรรมาธิการท่านไปบันทึกไว้ในรายงาน ผมก็ต้องตั้งคำถามกับกรรมาธิการ เพราะตรงนี้เป็นงานของกรรมาธิการ ไม่เกี่ยวกับกระทรวงแล้ว ทำไมกรรมาธิการยอมรับคำพูดและคำตอบเช่นนี้ มันผิดตั้งแต่ต้น และอีกเรื่องคือ กรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) บอกว่า ปรับราคาหน้าโรงกลั่น 50 สตางค์/ลิตร ปรับไปตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.63 ท่านได้ไปดูหรือไม่ว่า ปรับหน้าโรงกลั่นก็จริง แค่ค้าปลีก ที่ปั๊มไม่มีการปรับ และกำไรยังอยู่ในระบบทั้งหมด

“ถ้ากระทรวงฯ ตอบมาอย่างนี้ มันไปได้หรือ กรรมาธิการฯ ยังอนุมัติให้หรือ คำตอบมีบันทึกไว้ในรายงานการประชุมเช่นกันว่า มาถามอะไรเรื่องราคาประเทศไทยมันแพง เพราะราคาแต่ละประเทศต่างกัน เนื่องจากภาษีต่างกัน ผมไม่ได้พูดเรื่องเหล่านี้ ผมบอกว่าราคาหน้าโรงกลั่นไม่เกี่ยวกับภาษีในประเทศเลย คำตอบเหล่านี้มันหลงทาง ท่านกรรมาธิการฯ ได้โต้แย้งไปหรือไม่ ในมุมหนึ่งถ้าผมเป็นกรรมาธิการอยู่ ผมคิดว่า คำพูดอย่างนี้มันดูถูกกรรมาธิการ และราคาขายปลีกไม่ลดลงเลย ได้ตั้งคำถามกลับไปหรือเปล่า ต้นทุนพลังงานคือต้นทุนสินค้าทุกประเภท กระทบชีวิตประชาชน กระทบค่าไฟ นี่คือเรื่องใหญ่ ผ่านไปง่ายๆ ไม่ได้ พอผมอ่านรายงานการประชุมยิ่งกังวลไปอีก ผมไม่มีอะไรมาก แต่ขอคำชี้แจงว่า เวลาท่านเรียกเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ มาอธิบายใน กมธ. เขาชี้แจงมาแบบนี้ แล้วท่านยอมรับคำชี้แจงแบบนี้หรือเปล่า หรือมีแนวทางที่แนะนำไป แต่ไม่ได้บันทึกในรายงานการประชุมหรือเปล่า” นายเกียรติ กล่าว

นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า ขอเสนอปรับลดงบประมาณปี 2565 ของกระทรวงพลังงานลง 7% ทั้งนี้ ตนไม่รู้จัก รมว.พลังงาน เป็นการส่วนตัว และไม่มีธุรกิจเกี่ยวกับพลังงาน ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนในกระทรวงฯ แต่ตนเป็นผู้หนึ่งที่ใช้พลังงานทุกรูปแบบ และได้รับผลกระทบทุกครั้งกับนโยบายของกระทรวงพลังงาน ปัจจุบันวิกฤติเศรษฐกิจการลงทุนของไทยตกต่ำ ธุรกิจที่อยู่รอดคือกลุ่มพลังงาน แม้ผลประกอบการจะลดลง ซึ่งกระทรวงพลังงานถูกปรับลดเพียงแค่ 10 ล้านบาท จากงบประมาณที่ขอไว้ เป็นการปรับลดลงน้อยมากแบบมีนัยสำคัญ โดยกระทรวงฯ ขอรับงบประมาณแบบชาญฉลาด ตั้งงบประมาณผูกพันประจำปีเกือบทุกโครงการ

“ไม่ว่าจะโครงการเล็กหรือใหญ่ ใช้วิธีการจากบริษัทมหาชนข้างนอกมาทำงบประมาณ เช่น การเช่ารถประจำตำแหน่งของเลขานุการรัฐมนตรี จำนวน 1.5 ล้านบาท โดยทำเป็นงบต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561-2565 อีกทั้งการจัดซื้อรถตู้ การจัดซื้อรถหกล้อ 1 ตัน การจัดซื้อรถกระบะ การจัดซื้อรถบรรทุก ใช้วิธีการเดียวกันหมด คือ งบผูกพัน จำนวน 20-30 คัน ที่ กมธ.ไม่สามารถตัดได้ เพราะถ้าตัดจะกระทบกับการใช้จ่ายงบต่อเนื่อง รวมถึงโครงการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานด้านพลังงานทดแทนก็ตั้งรายจ่ายค่าจ้างศึกษาความเหมาะสม และการสำรวจ ก็เป็นงบผูกพันต่อเนื่องไว้เกือบทุกโครงการ และราคาน้ำมันยังขึ้นต่อเนื่องในวิกฤติโควิดด้วย จึงถามว่า ทำไมราคาน้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า จึงสูงขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นงบทิพย์ที่ไม่สามารถตัดได้จริง ดังนั้น ตนจึงขอปรับลดลง 7%” นายณัฏฐ์ชนน กล่าว

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาเรื่องราคาค่าไฟฟ้าที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนเสนอปรับลดงบประมาณกระทรวงพลังงานลง 7% เพราะกรรมาธิการปรับลดงบประมาณกระทรวงนี้ลงน้อยมาก จึงขอถามกรรมาธิการว่า ได้ทำหน้าที่ดูแลให้ความเป็นธรรมเรื่องราคาพลังงานกับประชาชนมากน้อยเพียงใด

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอเสนอให้ปรับลดลง 10% ซึ่งกระทรวงนี้เหมือนจะของบประมาณมาน้อย ดูเหมือนน่าสงสาร และแลดูสวยงาม แต่เอาเข้าจริงเป็นงบประมาณที่มาก เพราะส่วนใหญ่มีรายรับ ความเป็นจริงไม่ควรให้งบกับกระทรวงนี้เลย แต่เป็นกระทรวงสำคัญและมีความจำเป็น เพราะหน่วยงานในกระทรวงนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินภาษีของประชาชน ที่ผ่านมามีบริษัทเอกชนที่เข้ามาลงทุนในไทยแล้วก็ฟ้องอนุญาโตตุลาการต่อกระทรวงพลังงาน มีการจ้างทนายเกือบ 1,000 ล้านบาท จากต่างประเทศ เพื่อสู้คดีที่ฟ้องรัฐบาลไทย ซึ่งกระทรวงพลังงานก็ต้องเอาเงินภาษีประชาชนไปจ้างทนายความเพื่อสู้คดี

“ถ้าเอาเงินงบที่ตั้งมาไปลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ไม่มีปัญหา แต่ตั้งงบมาเพื่อไปจ่ายทนาย ถามว่าใครเป็นคนผิด ใครพลาดก็จะต้องไปทวงตั้ง 7 ชั่วโคตร รัฐบาลผิดพลาด แต่ใช้ภาษีของประชาชนจ้างทนาย และราคาปาล์มน้ำมันที่ลดลง แต่รัฐบาลกลับแก้ปัญหาด้วยการสั่งการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตซื้อปาล์มจากภาคใต้มาโรงไฟฟ้าบางปะกง ผมขอฟ้องประชาชนว่า เงินที่ตั้งทั้งหมดไม่ได้เป็นการลงทุน แต่ไปใช้เรื่องที่ทำผิดพลาดทั้งสิ้น รวมทั้งถามว่า กระทรวงพลังงานปล่อยปละละเลยเอื้อกับกลุ่มทุนหรือไม่ หากทำตรงไปตรงมาไม่มีใครว่า อย่างไรก็ตาม รายละเอียดและข้อมูลทั้งหมด ขอให้ รมว.พลังงาน พิจารณาและดำเนินการ ทั้งนี้ ประเด็นที่เกี่ยวข้องขอให้ติดตามต่อในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ” นายจิรายุ กล่าว

นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการฯ อภิปรายว่า ในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร และ จ.เพชรบูรณ์ พบว่ามีการสำรวจปริมาณน้ำมัน โดยทุกคืนจะพบการขนน้ำมันออกจาก 2 พื้นที่ดังกล่าว โดยระบุว่าเพื่อการวิจัย แต่ข้อเท็จจริงพบว่านำไปขายให้ประเทศเพื่อนบ้าน จึงทำให้ในประเทศเมียนมามีน้ำมันราคาถูก ทั้งที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีน้ำมันมากสุดในอาเซียน จึงขอปรับลดงบประมาณกระทรวงพลังงาน เพื่อปรับแผนการบริหารงานให้ดูแลประชาชนที่เป็นผู้บริโภคน้ำมันแพงที่สุด การจัดตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ควรตั้งงบชดเชยหรือเหลื่อมล้ำระหว่างภูมิภาคกับพื้นที่เมืองให้ราคาเท่ากัน โดยรัฐบาลต้องชดเชยตัวเลขเหลื่อมล้ำค่าพลังงาน

จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติมาตรา 18 โดยเสียงข้างมาก 230 เสียง เห็นชอบตาม กมธ.เสียงข้างมาก ต่อ 109 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ก่อนที่ประชุมจะพิจารณามาตรา 19 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงพาณิชย์ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]