สภาฯ ผ่านวาระ 2 “งบกลาโหม” ปรับลด 3,226 ล้าน

รัฐสภา 18 ส.ค. – สภาฯ ผ่านวาระ 2 งบประมาณ ก.กลาโหม ด้วยคะแนน 226 ต่อ 123 เสียง ปรับลด 3,226 ล้านบาท จากวงเงินที่ตั้งไว้ 95,980 ล้านบาท ก่อนปิดประชุม 20.15 น. โดยจะพิจารณาต่อมาตรา 9 ในส่วนของ ก.คลัง พรุ่งนี้


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท วาระที่ 2-3

ช่วงเย็นเข้าสู่การพิจารณามาตรา 8 งบประมาณกระทรวงกลาโหม ที่กรรมาธิการปรับลดทั้งสิ้น 3,226 ล้านบาท จากวงเงินที่ตั้งไว้ 95,980 ล้านบาท


โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายขอสงวนคำแปรญัตติ ปรับลดงบฯ เป็น 26,733 ล้านบาท เนื่องจากกองทัพไม่ควรจัดซื้ออาวุธในวันที่ประชาชนล้มตาย และไม่ควรซื้อยุทโธปกรณ์ในวันที่ประชาชนต้องการวัคซีน

นายพิธา กล่าวว่า แม้กองทัพเรือได้ถอนเรือดำน้ำออกจากงบประมาณปี 65 แล้ว แต่ยังมีงบฯ สิ่งก่อสร้างและยุทโธปกรณ์สนับสนุนเรือดำน้ำ และอาวุธใหญ่อีกจำนวนมาก ทั้งท่าจอดเรือดำน้ำ โรงซ่อมเรือดำน้ำ คลังเก็บตอร์ปิโด เรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบก ระบบสื่อสารของเรือดำน้ำ และโดรนไร้คนขับ เป็นงบผูกพันกว่า 14,000 ล้านบาท เป็นงบฯ ปี 65 ประมาณ 3,000 ล้านบาท ตัวอย่างของอาวุธที่ควรตัดงบฯ คือ โครงการโดรนขนาดใหญ่ของกองทัพเรือ มีมูลค่าถึง 4,100 ล้านบาท ซึ่งมี 3 เหตุผลที่ตนต้องสงวนคำแปรญัตติ คือ

นายพิธา กล่าวว่า จากเหตุผลทั้ง 3 ข้อ เราจึงเห็นกองทัพใหญ่ๆ ระดับโลก เช่น กองทัพสหรัฐอเมริกา และกองทัพอินเดีย เริ่มพิจารณาลดการใช้โดรนขนาดใหญ่ลง ซึ่งสถิติหลอกกันไม่ได้ จะเห็นว่าโดรนขนาดใหญ่ที่กองทัพเรือต้องการซื้อ มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุในปี 2001-2014 ที่สูงมาก เมื่อดูตัวเลขโดรนเหล่านี้ที่ถูกซื้อมา 100 ลำ ตกถึง 48 ลำ ตามข้อมูลของหนังสือพิมพ์ระดับโลก พบว่าโดรน 48% ตกด้วยอุบัติเหตุ ไม่ได้ตกเพราะมีภาวะสงคราม แต่ตกด้วยตัวของโดรนเอง


ดังนั้น จึงเห็นว่า กองทัพอากาศในต่างประเทศที่ทบทวนการจัดซื้อโดรนขนาดใหญ่ เนื่องจากมีราคาสูง และเกิดอุบัติเหตุตกง่าย ไม่สามารถใช้ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งได้จริง กองทัพสหรัฐจึงลดการใช้โดรน โดยให้เหตุผลว่า แพงเกินไป และตกง่าย กองทัพอากาศอินเดียทบทวนการซื้อโดรน เพราะเชื่อว่าไม่สามารถใช้ในพื้นที่ขัดแย้งได้

นายพิธา กล่าวว่า การกระทำของกองทัพเรือ นอกจากจะผิดที่ ผิดเวลา ผิดกาลเทศะ ยังสวนกับทิศทางความมั่นคงระดับโลก ตนจึงขอตัดงบประมาณจำนวนดังกล่าว

ขณะที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการสัดส่วนพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งขอสงวนความเห็นเช่นกัน อภิปรายว่า งบประมาณเหล่าทัพบางส่วนน่าจะปรับลดลงได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน อีกทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยก็คาดการณ์การใช้จ่ายเงินแผ่นดิน จำเป็นต้องกู้เพิ่ม หรือตัวเลขจีดีพีที่ปรับลดลง ถ้าจีดีพีลดลง ก็หมายความว่ารายได้ของประเทศที่จัดเก็บผ่าน 3 กรมหลัก ก็จะลดลงในสัดส่วนเดียวกัน เมื่อลดลง สัดส่วนงบขาดดุล 700,000 ล้านบาท ก็อาจจะไม่เพียงพอ คงจะต้องปรับลดงบประมาณแต่ละรายการลง แต่ก็ขึ้นกับมติของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร

แต่มีรายการหนึ่งที่เห็นว่าไม่รู้จะตั้งมาทำไม คือ งบรายจ่ายอื่นของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ค่าใช้จ่ายในการดำรงสภาพกำลังกองทัพ 2,820,700 บาท มีอยู่ 3 รายการ รายการที่ขอปรับลดมีรายการเดียว เพราะน่าจะเป็นตัวเลขที่ไม่มีความสำคัญ คือ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต กองทัพทั้งกองทัพ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ตั้งรายการนี้ 47,900 บาท ไม่ทราบว่าตั้งมาทำไม นัยสำคัญแทบจะไม่มี จะปราบปรามการทุจริตได้อย่างไร ซึ่งการตั้งงบประมาณแผ่นดินต้องมีความสำคัญ จึงเสนอตัดงบฯ ในส่วนนี้

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ในส่วนของงบฯ กระทรวงกลาโหม เมื่อเข้าไปดูในรายละเอียดการจัดซื้อชุดเครื่องสนามของกองทัพบก ถ้าดูในรายละเอียดราคากลางที่วางไว้สูงถึงชุดละ 14,858 บาท ตามสามัญสำนึกของทุกคน ชุดเครื่องสนามที่จะมีการจัดซื้อแบบรวมแพ็ก 12 รายการ มีอะไรบ้าง วันนี้ตนจึงขอเชิญชวนทุกคนไปชอปปิ้งทีละรายการ รายการที่ 1 คือ เสื้อกันฝน ซึ่งตนได้ดูจากร้านค้าออนไลน์ เสื้อกันฝนราคา 189 บาท เป้สนามเล็ก 440 บาท กระเป๋าอเนกประสงค์ 350 บาท กระเป๋าอเนกประสงค์ใส่ซองกระสุน 149 บาท ถุงผ้าสนาม 440 บาท กระโจมบุคคล หรือเต็นท์ทหาร 1,530 บาท กระติกน้ำ ทบ. 310 บาท เข็มขัดสนาม 450 บาท พลั่วสนาม 590 บาท สายโยงเข็มขัดสนาม 550 บาท หม้อสนาม 650 บาท และเป้หลังครบชุด 960 บาท

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ทั้งหมดนี้ 12 รายการ ซึ่งรวมแล้วราคาชุดละ 14,858 บาท ทั้งที่ชาวบ้านตั้งราคากลางไว้ 6,775 บาท แต่กองทัพจะซื้อถึง 2,429 ชุด กองทัพบกจึงตั้งงบฯ ทั้งหมด 36 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากเป็นมนุษย์ทั่วไปจะจ่ายในราคาชุดละ 6,775 บาท ถ้าซื้อจำนวน 2,429 ชุด จะใช้เงินเพียงแค่ 16,456,475 บาทเท่านั้น แต่กลับตั้งงบฯ ถึง 36 ล้านบาท ตนจึงต้องชวนกองทัพบกเข้าโครงการ “ช้อปดีมีคืน” ของรัฐบาล เพราะถ้าเป็นอย่างนี้อาจจะไม่ใช่ช้อปดีมีคืน อาจจะเป็นช้อปดีมีทอน และถ้ายังให้ช้อปอย่างนี้ อาจจะเป็นช้อปมั่วมีคุก

นายวิโรจน์ กล่าวว่า “ช้อปดีมีคืน คืนให้ใคร จะคืนให้ประชาชน ด้วยการปรับลดงบประมาณลงมาเยี่ยงปุถุชนคนหนึ่ง ให้เหลือเพียง 16.5 ล้านบาท พอแล้ว จึงขอปรับลดงบฯ ลง 19.6 ล้านบาท ผมขอใช้เวลาสั้นๆ กราบเรียนไปยังนายกฯ ที่เป็น รมว.กลาโหม ด้วย ตอนนี้ประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัสขนาดไหน ผมคิดว่า นายกฯ แม้ว่าจะเวิร์กฟอร์มโฮมอยู่ ก็คิดว่าท่านรับรู้ว่ามีเด็กกี่คนที่ต้องกำพร้า สูญเสียพ่อแม่จากโควิด มีกี่คนที่เสียโอกาสไม่ได้เจอพ่อแม่เขาอีก เพราะได้จากไปเพราะโควิด ประชาชนที่ต้องหาเตียง รอยา บางคนที่ยังอยู่ในนี้และข้างนอกสภาฯ ไม่ได้สบายใจ คือ รอติด พอรอติดแล้วก็รอเตียง พอรอเตียงก็รอยา พอรอยาก็รอตาย พอรอตายแล้วยังต้องรอเตาอีก ผมคิดว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการที่สุดในวันนี้ คือ สามัญสำนึกในการใช้จ่ายงบประมาณจากกองทัพ และกระทรวงกลาโหม ซึ่งวันนี้ประชาชนไม่ได้เห็นตรงนั้นเลย อย่าเอางบฯ ประชาชนไปผลาญ ด้วยการนำน้ำยามาพ่นตามโขดหิน เพื่อสร้างภาพเลย เพราะไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ดังนั้น ควรปรับลดงบฯ ไม่จำเป็น ชุดเครื่องสนามแบบนี้ ผมตั้งคำถามทันทีว่า ชุดเครื่องสนามหรือเครื่องสวาปามกันแน่ และไม่ควรจะเรียกว่าชุดเครื่องสนาม แต่ควรจะถูกเรียกว่า ชุดจานชาม ช้อนส้อม ตะเกียบ เพราะดูเหมือนว่าจะไม่ได้เอาไว้ฝึก แต่คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเอาไว้กิน ดังนั้น ขอปรับลดงบฯ 19.6 ล้านบาท”

ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ อภิปรายอย่างดุเดือดถึงงบประมาณกระทรวงกลาโหม ว่า มีคำขอมาตั้งแต่แรกทั้งสิ้น 203,281 ล้านบาท จากนั้นยกตัวอย่างถึงงบฯ กองทัพบกที่ขอไป เป็นโครงการจัดหายานยนต์สายสรรพาวุธ ของบฯ 921 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564 ผูกพันปี 2565 จำนวน 368 ล้านบาท ปี 2566 อีก 368 ล้านบาท แต่เมื่อสภาฯ อนุมัติงบฯ ให้ไปซื้อรถใหม่เอาไว้ลากรถถัง เพื่อทดแทนรถ M35 รวม 169 คัน ตกคันละ 5,400,000 บาท แต่เมื่อได้งบฯ กลับไม่ดำเนินการ แต่เอาไปเปลี่ยนแปลงเป็นงบฯ ซ่อมรถ M35 ค่าซ่อมคันละ 2,500,000 บาท ใช้งานมากว่า 40 ปี ขณะนี้หมดสภาพแล้ว จึงต้องขอคำตอบจากกรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่ว่า ผ่านงบฯ เช่นนี้ได้อย่างไร

ส่วนงบฯ กองทัพเรือ ในสถานการณ์ท่ามกลางความอดอยากของประชาชนขณะนี้ ทำไมจึงไม่เจรจาที่จะเลื่อนงวดงานเรือดำน้ำออกไป ยังไม่จำเป็นที่จะต้องจ่าย แล้วตอนนี้ก็ไม่สามารถตรวจรับหรือฝึกได้ รวมถึงเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ 6,200 ล้านบาท มีข้อสงสัยและอยากได้คำตอบ เพราะเรือลำนี้มีแต่เรือเปล่า ไม่มีอาวุธปืน ระบบอำนวยการรบ แล้วจะไปใช้รบได้อย่างไร อีกทั้งกองทัพเรือถูกปรับลดงบฯ ไปเพียง 8,400,000 บาท ส่วนเรือดำน้ำ 2 ลำ ถอนไปเอง ไม่เกี่ยวกับที่กรรมาธิการปรับลด นอกจากนี้ ยังมีเรื่องโดรนไร้คนขับประจำชายฝั่งจากประเทศจีน ลำละ 1,400 ล้านบาท ซื้อ 3 ลำ

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ท่ามกลางความอดอยากหิวโหยของประชาชน วัคซีนก็ไม่มี ประชาชนเดือดร้อน คุณซื้อโดรนเนี่ย มันฆ่าโควิดได้ไหม กองทัพเรือซื้อโดรนจะไปรบกับใคร กรรมาธิการต้องตอบผมว่า คุณอนุมัติให้เขาไปซื้อได้อย่างไร แล้ววันที่ยกมือ กรรมาธิการฟากฝ่ายค้านทั้งหมดวอล์กเอาต์ มีเฉพาะกรรมาธิการงบประมาณในซีกรัฐบาล 36 คน ที่ยกมือให้ ชะลอตัดออกไปก่อนได้ไหม และยังมีโดรนภายในประเทศ ลำละ 570 ล้านบาท ที่กองทัพเรือขอไว้ และกรรมาธิการไม่มีการปรับลดเลย ผมต้องขอคำตอบว่า มีเหตุผลความจำเป็นอะไรที่ให้กองทัพเรือไปซื้ออาวุธมากมายในช่วงภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติโควิดอย่างนี้ ถ้ากรรมาธิการตอบไม่ได้ ผมก็ต้องขอเรียกร้องให้วันอาทิตย์นี้ ให้คาร์ม็อบมีคนออกมาไล่เยอะๆ จะได้ไปเร็วๆ

อย่างไรก็ตาม นายยุทธพงศ์ ทิ้งท้ายว่า ที่ขอปรับลดงบกลาโหม 10% หรือประมาณ 20,000 ล้านบาท เพราะเห็นว่าเป็นรายการที่ไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติในช่วงวิกฤติ ต้องปรับลดงบฯ ในการจัดซื้ออาวุธ เพราะอาวุธพวกนี้ฆ่าโควิดไม่ได้

ทั้งนี้ ที่ประชุมใช้เวลาอภิปรายงบฯ กระทรวงกลาโหม ประมาณ 4 ชั่วโมง ก่อนจะมีมติให้ความเห็นชอบรายมาตรา วาระ 2 ด้วยคะแนน 226 เสียง ไม่เห็นด้วย 123 เสียง

ที่ประชุมปิดการประชุมในเวลา 20.15 น. โดยจะมีการพิจารณาต่อมาตรา 9 ในส่วนของกระทรวงการคลัง ในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.). – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]