ถ้าไม่เข้มล็อกดาวน์ ติดเชื้ออาจพุ่งกว่า 4 หมื่น

ทำเนียบรัฐบาล 13 ส.ค.-สธ.ประเมินถ้าไม่เข้มล็อกดาวน์ อาจติดเชื้อสูงกว่า 4 หมื่นคน/วัน ชี้จะลดติดเชื้อ ลดตายได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือ หลายจังหวัดยังฝ่าฝืน ทั้งเล่น กิน เสพ จับตา ศบค.ชุดใหญ่ผ่อนปรน 3 ธุรกิจหลักเปิดบริการในศูนย์การค้าหรือไม่


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ว่า วันนี้ (13 ส.ค.) พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 23,418 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อใหม่ 23,030 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 388 ราย ผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64 สะสม 834,326 ราย หายป่วยกลับบ้าน 20,083 ราย หายป่วยสะสม 616,458 ราย ผู้ป่วยกำลังรักษา 212,179 ราย

“กรุงเทพมหานคร พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้สูงสุดถึง 5,140 ราย รองลงมา คือ สมุทรปราการ 1,936 ราย สมุทรสาคร 1,847 ราย ทั้งนี้ ศบค.ขอขอบคุณวัดในต่างจังหวัดที่มีพื้นที่ให้เป็นที่พึ่งกับประชาชนในทุกจังหวัด ให้วัดเป็นพื้นที่กักตัวผู้ป่วย ซึ่งต้องขอบคุณพระคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในครั้งนี้” โฆษก ศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนผู้เสียชีวิต 184 ราย เป็นชาย 100 ราย หญิง 84 ราย คนไทย 177 ราย เมียนมา 5 ราย ลาว 1 ราย อินเดีย 1 ราย อายุน้อยที่สุด 12 ปี อายุมากที่สุด 105 ปี โดยพบอายุ 60 ปีขึ้นไป 123 ราย คิดเป็น 67% ทั้งนี้ พบหญิงตั้งครรภ์ 2 ราย ที่ จ.ชัยนาท และอุดรธานี ปัจจัยเสี่ยงสูงสุด คือ ไปในพื้นที่ระบาด 68 ราย ติดจากครอบครัว 39 ราย จากคนรู้จัก 48 ราย

โฆษก ศบค. กล่าวว่า ศบค.ได้ข้อมูลการวิเคราะห์จากกรมควบคุมโรค ถึงอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 จากผู้ติดเชื้อ 834,326 ราย เสียชีวิต 7,032 ราย คิดเป็นสัดส่วน 0.84% โดยสัดส่วนที่เสียชีวิตสูงสุด คือ อายุ 70 ปี 12.48% รองลงมา คือ อายุ 60-69 ปี 4.19% อายุ 50-59 1.47%

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า พื้นที่ที่พบผู้เสียชีวิตมากที่สุด คือ กทม. 71 ราย สมุทรสาคร 16 ราย สมุทรปราการ 12 ราย นครปฐม 6 ราย นราธิวาส 5 ราย ยะลา 3 ราย ปัตตานี 1 ราย นครศรีธรรมราช 3 ราย ระนอง 1 ราย อุดรธานี 4 ราย อุบลราชธานี 3 ราย ขอนแก่น 3 ราย เลย 2 ราย อำนาจเจริญ 2 ราย กาฬสินธุ์ 1 ราย ยโสธร 1 ราย ร้อยเอ็ด 1 ราย ศรีสะเกษ 1 ราย ตาก 4 ราย เพชรบูรณ์ 3 ราย ชัยนาท 3 ราย นครสวรรค์ 2 ราย กำแพงเพชร 2 ราย พิษณุโลก 1 ราย อุทัยธานี 1 ราย ราชบุรี 7 ราย สุพรรณบุรี 7 ราย สระบุรี 6 ราย ปราจีนบุรี 4 ราย สิงห์บุรี 2 ราย นครนายก 2 ราย จันทบุรี 1 ราย ชลบุรี 1 ราย ระยอง 1 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการดำเนินการของทีมป้องกันและแก้ปัญหาโควิด-19 เชิงรุกในชุมชน ของ CCR Team ของทาง กทม. ที่ลงพื้นที่ตรวจค้นการติดเชื้อด้วย ATK ทั้งหมด 260 ทีม โดยตรวจภายใน 24 ชั่วโมง 711 ราย พบเชื้อ 101 ราย ส่งโรงพยาบาลรักษา 3 ราย Home Isolation 62 ราย Community Isolation 36 ราย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการตรวจเชิงรุก 8 ราย จะพบผู้ติดเชื้อ 2 ราย สำหรับผู้ป่วยสะสมนำส่งกลับภูมิลำเนา ในเขตสุขภาพที่ 1-12 ข้อมูลสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-12 ส.ค.64 ส่งกลับภูมิลำเนา 129,771 ราย

โฆษก ศบค. กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข คาดการณ์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึงปลายเดือนกันยายน 2564 ว่า หากไม่มีมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงของปลายเดือน ส.ค.-ก.ย. อาจจะมีผู้ติดเชื้อสูงเกือบ 45,000 ราย/วัน และหากล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพ 20% หรือ เซมิล็อกดาวน์ อาจมีผู้ติดเชื้อประมาณ 40,000 รายขึ้นไป แต่หากล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพ 25% เป็นระยะเวลา 2 เดือนขึ้นไป และเร่งฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุตามเป้าหมาย 1-2 เดือน คาดว่าเราจะมีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ลดลงประมาณ 20,000 ราย ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลดการติดเชื้อ คือ ร่วมมือกันให้ล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถลดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตได้

“ส่วนการคาดการณ์ผู้เสียชีวิต หากปราศจากมาตราการล็อกดาวน์ คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตรายวันช่วงปลายเดือนกันยายน อาจสูงถึง 900 ราย/วัน แต่หากสามารถล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพในสัดส่วน 25% เป็นเวลา 2 เดือน ต่อเนื่องถึงปลายเดือนกันยายน จะมีผู้เสียชีวิตไม่ถึง 100 ราย อย่างไรก็ตาม ในต่างจังหวัด หลายจังหวัดที่เราเห็น ยังไม่ให้ความร่วมมือ ยังเห็นภาพของการดื่ม การเล่น การเสพ ซึ่งต้องขอความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจกันด้วย เพราะการสู้กับโรคระบาดนี้ คนหนึ่งคนใดทำไม่สำเร็จ ต้องร่วมมือกันทั้งประเทศ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษก ศบค. กล่าวว่า กรมควบคุมโรควิเคราะห์สถานการณ์การเสียชีวิตที่มุ่งไปยัง 2 กลุ่มเป้าหมาย คือ หญิงตั้งครรภ์และอาชีพขนส่งสาธารณะ ซึ่งพบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ตรวจพบระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 11 สิงหาคม 2564 มีผู้ติดเชื้อ 185 ราย เสียชีวิต 29 ราย ส่วนใหญ่อายุค่ากลางอยู่ที่ 28 ปี ส่วนผู้เสียชีวิตค่ากลางอายุอยู่ที่ 33 ปี โดยจังหวัดที่มีหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 8 ราย เกิดจากการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าถึง 55% ทั้งนี้ หญิงตั้งครรภ์ที่เสียงติดเชื้อโควิด จากข้อมูลพบว่าจะสามารถเสี่ยงติดเชื้อได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจะมีอายุครรภ์โดยเฉลี่ยอายุครรภ์มากกว่า 24 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม พบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับวัคซีน หากติดเชื้อโควิดจะมีอาการน้อย ดังนั้น ขอให้หญิงตั้งครรภ์เร่งมาฉีดวัคซีน เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้ได้มากที่สุด

“ส่วนผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะ พบว่าติดเชื้อจำนวน 353 ราย เสียชีวิต 104 ราย โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูง ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตที่มีจำนวนมาก คือ ช่วงเดือนกรกฎาคม สัดส่วนการเสียชีวิต 5 อันดับแรก อยู่ที่กรุงเทพมหานคร 57 ราย ขับรถแท็กซี่มากสุด 47% รถจักรยานยนต์รับจ้าง 31%” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษก ศบค. กล่าวถึงกรณีภาคธุกิจ สมาคมศูนย์การค้าไทย หรือ TSCA เสนอภารัฐให้ทบทวนมาตรการ ขอผ่อนปรน 3 ธุรกิจหลักเปิดบริการในศูนย์การค้าได้ ได้แก่ ธนาคารสถาบันการเงิน ธุรกิจสื่อสารไอที ร้านเบ็ดเตล็ด ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ว่า ที่ประชุม ศบค.รับทราบข้อเสนอนี้แล้ว และอยู่ระหว่างการพูดคุยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ศบค.เข้าใจความเดือดร้อนของประชาชนในแต่ละกลุ่ม ซึ่งพยายามมองในภาพรวม ขอให้รอผลสรุปการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคมนี้ คาดว่าจะชี้แจงรายละเอียดในช่วงบ่าย ทั้งนี้ ศบค.จะปรับการแถลงข่าวในวันจันทร์ พุธ ศุกร์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]