เกษตรดีใจ ลุงป้อม ลุยช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ทำกินหลุดมือ ช่วงโควิดระบาด

กรุงเทพฯ 7 ส.ค.-“พล.ประวิตร” สั่งการ บจธ. ติดตามโครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน ช่วยเหลือเกษตรกรให้มีที่ดินทำกิน และโครงการแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิ์ในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน จากการจำนอง ขายฝาก และถูกบังคับคดี ได้มีที่ดินของตนเองกลับคืนมา


7 สิงหาคม 2564 พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. กล่าวว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล บจธ. มีความห่วงใยความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ซึ่งมีแนวโน้มว่าเกษตรกรและผู้ยากจนอาจจะสูญเสียสิทธิในที่ดินทำกินสูงขึ้น จึงสั่งการให้ บจธ. ดำเนินการติดตาม โครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วจำนวนพื้นที่ 1,234-2-17.7 ไร่ ช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรให้มีที่ดินทำกิน จำนวน 482 ครัวเรือน และโครงการแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิ์ในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน จากการจำนอง ขายฝาก และถูกบังคับคดี ได้มีที่ดินของตนเองกลับคืนมาจำนวน 334 ราย และในปี 2565 ที่แม้ บจธ. มีภารกิจสำคัญต้องผลักดันกฎหมายแต่เบื้องต้นคณะรัฐมนตรีพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้ บจธ. แก้ปัญหาเกษตรกรที่ยังเดือดร้อนหนักอีกจำนวนหนึ่งให้แล้วเสร็จ

นายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการ บจธ. เปิดเผย บจธ. ได้เตรียมความพร้อมในกระบวนการเพื่อพิจารณาให้ช่วยเหลือในสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของพี่น้องเกษตรกรและชุมชน ให้พึ่งพาตัวเองได้ และแบ่งปันผู้เดือดร้อน ในช่วงการระบาดโควิด-19 โดยพบว่าวิสาหกิจชุมชน 11 พื้นที่ สหกรณ์การเกษตร 1 พื้นที่ ครอบคลุมทั้ง 4 ภาค (ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก และตะวันออกเฉียงเหนือ) มีความเข้มแข็ง มีผลผลิตและผลิตภัณฑ์การเกษตรปลอดสารพิษเพื่อบริโภคและจำหน่าย สร้างรายได้เลี้ยงดูครอบครัว ทำให้สามารถจ่ายค่าเช่าที่ดิน และค่าเช่าซื้อที่ดินกับ บจธ.


“จากการระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อย ทำให้ที่ดินหลุดมือเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเกษตรกรมีภาระหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ ไม่สามารถชำระหนี้สินได้ ปัจจุบันเกษตรกรรายย่อยมีปัญหาที่ดินจะหลุดมือ หรือหลุดมือไปแล้ว ได้ขอความช่วยเหลือจาก บจธ. จำนวน 900 กว่าราย เข้าหลักเกณฑ์จำนวน 630 ราย และมีเกษตรกรผู้ยากจนอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน หน่วยงานของรัฐและเอกชนได้ ทำให้ไปใช้บริการเงินกู้นอกระบบ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยแพงมากเกินกฎหมายกำหนด จึงมีแนวโน้มจะถูกยึดที่ดินทำกิน ในปีงบประมาณ 2565 แม้ บจธ. จะได้รับการพิจารณางบประมาณแก้ปัญหาเรื่องที่ดิน เพียง 25 ล้านบาท ซึ่งในงบประมาณในส่วนนี้ บจธ. สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้เพียง 25 ราย ก็ตาม นายกุลพัชรกล่าว

ระหว่างปี 2559 – 2562 บจธ. ได้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจนไปแล้ว 334 ราย รวมเนื้อที่ 2,319 ไร่เศษ ซึ่งยังอยู่ในช่วงการชำระสินเชื่อ

ลุงสำรวย อายุ 53 ปี เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิ์ในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน พื้นที่ภาคเหนือ อาศัยอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลท่าขมิ้น อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำไร่มันสำปะหลัง ปลูกพืชผสมผสาน และเผาถ่าน ได้ทำสัญญาค้ำประกันสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี ต่อมาลุงสำรวยฯ กับญาติ ถูกฟ้องบังคับชำระหนี้ และถูกบังคับยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาด และขอความช่วยเหลือกับหลายหน่วยงาน สุดท้าย บจธ. ให้ความช่วยเหลือจนได้ที่ดินกลับคืนมา


“ขอขอบคุณทุกหน่วยงานเลยครับ และ บจธ. ที่มาช่วยเหลือคนที่ที่ดินหลุดมือโดยไม่ได้ตั้งใจ เข้ามาช่วยได้ทันท่วงที ปัจจุบัน ลุงก็มีรายได้ไม่มาก แต่ก็พออยู่ได้ พอส่งให้ บจธ. ไหวครับไม่แพง เหลือก็เก็บไว้ ชีวิตไม่เครียดไม่อะไรแล้ว อยากให้คนที่เจอแบบกับลุงนี่นะ ได้รับการช่วยเหลือ ขอบคุณมากเลยครับ” ลุงสำรวยกล่าว

เช่นเดียวกับลุงวิสูติ อายุ 51 ปี เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการฯ ในพื้นที่ภาคกลาง ประกอบอาชีพ เกษตรกรรม ทำนา และรับจ้างทั่วไป อาศัยอยู่ที่ หมู่ที่ 3 ตำบลนางบวช อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ได้เช่าที่นา และประสบปัญหาเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดในนาข้าว ทำให้ขาดทุน ประกอบกับส่งบุตรเรียนหนังสือ ต้องนำที่ดินไปขายฝาก แต่ไม่มีเงินชำระหนี้ จึงยื่นร้องขอความช่วยเหลือมายัง บจธ. ทำให้ที่ดินที่หลุดขายฝากได้กลับคืนมา

“ ขอสินเชื่อไม่ได้ เราไม่มีหลักประกัน วันนั้นหน่วยงานเค้ามีหนังสือตอบกลับมา บอกว่าเราได้รับการช่วยเหลือแล้ว แทบพูดไม่ออกเลย ตื้นตันใจ ที่ยังมีหน่วยงานที่ยังมองเห็นคุณค่าของเรา” ลุงวิสูติ กล่าว

ป้าอุทัย อายุ 58 ปี เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการฯ ในพื้นที่ภาคอีสาน อาศัยอยู่ที่ หมู่ที่ 8 ตำบลหนองบัว อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ไร่อ้อย มันสำปะหลัง เลี้ยงวัว ค้าขาย และรับจ้าง เมื่อปี 2558 ทำสัญญาขายฝากที่ดินแปลงดังกล่าว จนกระทั่งปี 2560 ป้าอุทัย ประสบปัญหาขาดทุนจากการทำไร่อ้อย ไม่มีเงินชำระดอกเบี้ยจึงทำให้ที่ดินหลุดไป จึงเดินทางมายัง บจธ. เพื่อขอรับความช่วยเหลือจาก บจธ. จำนวนเนื้อที่ 6-1-47.1 ไร่ และ 7-0-00 ไร่ แล้วจัดให้ป้าอุทัยฯ เข้าทำประโยชน์ในที่ดินโดยการเช่าซื้อ

“ถ้า บจธ. ไม่มาช่วยป้าก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว ไปมาหลายหน่วยงาน เค้าบอกเค้าช่วยไม่ได้ ที่ดินอยู่กับเจ้าหนี้แล้ว ป้าไม่มีหลักประกันที่ไหนมาค้ำประกันแล้ว ไม่คิดว่าจะมีหน่วยงานแบบ บจธ. ที่ช่วยเราได้ ป้าไม่รู้จะขอบคุณอย่างไรดี ตอนนี้ป้าก็ปลูกผักสวนครัว เก็บเงินส่ง บจธ. ไหวสิ ไหวอยู่แล้วโควิดมาเราก็ต้องรับสภาพเหมือนกันหมด” ป้าอุทัย กล่าว

ป้าพรทิพย์ อายุ 50 ปี เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการฯ ในพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบันมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ทำสวนยาง สวนมะม่วง และสวนปาล์มน้ำมัน อยู่ที่ หมู่ 10 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้ทำสัญญายืมเงินและทำหนังสือสัญญาขายฝากที่ดิน พร้อมบ้านพักอาศัย ไว้กับผู้รับซื้อขายฝาก เพื่อนำเงินมาลงทุนและรับซื้อของเก่ามาขาย แต่รายได้จากการรับซื้อของเก่ามีไม่เพียงพอ ซ้ำโรงงานที่ตนเองไปรับจ้างผลิตผลไม้กระป๋องก็ปิดกิจการ สุดท้ายที่ดินของป้าจึงต้องตกเป็นของเจ้าหนี้ บจธ. ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือในกรณีดังกล่าว โดยได้ติดต่อประสานงานกับป้าและเจ้าของที่ดินในปัจจุบันเพื่อขอซื้อที่ดินดังกล่าวคืน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีที่เจ้าของที่ดินได้ยินยอมให้ความอนุเคราะห์ขายที่ดินคืนให้แก่ ป้าพรทิพย์

“ที่ดินตรงนี้เป็นที่ของพ่อแม่ เป็นที่ผืนสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่มีที่ตรงนี้แล้วเราก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน หลังจากที่ป้าได้รับหนังสือตอบกลับ ป้าก็ดีใจมากๆ ชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะได้ที่ดินของตัวเองคืน ทีแรกไม่คิดว่าจะมีหน่วยงานไหนช่วยเราได้ เพราะเราไม่มีหลักประกัน ไม่รู้ว่าจะพูดขอบคุณยังไงดี ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอบคุณ บจธ. จริงๆ อยากให้คนที่ตกทุกข์ได้ยากแบบป้าได้รับความช่วยเหลือจาก บจธ. โครงการนี้ดีมากๆ อยากให้คนรู้จักเยอะๆ ขยายความช่วยเหลือไปทั่วประเทศจะดีมากๆ เลย” ป้าพรทิพย์กล่าว

ทั้งนี้ เกษตรกรและผู้ยากจนที่ประสบปัญหาเรื่องที่ดินทำกินสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องที่ดินทำกินได้ที่ โทร 02-278-1648 ต่อ 115, 02-278-1244 ต่อ 610 หรือ 063-214-7844 อีเมล์ saraban@labai.or.th”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]