ป่วยโควิดคลัสเตอร์ยะลา 402 ราย กระจาย 11 จังหวัด

ทำเนียบรัฐบาล 21 มิ.ย.- ศบค. เผยป่วยโควิดคลัสเตอร์ยะลา 402 ราย กระจายแล้ว 11 จังหวัด ขณะกรุงเทพฯ ปริมณฑล ยังพบคลัสเตอร์ใหม่รายวัน


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยสถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ว่า วันนี้ (21 มิ.ย.) กรุงเทพฯ ยังคงมีผู้ติดเชื้อสูงสุด 624 ราย และพบคลัสเตอร์ใหม่ โรงงานทำลูกชิ้น ย่านวงเวียน 22 เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย มีผู้ติดเชื้อยืนยันแล้ว 26 ราย จากการตรวจ 37 ราย จังหวัดสมุทรปราการ พบคลัสเตอร์ใหม่ ที่คอนโดมิเนียม อำเภอเมืองสมุทรปราการ 11 ราย, เขตอุตสาหกรรมบางปู 38 ราย, บริษัทระบบน้ำการเกษตร พระสมุทรเจดีย์ 20 ราย ส่วนจังหวัดนครปฐม โรงงานเสื้อผ้า 189 ราย จังหวัดสมุทรสาคร โรงงานสิ่งทอ 6 ราย โรงงานอาหารทะเลแช่แข็ง 11 ราย จังหวัดนนทบุรี บริษัทก่อสร้าง ที่ปากเกร็ด 40 ราย จังหวัดสระบุรี โรงเรียนตำรวจ 16 ราย จังหวัดระยอง ที่ฟาร์มเห็ด 11 รายและจังหวัดฉะเชิงเทรา บริษัทเชื่อมโลหะ 8 ราย

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กรณีคลัสเตอร์ ที่จังหวัดยะลา นพ.สงกรานต์ ไหมชุม สาธารณสุขจังหวัด ได้รายงานที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ covid-19 กระทรวงสาธารณสุข eoc เช้าวันนี้ กรณีชุมชนมัรกัส บ้านเกาะยานิ จังหวัดยะลา ซึ่งในชุมชนมีทั้งโรงเรียน สถานประกอบศาสนกิจ รายงานพบผู้ติดเชื้อยืนยัน 402 ราย และแพร่กระจายไปยัง 11 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี สตูล สงขลา กระบี่ พัทลุง นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี พังงา และตรัง ซึ่งกรมควบคุมโรค รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายแรก วันที่ 9 มิถุนายน แต่จากการสอบสวนโรค พบว่าผู้ติดเชื้อรายแรกน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่ 29 พฤษภาคม แต่ขณะนั้นยังไม่ได้มีรายงานเป็นคลัสเตอร์ โดยในชุมชนมีประชากรประมาณ 3,000-4,000 คน เป็นนักเรียนประมาณ 500 คน มาจากในพื้นที่ 17 จังหวัด ซึ่งไทม์ไลน์พบว่า นักเรียนที่ติดเชื้อมีพฤติกรรมการรวมกลุ่มทานอาหารร่วมกัน ร่วมกันทำกิจกรรมทางศาสนา โดยไม่สวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย มีการใช้แก้วน้ำร่วมกัน ทั้งนี้ชุมชนได้ปิดโรงเรียนและพื้นที่เสี่ยง มีการค้นหาในชุมชนเพื่อหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ พร้อมออกประกาศในพื้นที่แนะนำให้ผู้ที่สงสัยเกี่ยวข้องกับนักเรียนหรือบุคคลในชุมชน รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด ฝ่ายปกครองในชุมชน เพื่อตรวจหาเชื้อ และรับคำแนะนำการเฝ้าระวังมาตรการ รวมถึงเอกสารแจ้งเตือนทุกจังหวัดใกล้เคียง


ที่ประชุม ศบค. ยังได้หารือถึงกรณีของโรงเรียนที่ปิดตัวลงในหลายจังหวัดว่า ทางโรงเรียนควรจะหารือกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก่อนที่จะปิด และจะต้องมีมาตรการดูแล ทำความเข้าใจเด็กและผู้ปกครอง รวมทั้งพื้นที่จังหวัดปลายทางที่นักเรียนจะต้องเดินทางกลับบ้าน โดยกรมควบคุมโรคเสนอว่า จะต้องมีคำแนะนำ ให้ผู้ที่มีสัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำกักตัวอยู่ที่บ้าน ไม่อนุญาตให้ไปพบปะรวมกลุ่มกับญาติ ครอบครัว ตลาด ชุมชน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งไปยังจังหวัด ต้นทางและปลายทาง

นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงช่วงเทศกาลวันหยุดอีดิ้ลอัฎฮา ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองของชาวไทยมุสลิม อาจมีการจัดเลี้ยง การรวมกลุ่ม การเดินทางข้ามจังหวัด จึงขอให้ติดตามประกาศทางจังหวัดอย่างใกล้ชิด

ที่ประชุม ศบค. ยังหารือข้อกำหนดออกตามประกาศมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 ฉบับที่ 29 เรื่องการสวมหน้ากากอนามัย ทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกนอกเคหสถาน เจ้าหน้าที่จะตักเตือน และกำหนดมาตรการปรับต่อไป ข้อยกเว้นกิจการที่มีความจำเป็น ที่ กสทช. เสนอเข้ามา เช่น กิจการวิทยุโทรทัศน์ การถ่ายทำภาพยนตร์ ศบค. ผ่อนผันให้ดำเนินกิจกรรมได้ตามความจำเป็น สามารถทำได้ภายใต้มาตรการที่ประกาศกำหนด โดยกำหนดจำนวนบุคคลเข้าร่วม


ส่วนการกำหนดพื้นที่สถานการณ์ แบ่งออกเป็น 4 สี คือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สีแดงเลือดหมู, พื้นที่ควบคุมสูงสุด สีแดง, พื้นที่ควบคุมสีส้ม, พื้นที่เฝ้าระวังสูง สีเหลือง โดยทุกสียังต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อออกนอกเคหสถาน การเปิดร้านอาหาร พื้นที่สีแดงเลือดหมูอนุญาตไม่เกิน 50 คน เปิดบริการได้ไม่เกิน 23.00 น. ห้องปรับอากาศบริการได้ไม่เกินร้อยละ 50, สีแดง 100 คน เปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. , ส่วนที่เหลือเปิดบริการได้ตามปกติ ได้แก่ สีส้ม 150 คน, สีเหลือง 200 คน, สีเขียวไม่เกิน 300 คน

ส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์ ยังคงปิดบริการทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพราะถือว่ายังมีความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ จึงอยากฝากผู้ประกอบการให้เสนอว่า มีมาตรการดูแลลูกค้าอย่างไร เพื่อให้ปลอดภัย ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม หากพื้นที่ใดกิจการกิจกรรมใดหละหลวม ก็จะมีการทบทวนมาตรการอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]