ห่วงไทยจะเสียประโยชน์มากกว่าได้

กรุงเทพฯ 12 พ.ค.-ที่ปรึกษากมธ.วิสามัญ CPTPP สภาฯ ห่วงไทยได้ประโยชน์ไม่คุ้มเสียหากเข้าร่วมความตกลงที่มีมาตรฐานสูง ขณะที่ภาคการเกษตรยังไม่พร้อม ขอรัฐบาลศึกษารอบคอบทุกด้าน พร้อมเปิดเผยผลการศึกษา ให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นอย่างทั่วถึง


น.ส.จิราพร สินธุไพร ที่ปรึกษากรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงประเด็นการพิจารณาเข้าร่วม CPTPP ของรัฐบาล ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลมีความพยายามผลักดันให้ไทยเข้าร่วม แม้หลายภาคส่วนยังแสดงความกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศและต่อต้านอย่างกว้างขวาง ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณาร่วมด้วย พร้อมตั้งคณะอนุกรรมาธิการศึกษาผลกระทบ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการเกษตรและพันธุ์พืช ด้านการแพทย์และสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน โดยศึกษาจากข้อมูลข้อเท็จจริง งานวิจัยต่าง ๆ และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการ

“ภาพรวมการศึกษาประกอบด้วย 4 ข้อ คือ เห็นว่าไทยยังขาดความพร้อมหลายด้าน รัฐบาลจำเป็นต้องสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม การตัดสินใจเชิงนโยบายดังกล่าว รัฐบาลต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง เพียงพอ หากมีข้อมูลเพียงพอ ต้องมีกรอบการเจรจาที่เกิดจากกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และจะต้องจัดตั้งกองทุนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเข้าร่วมความตกลงฯ นอกจากนี้ยังเสนอแนะประเด็นที่รัฐบาลต้องศึกษาถึงผลกระทบในเชิงลึกต่อไป ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) จัดทำกรอบการทำงานที่เกี่ยวข้องตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ” น.ส.จิราพร กล่าว


น.ส.จิราพร กล่าวว่า รายงานของคณะกรรมาธิการฯ ระบุว่า ผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับยังไม่ชัดเจน อีกทั้งการพิจารณาศึกษาไม่ทันสถานการณ์และยังเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ เห็นว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องศึกษาเชิงลึกว่าหากเข้าร่วม CPTPP แล้ว ไทยจะได้สิทธิพิเศษเกินกว่าที่ทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไว้กับ 9 ประเทศหรือไม่ ต้องศึกษาเรื่องส่วนต่างกำไรที่เคยได้จากสินค้าหรือบริการว่าคุ้มค่าหรือไม่ ขณะเดียวกันประโยชน์ที่ไทยคาดว่าจะได้รับ ต้องพิจารณาว่ามีศักยภาพเก็บเกี่ยวประโยชน์เหล่านั้นหรือไม่ ซึ่งปกติความตกลงการค้าเสรีถูกออกแบบมาให้แข่งขันกันภายใต้กฎระเบียบเดียวกัน แต่โอกาสแสวงหาผลประโยชน์แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับขีดความสามารถของแต่ละประเทศ

“ความตกลง CPTPP มีสมาชิก 11 ประเภท เป็นความตกลงการค้าเสรีประเภทหนึ่ง ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยไทยมี FTA กับ 9 ประเทศ ทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี ขณะที่หน่วยงานของรัฐบาลทำการศึกษาวิจัยระบุว่าหากไทยเข้าร่วม CPTPP จะทำให้ GDP ขยายตัวเพิ่ม 0.12% และเป็นการขยายการค้าการลงทุนในต่างประเทศ แต่เห็นว่ายังไม่ชัดเจนมากพอ เนื่องจากเป็นการคำนวณจากการที่ไทยมี FTA กับ 9 ประเทศร่วมด้วย โดยส่วนตัวมองว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับขนาดของความตกลงระดับพหุภาคีที่มีสมาชิกถึง 11 ประเทศ” น.ส.จิราพร กล่าว

น.ส.จิราพร กล่าวว่า ความตกลง CPTPP มีมาตรฐานสูงมาก กังวลว่าไทยจะเอื้อมไม่ถึงประโยชน์ ในทางกลับกันอาจต้องมารับผลกระทบแทน อาทิ เรื่องการเกษตร หากเข้าร่วม CPTPP ต้องเข้าร่วมภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศ เพื่อการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ (UPOV1991) ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะส่งผลต่อต้นทุนการผลิตของเกษตรกร ความมั่นคงทางด้านอาหาร โดยในรายงานของคณะกรรมาธิการฯ ระบุไทยยังไม่พร้อมเข้าร่วม เพราะเกษตรกรยังไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ส่วนเรื่องสิทธิบัตรยา ที่คณะกรรมาธิการฯ แสดงความกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดกับความมั่นคงทางยา การเข้าถึงยาของประชาชน ขีดความสามารถในการแข่งขัน การวิจัย การพัฒนาอุตสาหกรรมยาในประเทศ และอีกหลายประเด็น


“ดิฉันมองว่าประโยชนที่ได้มาไม่คุ้มกับที่เสียไป โดยมีหลายอย่างที่ไทยไม่เคยผูกพันใน FTA มาก่อน นอกจากนี้ การเจรจาความตกลงยังเป็นแบบ Negative List หากไทยจะไม่เปิดเสรีในเรื่องใด ต้องระบุในรายการพร้อมกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากไม่ระบุจะเท่ากับว่าเปิดการค้าเสรี อีกทั้งที่ผ่านมาไทยยังไม่เคยเจรจาความตกลงในลักษณะนี้ และเห็นว่ายังมีกลุ่มเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่น่าสนใจเข้าร่วม ทั้งในแง่ของจำนวนประชากรและขนาดเศรษฐกิจ” น.ส.จิราพร กล่าว

น.ส.จิราพร คาดหวังว่ากนศ. จะพิจารณาศึกษาจนสามารถชี้ชัดให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสีย นำไปสู่ข้อสรุปว่าไทยควรเข้าร่วมหรือไม่ ได้ประโยชน์มากกว่าเสียประโยชน์หรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตจากการดำเนินการที่ผ่านมา พบว่ามีปัญหาเรื่องการเปิดเผยผลการศึกษา และการเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นอย่างเพียงพอ จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาความตกลง CPTPP ด้วยความรอบคอบ อยู่บนพื้นฐานของเหตุผล ความจริง และความถูกต้อง พร้อมรับฟังประชาชน และยึดผลประโยชน์ของของประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]