จับตารัฐบาลลักไก่ดันไทยเข้า CPTPP

กทม. 20 เม.ย. -จิราพร ชวนจับตารัฐบาลลักไก่ดันไทยเข้า CPTPP ช่วงโควิด-19 ระบาด แนะเอาเวลาไปจัดหาวัคซีนให้เพียงพออย่ามัวเอื้อประโยชน์ให้ต่างชาติ


นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด ในฐานะรองโฆษกและประธานคณะอนุกรรมการนโยบายด้านการพาณิชย์และการค้าระหว่างประเทศ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าคณะรัฐมนตรีจะพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ซึ่งมีนายดอน ปรมัตวินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน และอาจมีมติเห็นชอบให้ไทยเข้าร่วมเจรจาความตกลง CPTPP ในปลายเดือนเมษายนนี้ว่า การกระทำเช่นนี้ยิ่งทำให้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยว่ารัฐบาลมีผลประโยชน์อะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ถึงได้พยายามจะดันให้ไทยเข้าร่วมให้ได้ ทั้งๆที่ ผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วมความตกลง CPTPP สภาผู้แทนราษฎร ชี้ชัดว่าไทยยังขาดความพร้อมหลายด้าน และประโยชน์ที่ไทยจะได้จากความตกลงนี้ยังไม่ชัดเจน ดังนั้น จึงมีข้อสงสัยว่า การศึกษาของ กนศ. ที่ใช้เวลาเพียง 3 เดือนมีการศึกษาเชิงลึกที่มากกว่าผลการศึกษาของ กมธ. อย่างไร มีผลการศึกษาเพิ่มเติมที่ชัดเจนหรือไม่ว่าไทยจะได้ประโยชน์อะไร นอกเหนือไปจากการฉายหนังซ้ำว่าเป็นการขยายการค้าและการลงทุน โดยไม่มีประเด็นชี้เฉพาะที่ชัดเจนและยังคงอธิบายไม่ได้ถึงสาระของประโยชน์ที่ไทยจะได้รับเมื่อแลกกับการที่ไทยจะเสียประโยชน์ว่าคุ้มค่าหรือไม่ และที่สำคัญที่สุดในห่วง 3 เดือนที่ กนศ. ทำการศึกษา ไม่มีการเปิดเผยผลการศึกษาให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการรับรู้และแสดงความคิดเห็นอย่างเพียงพอ

 นางสาวจิราพร กล่าวว่าที่ผ่านมา มีข่าวว่า รัฐบาลสามารถให้หน่วยงานรัฐไปลองเจรจาดูก่อน ถ้าไม่ได้ตามที่คาดหวังค่อยถอนการเจรจา ในกรณีนี้ ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องในกระบวนการเจรจาระหว่างประเทศ เพราะหากสมาชิก CPTPP ทราบว่าไทยมีแนวทางเช่นนี้ สมาชิก CPTPP คงจะไม่มานั่งเสียเวลาเจรจาด้วย เพราะเสมือนหนึ่งไทยกำลังจะลองผิดลองถูก เหมือนเด็กเล่นขายของ ไม่มีความน่าเชื่อถือในสายตาสมาชิก CPTPP เพราะโดยหลักการ ประเทศใดสนใจจะเข้า CPTPP ก็ต้องศึกษาความพร้อมและความเหมาะสมของประเทศตนในการเข้าเป็นสมาชิกก่อน เพราะความตกลงนี้มีผลใช้บังคับไปแล้ว รายละเอียดกฎเกณฑ์ก็มีให้ศึกษาชัดเจน การที่รัฐบาลจะกล่าวอ้างกับประชาชนในประเทศว่าเจรจาไปก่อนค่อยดูผลทีหลัง จึงดูเป็นการหลอกล่อเพื่อขอไปที แสดงถึงความไม่จริงใจต่อประชาชนรวมทั้งเสียมารยาทต่อคู่เจรา CPTPP ด้วย แทนที่รัฐบาลจะเอาเวลาไปเสริมสร้างพัฒนาข้อบกพร่องของไทยให้มีความพร้อมในการแข่งขันก่อนเข้า CPTPP ก็กลับไม่ดำเนินการตามที่ กมธ. ได้ศึกษาและเสนอแนะไป แต่กลับพยายามทำในวังวนเดิมที่เคยทำคือหลับหูหลับตาดันไทยเข้า CPTPP ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าไทยไม่มีความพร้อม แต่ที่ทำไปเพียงแค่จะสนองประโยชน์นายทุนโดยเฉพาะต่างชาติเท่านั้น 


นางสาวจิราพร กล่าวว่า ยังมีทางเลือกอีกมากมายที่ควรทำ แทนที่รัฐบาลจะรีบกระโดดเข้าร่วมการเจรจาความตกลงดังกล่าว เช่น หารืออย่างไม่เป็นทางการกับสมาชิก CPTPP ผ่านรูปแบบ Exploratory Discussion เพื่อดูความน่าจะเป็นว่าไทยและสมาชิก CPTPP ยอมรับข้อเสนอในประเด็นต่างๆ ได้หรือไม่  ซึ่งเป็นแนวทางที่อาเซียนทำกับแคนาดาและสหภาพยุโรป รวมทั้งไทยเองก็เคยใช้แนวทางนี้กับแคนาดา นิวซีแลนด์ และออสเตรเลียมาก่อน หรืออีกทางเลือกหนึ่ง เช่น การส่งข้อเสนอและท่าทีของไทยไปยังสมาชิก CPTPP ให้ได้รู้ว่า ไทยอยู่ในฐานะไหน ทำอะไรให้ได้มากน้อยขนาดไหนอย่างไร โดยที่ทางเลือกต่างๆ ดังกล่าว ก็จะเป็นการช่วยประหยัดทรัพยากร เวลา และงบประมาณของไทยซึ่งดีกว่าการที่ไทยกระโดดเข้าไปเจรจาเป็นทางการด้วย เพราะหากเดินหน้าเจรจาแล้วขอถอนตัวในภายหลังจะทำให้เสียภาพลักษณ์ในเวทีโลกเป็นอย่างมาก

นางสาวจิราพร  กล่าวอีกว่า การที่อ้างข่าวว่าอังกฤษจะเข้าร่วม CPTPP ไม่ใช่สาระสำคัญที่ไทยจะนำมาเป็นประเด็นกล่าวอ้างเชิงเปรียบเทียบ เพราะอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป ย่อมต้องหาพันธมิตรใหม่ และอังกฤษไม่ใช่สมาชิกความตกลง RCEP (สมาชิก RCEP 7 ประเทศเป็นสมาชิก CPTPP ได้แก่ สิงคโปร์ บรูไน  มาเลเซีย  เวียดนาม ญี่ปุ่น  ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์)   ดังนั้นอังกฤษจึงต้องการเข้า CPTPP เพื่อจะครอบคลุมสมาชิก RCEP จำนวน 7 ประเทศไปด้วย ในขณะที่ประเทศไทยมีความตกลงทั้งระดับทวิภาคีและระดับพหุพาคีกับประเทศ CPTPP แล้วถึง 9 ประเทศ จึงเหลือเพียงแคนาดากับเม็กซิโกที่ไทยยังไม่มีความตกลงทางการค้าด้วย และขณะนี้อาเซียนรวมไทยกำลังหารือกับแคนาดาเพื่อทำความตกลงอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุผลใดที่ไทยจะเข้า CPTPP นอกจากนี้ อังกฤษมีความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจและการค้าสูงกว่าไทยมาก ข้อเสียเปรียบในการเข้าร่วมความตกลง CPTPP จึงแทบไม่มีเลย ซึ่งแตกต่างจากไทยที่มีข้อเสียเปรียบสมาชิก CPTPP มาก

 นางสาวจิราพร  ระบุว่ายิ่งไปกว่านั้น หลังวิกฤตโควิด-19 จะทำให้การค้าของโลกเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ซึ่งแม้มาตรฐานของ CPTPP เป็นเรื่องของการเปิดเสรีในระดับที่สูง แต่กฎเกณฑ์ไม่ได้รองรับรูปแบบการค้าใหม่ๆในอนาคต เช่น การค้ายุคไซเบอร์  การบริการนวัตกรรมชั้นสูง การเงินการธนาคารในระบบดิจิตอล  การลงทุนดิจิตอล เช่น คริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency) เป็นต้น ดังนั้น ไทยควรจะใช้โอกาสในวิกฤตโควิด-19 นี้เรียนรู้ความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นเพื่อให้สามารถตัดสินใจกำหนดนโยบายการค้าระหว่างประเทศได้อย่างถูกต้องก่อนควบคู่ไปกับการพัฒนาความพร้อม ซึ่งจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ แทนที่จะหุนหันพลันแล่นเข้าร่วม FTA แบบเก่าดังเช่น CPTPP  “ในช่วงเวลาที่คนไทยกำลังหวาดผวากับวิกฤตโควิด-19 สิ่งที่รัฐบาลต้องทุ่มเทเวลาและให้ความสำคัญมากที่สุดคือการจัดหาวัคซีนมาให้กับประชาชน ไม่ใช่มัวเอาเวลาไปเร่งให้ประเทศเข้าร่วมความตกลง CPTPP เพื่อหาประโยชน์ให้กับต่างชาติ และที่น่ากังวลที่สุดคือ การที่ไทยจะเข้าร่วมความตกลง CPTPP ในห้วงการบริหารประเทศของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะผลงานการบริหารประเทศตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าล้มเหลวในทุกด้าน แล้วเช่นนี้จะให้ประชาชนวางใจได้อย่างไรว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์จะสามารถเตรียมความพร้อมทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์สูงสุดจากการเข้าร่วมความตกลงฯ ฉบับนี้” นางสาวจิราพร กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]