ฟ้องตำรวจสลายชุมนุมไม่ใช้หลักสากล

ศาลปกครอง  วันนี้  ( 26 มี.ค.) ภาคีนักกฎหมายฯ ฟ้องตำรวจฉีดน้ำสารเคมีสลายการชุมนุมหน้าสภา 17 พ.ย. 63  ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย-ไม่เป็นไปตามหลักสากล  ขอศาลปกครองสั่งหยุดใช้กำลังต่อผู้ชุมนุมเกินกว่าเหตุ   


ภาคีนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน นำโดย นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว นักกิจกรรมทางการเมือง  แนวร่วมกลุ่มราษฏร  พร้อมด้วยตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง  ด้านหน้าอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563 ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง  เพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยุติการใช้กำลังจัดการการชุมนุมที่เกินสมควรแก่เหตุกับผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎรและกลุ่มผู้ชุมนุมอื่นๆ นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายจากการละเมิดเสรีภาพการชุมนุมผู้ฟ้องคดี

นายอัมรินทร์ สายจันทร์ ทนายความ เปิดเผยว่า การยื่นฟ้องคดีวันนี้เพื่อต้องการให้เป็นส่วนหนึ่งในการตรวจสอบการใช้อำนาจของตำรวจเกี่ยวกับการควบคุมดูแลการชุมนุมสาธารณะ  เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานในการกำกับดูแลการทำหน้าที่ของตำรวจในการคุ้มครองเสรีภาพการชุมนุม การดูแลความปลอดภัย ทั้งของผู้ชุมนุมและประชาชน  โดยท้ายคำร้องขอให้ผู้ถูกฟ้องคดี ยุติการใช้กำลังจัดการการชุมนุมที่เกินกว่าเหตุ  อันเป็นการละเมิดต่อเสรีภาพการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญและเป็นการใช้กำลังโดยไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ. ศ.2558 ไม่เป็นไปตามแผนดูแลการชุมนุมสาธารณะและคู่มือการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ   โดยเฉพาะการใช้กำลังและเครื่องมืออุปกรณ์ควบคุมฝูงชนที่ไม่เป็นไปตามหลักสากล  เช่น  ห้ามฉีดน้ำแรงดันสูงผสมแก๊สน้ำตาหรือสารเคมี  และหรือห้ามใช้กระสุนยางยิงใส่ผู้ชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ   ห้ามวางสิ่งกีดขวางขัดขวางการใช้เสรีภาพในการชุมนุมเกินกว่าเหตุโดยไม่มีเหตุอันควร


ด้านนางอังคณา ลีนะไพจิตร  กล่าวว่า ในวันดังกล่าวตนเดินทางไปเพื่อจะเข้าร่วมประชุม  ในฐานะกรรมาธิการ ที่รัฐสภา และได้มีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ก่อนเดินทาง  โดยได้รับคำยืนยันว่าสามารถเดินทางเข้าอาคารได้  การจราจรปกติ ซึ่งตนเดินทางไปก่อนที่การชุมนุมจะเริ่ม  ก็พบว่ามีการปิดกันเส้นทางแล้ว  เมื่อเจรจากับเจ้าหน้าที่ขอเปิดช่องทางเล็ก ๆ เพื่อผ่านเจ้าหน้าที่ก็ไม่รับฟัง  และมีการขู่ว่าหากเข้าใกล้แนวกั้นก็จะทำการฉีดน้ำ ใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง  ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัว เห็นว่าบริเวณรัฐสภา เป็นพื้นที่สาธารณะที่ปลอดภัยที่ประชาชนสามารถใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นแสดงออกได้  พื้นที่หน้ารัฐสภาไม่ควรที่จะถูกจำกัด  หากมีเหตุการณ์ที่จะต้องปิดกั้น  เจ้าหน้าที่ควรมีความยืดหยุ่น  แต่การกระทำของเจ้าหน้าที่วันดังกล่าว เหมือนพยายามที่จะใช้ความรุนแรง  ปราบปรามอย่างเดียวโดยที่ไม่การผ่อนปรน

นางอังคณา  กล่าวอีกว่า เหตุที่เพิ่งมาฟ้องส่วนหนึ่งเพราะหลายๆ คนกังวล หวาดกลัว เรื่องความปลอดภัยว่าจะถูกแก้แค้นหรือไม่ ถ้ามาฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ   ซึ่งจริงๆ ควรมีกลไกตรวจสอบการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ และเราพบว่าหลังจากวันที่ 17 พ.ย.63  เจ้าหน้าที่เองก็ใช้กำลังมาโดยตลอด  แม้เจ้าหน้าที่ออกมาขอโทษ  แต่ก็ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไร ไม่ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน  ไม่มีการชดใช้หรือเยียวยา  และในวันนั้นไม่มีกระทั่งรถพยาบาล  ที่จะนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล  มีแต่การช่วยเหลือกันเองของผู้ชุมนุม  ส่วนตัวก็หวัง ว่าศาลปกครองจะเป็นที่พึ่งของประชาชนในการที่ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

 น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว กล่าวว่า ตนมาฟ้องคดีในฐานะผู้เสียหาย  จากการไปร่วมชุมนุมในวันดังกล่าว ที่โดนแรงดันน้ำ และสารเคมีที่อยู่ในน้ำ  ทำให้เกิดอาการผิวหนังแพ้สารเคมี ไอเป็นเลือด  ซึ่งเห็นว่าการชุมนุมในวันดังกล่าวผู้ชุมนุมขาดสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ  ทั้งที่การชุมนุมของคณะราษฎร์ตั้งแต่ปีที่แล้วเรื่อยมาจนปัจจุบัน   เราได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นการชุมนุมโดยสงบ  ชอบด้วยกฎหมาย แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่กลับพยายามขัดขวางการชุมนุมทำให้เจตจำนงของประชาชนที่ต้องการจะแสดงพลังและยืนยันว่าสภาผู้แทนราษฎรควรที่จะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนไม่เกิดขึ้นจริง และเมื่อมันเสียหายไปแล้วมันเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ของประชาชนและประเทศชาติ ที่มันไม่อาจเรียกคืนกลับมาได้


“ที่ตัดสินใจเป็นผู้ที่ยื่นฟ้องในคดีนี้  ก็เพื่อประกันสิทธิ  ว่าสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบของประชาชนและคนไทยทุกกลุ่ม  ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยกับรัฐบาล  หรือเห็นต่างกับรัฐบาล  หรือมีข้อเรียกร้องในการปฏิรูปสถาบันก็ต้องสามารถทำได้เช่นเดียวกัน  มันไม่ควรจะมีข้อห้ามใดๆ  รวมทั้งต้องการตรวจสอบอำนาจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะนับตั้งแต่ปี 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจมักไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แม้จะมี พ.ร.บ.การชุมนุม  มีแผนรับมือการชุมนุมสาธารณะ แต่การดำเนินการของตำรวจกลับขัดต่อกฎหมายโดยตลอด  และกลับนำกฎหมายดังกล่าวมาดำเนินการเอาผิดกับผู้ชุมนุม ซึ่งหวังว่าการยื่นฟ้องศาลปกครองในวันนี้จะเป็นบรรทัดฐาน เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมอีก” น.ส.ชลธิชา กล่าว นอกจากนี้ผู้ปกครองเด็ก 3  ขวบที่ได้รับผลกระทบ  กล่าวว่า วันดังกล่าวคิดว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ  ตนและลูกไม่ได้มีเจตนาจะเข้าไปร่วมชุมนุมเลย  เพียงแค่ผ่านไป  ซึ่งตอนที่ไปเจ้าหน้าที่ยังเปิดให้เข้าอยู่   เมื่อเข้าไปก็เจอกับผู้ชุมนุมอีกกลุ่มหนึ่งก็วนกลับ  คิดว่าจะออกทางเก่าได้  แต่เมื่อกลับมาตำรวจปิดทางเก่าแล้ว  ซึ่งเป็นช่วงเหตุการณ์ที่ผู้ชุมนุม 2 กลุ่มกำลังดันกันเข้ามา  ทำให้ตนและลูกไม่สามารถออกมาได้  แล้วไปปรากฏเป็นภาพข่าวที่ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดกล่าวหาว่า ผู้ปกครองพาเด็กเข้าไปเพื่อที่จะให้เป็นโล่มนุษย์รับแรงดันน้ำสูง  ซึ่งแค่รถน้ำธรรมดาก็รุนแรงพอแล้ว  แต่กลับมีการผสมสารเคมีเข้าไป เด็ก 3 ขวบทนไม่ไหวแน่  จึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณามาตราการในการควบคุมฝูงชนให้ดีกว่าที่ผ่านมา ผลกระทบที่เกิดขึ้น ถ้าไปโดนกับลูกหลานตำรวจขึ้นมาบ้าง จะรู้สึกอย่างไร

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]