“พิชัย” คาดเศรษฐกิจปี 64 ยากลำบาก-เสื่อมถอย

กทม. 3 ม.ค. -“พิชัย” คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2564 “ยากลำบากและเสื่อมถอยหนัก” ชี้ไทยต้องการผู้นำที่ทันโลก แนะพัฒนากรอบคิดก่อนไทยตกยุคไปไกล

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า การคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2564 น่าเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจไทยจะยิ่งย่ำแย่เสื่อมถอยกว่าปีที่แล้วที่ว่าแย่แล้ว ทั้งนี้เพราะสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดระลอกใหม่ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วมาถึงปีนี้ได้เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น รัฐบาลได้ประกาศล็อกดาวน์ในพื้นที่กรุงเทพและอีก 8 จังหวัด และอาจจะต้องล็อกดาวน์เพิ่มขึ้นอีกมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง และไม่แน่ใจว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ ถ้าหากยาวนานและหากไวรัสเกิดกลายพันธ์ุก็จะย่ิงสร้างความลำบากให้กับประชาชนมากขึ้น และอาจส่งผลกระทบที่คาดกันว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นได้บ้างในปีนี้ก็อาจจะไม่ฟื้นเลยก็เป็นได้


ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้คาดกันว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้อาจจะฟื้นตัวเป็นบวกได้บ้างประมาณ 3-3.5% ซึ่งก็ยังไม่ดีนัก เพราะยังฟื้นได้ประมาณครึ่งหนึ่งของที่เศรษฐกิจติดลบไปในปีที่แล้ว แต่ถึงกระนั้นความรู้สึกของประชาชนจะไม่รู้สึกว่าฟื้นเลย ทั้งนี้เพราะเศรษฐกิจได้ย่ำแย่มาเป็นเวลานานแล้ว แต่พอมาเจอการระบาดระลอกใหม่และทำท่าจะร้ายแรงและแพร่กระจายไปมากกว่าครั้งแรก ผลกระทบจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจยิ่งย่ำแย่ ประชาชนที่แบกภาระทางเศรษฐกิจหนักอยู่แล้วทั้งภาระหนี้สินที่พอกพูนจนหนี้ครัวเรือนจะทะลุ 90% ของจีดีพีตามที่ได้เตือนไว้แล้ว รายได้ที่ลดลง เงินเก็บที่ร่อยหรอและกำลังจะหมด จะยิ่งส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถทนต่อภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ต่อไปได้

ปีนี้จึงคาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในระดับที่ต่ำมากหรืออาจจะเรียกได้ว่าเกือบไม่ฟื้นเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับคนส่วนใหญ่อาจจะรู้สึกว่าติดลบก็เป็นได้ อีกทั้งยังไม่เห็นหนทางที่เศรษฐกิจไทยจะฟื้นได้เลยจากการบริหารของรัฐบาลในปัจจุบันที่ยังจมอยู่ในกรอบคิดเก่าๆแบบเดิมๆ ดังนั้น ปีนี้จะเป็นปีที่ “ยากลำบาก และ เสื่อมถอยหนัก” อีกทั้งสาเหตุของการระบาดรอบใหม่นี้ก็เกิดมาจากความผิดพลาดของรัฐบาลทั้งเรื่องการปล่อยให้มีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาในไทยอย่างผิดกฎหมายทำให้ควบคุมการแพร่เชื้อไวรัสไม่ได้ และยังปล่อยให้มีการเล่นการพนันในบ่อนเถื่อนจำนวนมากจนทำให้เกิดการแพร่ระบาดโดยเฉพาะในจังหวัดระยอง โดยมีข้อมูลว่าเจ้าของบ่อนมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับคนในรัฐบาล ถึงขนาดส่งลูกชายไปเป็นอนุกรรมาธิการในสภาได้ ประชาชนจึงสงสัยกันว่าน่าจะเป็นระบบอุปถัมภ์ของคนในรัฐบาลใช่หรือไม่ ซึ่งหากไม่ใช่ก็จะต้องหาคนผิดมาลงโทษไม่ใช่ปล่อยให้เงียบหายไปแบบนี้


ดังนั้น การบริโภคของประชาชนและรายได้ของประชาชนในปีนี้ก็จะยังคงย่ำแย่ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อจีดีพี ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนก็ยังคงลดลงอย่างมาก และการส่งออกที่คาดว่าจะดีขึ้นกว่าปีที่แล้วก็อาจจะดีขึ้นบ้างแต่อาจจะขยายได้อย่างเก่งก็ประมาณครึ่งหนึ่งของปีที่แล้วที่ติดลบไป และการลงทุนที่หดหายตลอดหลายปีจะยิ่งทำให้การส่งออกไม่สามารถเพิ่มแบบก้าวกระโดดได้เลยในอนาคต ประกอบกับสินค้าส่งออกเดิมที่ไทยผลิตได้ เริ่มจะล้าสมัยหมดความนิยม เช่น รถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่ได้เป็นที่ต้องการของตลาดโลกมากนักแล้ว อีกทั้งปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าจะเป็นปัญหาอย่างมากในการส่งออกของไทย

การใช้จ่ายภาครัฐยังคงยึดรูปแบบเก่า งบประมาณยังคงเป็นแบบเดิมไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสภาวะการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไป การใช้จ่ายทางการทหารยังคงมีปริมาณที่มากและไม่เกิดผลทางเศรษฐกิจ อีกทั้งการทุ่มงบประมาณจำนวนมากเข้าพัฒนาเขตอุตสาหกรรมภาคตะวันออก (อีอีซี) แต่ผลตอบแทนที่ได้รับกลับไม่คุ้มค่าการลงทุน เนื่องจากรูปแบบการลงทุนจากต่างประเทศในโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว

การท่องเที่ยวที่เป็นพระเอกมาตลอดหลายปีจนมาโดนวิกฤตไวรัสโควิดทำให้การท่องเที่ยวทรุดหนักในปีที่แล้ว ปีนี้ปริมาณนักท่องเที่ยวก็น่าจะยังไม่เพิ่มขึ้น แถมอาจจะลดลงด้วยซ้ำ อีกทั้งไม่รู้เมื่อไหร่ปริมาณนักท่องเที่ยวจะกลับมาเหมือนเดิม ธุรกิจท่องเที่ยวจะเสียหายและขาดทุนกันมากโดยเฉพาะ โรงแรม นอกจากนี้พฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ซึ่งประเทศไทยจะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการท่องเที่ยวให้เข้ากับลักษณะการท่องเที่ยวในอนาคต


สิ่งที่น่าห่วงมากที่สุดคือกรอบคิดของรัฐบาล โดยเฉพาะกรอบคิดของนายกรัฐมนตรีที่ยังไม่สามารถก้าวทันโลกได้ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยตกยุคและเสื่อมถอยเร็วมาก เพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสามารถในการแข่งขัน และ ตำแหน่งของไทยในสายตาต่างประเทศเสื่อมถอยอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนได้เคยเตือนมาตลอด แต่พลเอกประยุทธ์ไม่เข้าใจ เพราะยังมีแนวคิดยึดติดในกรอบคิดเดิมที่ไม่สามารถพัฒนาให้ทันโลกได้ ทั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับอายุ เพราะถ้าหากใครได้ฟังอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร พูดถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก การที่ไทยต้องปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มเพื่อแข่งขันกับต่างประเทศได้ และการต้องควบคุมแพลตฟอร์มของต่างประเทศไม่ให้มีอิทธิพลกับประเทศไทยมากนัก เป็นเรื่องที่จำเป็น ขนาดในประเทศจีนยังต้องควบคุมแพลตฟอร์มของเอกชนจีนเองไม่ให้มีอิทธิพลมากเกินไปเลย และในสหรัฐเองก็เช่นกัน อีกทั้งการใช้แพลตฟอร์มในระบบราชการเพื่อลดขนาดของราชการเพื่อให้การบริหารราชการคล่องตัว หรือ ที่เรียกว่า digitalization ระบบราชการ ซึ่งเรื่องเหล่านี้พลเอกประยุทธ์ไม่เข้าใจ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเสื่อมถอยอย่างหนัก

ในขณะที่ประเทศกำลังอยู่ในภาวะวิกฤตทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของไวรัส รัฐบาลกลับคิดถึงการส่งยานอวกาศไปโคจรรอบดวงจันทร์ การเรี่ยไรประชาชนคนละ 500 บาทเพื่อการวิจัยผลิตวัคซีนแทนที่รัฐบาลจะทุ่มงบประมาณเอง การจับนักศึกษาที่ช่วยขายกุ้งให้กับผู้เลี้ยงกุ้งที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสที่รัฐบาลเองละเลยไม่ช่วยเหลือแต่กลับไปจับคนช่วยเป็นต้น นับเป็นการกระทำที่ย้อนแย้งและขาดสติ

โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่า กรอบคิดที่ล้าหลังและเสื่อมถอยหนักนี้เป็นสาเหตุหลักที่ นักศึกษา นักเรียน และ ประชาชนจำนวนมากออกมาประท้วงขับไล่รัฐบาล เพราะพวกเขาทราบดีว่าหากปล่อยให้พลเอกประยุทธ์และรัฐบาลที่ขาดหลักคิดที่ทันโลกได้บริหารประเทศต่อไป ประเทศไทยจะยิ่งยากลำบากและเสื่อมถอยหนัก และ ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ นักเรียน นักศึกษา และ คนรุ่นใหม่ ที่จะต้องรับมรดกการบริหารประเทศนี้ต่อจากคนรุ่นเก่าที่บริหารประเทศได้อย่างย่ำแย่นี้ ซึ่งจะไม่สามารถแข่งขันกับโลกได้ และอาจจะต้องใช้เวลานานมากในการปรับปรุงประเทศเพื่อจะให้ก้าวทัน หรือ อาจจะก้าวไม่ทันเลยก็เป็นได้ เพราะโลกจะยิ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหลังวิกฤตการณ์ไวรัสโควิดนี้ ประเทศที่ได้เปรียบและได้รับผลกระทบน้อยจะก้าวไปได้เร็วมาก ในขณะที่ประเทศที่เสียหายและเสียเปรียบจะล้าหลังเร็วมาก โดยล่าสุดมีการสำรวจพบว่าประเทศเวียดนามจะแซงประเทศไทยภายใน 15 ปีหรืออาจจะเร็วกว่านั้น ในขณะที่จีนจะแซงสหรัฐได้ภายใน 8 ปีนี้ ซึ่งหากประเทศไทยยังเป็นแบบนี้ ไทยจะหมดอนาคตแน่ ดังนั้นการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลของประชาชนในปีนี้จะเพิ่มมากขึ้น และอาจจะนำไปสู่ความรุนแรงได้

โดยสรุป ต้องขอเตือนตรงๆว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2564 นี้จะยากลำบากและเสื่อมถอยหนัก ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และ การเมือง และหากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแนวคิด หรือ เปลี่ยนแปลงการบริหาร ประเทศไทยก็ได้แต่รอวันที่จะเสียหายหนักหรือเหมือนกับรอวันเจ๊งเท่านั้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]