มติเอกฉันท์ นายกฯ อยู่บ้านพักหลวงไม่ผิดกฎหมาย

ศาลรัฐธรรมนูญ 2 พ.ย.- เปิดคำต่อคำ มติศาลรัฐธรรมนูญเอกฉันท์ นายกฯ อยู่บ้านพักหลวงไม่ผิดกฎหมาย เป็นไปตามระเบียบกองทัพบก คำวินิจฉัย ย้ำเป็นผู้นำประเทศ รัฐพึงต้องจัดที่พำนักให้นายกฯ และครอบครัวอยู่อย่างสมเกียรติ และปลอดภัย


เมื่อเวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ 9 เสียง ว่าความเป็นรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5) และมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 186 วรรคหนึ่ง มาตรา 184 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 186 วรรคหนึ่ง และมาตรา 184 วรรคหนึ่งจากเหตุยังพักอาศัยในบ้านพักรับรองของกองทัพบกหลังเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 57 จนถึงปัจจุบัน

โดยคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ออกนั่งบัลลังก์ และนายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้อ่านคำวินิจฉัยซึ่งระบุเหตุผลว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้อง คำชี้แจงข้อกล่าวหา คำชี้แจงของผู้เกี่ยวข้อง เอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า คดีมีพยานหลักฐานเพียงพอจึงยุติการไต่สวน และกำหนดประเด็นพิจารณาวินิจฉัยโดยพล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 53 และเกียษณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. 57 ขณะที่ดำรงตำแหน่งผบ.ทบ. ได้พักอาศัยที่บ้านพักอาคารหมายเลข 253/54 กรมทหารราบที่ 1 ซึ่งบ้านพักหลังนี้ได้มีการปรับโอนสถานะให้มีสถานะเป็นบ้านพักรับรองของกองทัพบกในปี 2555 และปัจจุบันเป็นพื้นที่ครอบครองดูแลและใช้ประโยชน์ราชการของกองทัพบก มีประเด็นต้องวินิจฉัยก่อนว่าพล.อ.ประยุทธ์ กระทำการอันมีลักษณะต้องห้ามตามที่กล่าวหาหรือไม่


ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า เมื่อพิจารณาระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบก 2548 ข้อ 5 กำหนดว่า ผู้มีสิทธิเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบก ต้องมีคุณสมบัติ 5.1 เป็นข้าราชการประจำการสังกัดกองทัพบก ที่มีชั้นยศพลเอก 5.2 เป็นอดีตผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพบกซึ่งทำคุณประโยชน์ให้กองทัพบกและประเทศชาติ และเคยดำรงตำแหน่งผบ.ทบ.มาแล้ว ข้อ 7 กำหนดให้แบ่งประเภทของบ้านพักรับรองกองทัพบก สำหรับผู้มีสิทธิเข้าพักอาศัยตามข้อ 5 คือ 7.1 บ้านพักรับรองอาคารหมาย 70/25 เป็นบ้านพักของผบ.ทบ. 7.2 บ้านพักรับรองกองทัพบกซึ่งมีหลายหมายเลข และที่กองทัพบกกำหนดขึ้นในภายหลัง เป็นบ้านพักรับรองของผู้บัญชาการชั้นสูงของกองทัพบก และอดีตผู้บังคับบัญชาในข้อ 5.2

ข้อ 8 วรรคหนึ่ง กำหนดให้ผู้มีสิทธิเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบกหมดสิทธิเข้าพักอาศัยในกรณีดังนี้ 8.1 ย้ายออกนอกกองทัพบก 8.2 ออกจากราชการไม่ว่ากรณีใด 8.3 ถึงแก่กรรม 8.4 เมื่อกองทัพบกพิจารณาให้หมดสิทธิเข้าพักอาศัย ข้อ 8 วรรคสอง กำหนดว่าสำหรับผู้มีสิทธิเข้าพักอาศัยตามข้อ5.2 ถ้าหมดสิทธิเข้าพักอาศัยตามข้อ 8.1 หรือ8.2 แล้ว กองทัพบกมีสิทธิพิจารณาให้เข้าพักอาศัยเป็นกรณีเฉพาะรายก็ได้ และข้อ 11 กำหนดว่า บ้านพักรับรองที่กองทัพบกกำหนดให้พิจารณาตามความเหมาะสมในการสนับสนุนงบประมาณค่ากระแสไฟฟ้า และน้ำประปา ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นในการพักอาศัย และเหมาะสมในการใช้งาน

ประกอบคำชี้แจงของผู้บัญชาการทหารบก ได้ชี้แจงว่า ขณะพล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 57 พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงดำรงตำแหน่งผบ.ทบ. จึงเป็นผู้มีสิทธิเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองของกองทัพบก โดยอาศัยระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรอง 2548 ข้อ 5 และเมื่อเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผบ.ทบ.ขณะนั้นเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 57 แต่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ ก็ยังคงเป็นผู้มีสิทธิพักอาศัยในบ้านพักรับรองดังกล่าว เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ เคยเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพบก ซึ่งทำคุณประโยชน์ให้กองทัพและประเทศชาติ และเคยดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.มาแล้วตามข้อ 5.2 หาใช่หาอาศัยในบ้านพักรับรองในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพียงสถานะเดียว ซึ่งหากพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เป็นผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพ แม้เป็นนายกรัฐมนตรีที่เป็นพลเรือนย่อมไม่มีสิทธิได้พักอาศัยในบ้านพักรับรองตามระเบียบของกองทัพบกมิได้


นอกจากนี้ข้อ 8 กำหนดให้อำนาจกองทัพบกพิจารณาให้ผู้มีสิทธิเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองของกองทัพบกที่หมดสิทธิเข้าพักอาศัยด้วยเหตุย้ายออกนอกกองทัพบก หรือออกจากราชการไม่ว่ากรณีใด ให้มีสิทธิเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองเป็นกรณีเฉพาะรายก็ได้ การที่กองทัพบกกำหนดให้อาคารหมายเลข 253/54 เป็นบ้านพักรับรอง แม้จะเป็นการกำหนดขึ้นภายหลังปรากฏตามหนังสือ กบ.ทบ.ด่วนมากที่ ต่อ กห.0404/1560 ลงวันที่ 19 มิ.ย.55 โดยอนุมัติให้ปรับโอนอาคารรับรองดังกล่าวเป็นบ้านพักรับรองกองทัพบกซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพบกก็ตาม แต่เป็นการกำหนดโดยอาศัยอำนาจตามข้อ 7.2 ให้กระทำได้ ส่วนการที่กองทัพบกสนับสนุนงบประมาณค่ากระแสไฟฟ้า และน้ำประปาในการใช้งานบ้านพักรับรองกองทัพบกพิจารณาตามความเหมาะสมในการพิจารณาค่ากระแสไฟฟ้า ค่าน้ำประปาตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการพักอาศัย ตามความเหมาะสมในการใช้งานตามข้อ 11 แล้ว

นอกจากนี้การให้สิทธิดังกล่าวข้างต้นกองทัพบกได้พิจารณาให้สิทธิแก่บุคคลที่เข้าเงื่อนไขมีคุณสมบัติในการเข้าพักอาศัยบ้านพักอาศัยของกองทัพบกมิใช่ให้สิทธิเฉพาะกรณีพล.อ.ประยุทธ์ เห็นได้ว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ อาศัยในบ้านพักรับรองที่กองทัพบกจัดให้ และได้รับการสนับสนุนค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำประปา เป็นไปตามดุลยพินิจของกองทัพบก ที่มีอำนาจพิจารณาตามระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบก พ.ศ. 2548 โดยระเบียบดังกล่าวใช้บังคับมาตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.2548 ก่อนที่ผู้ถูกร้องจะดำรงตำแหน่งเป็นผบ.ทบ.และนายกรัฐมนตรี โดยที่นายกรัฐมนตรี เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญของประเทศ นอกจากเป็นหัวหน้าของคณะรัฐมนตรี ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ยังมีฐานะเป็นผู้นำของประเทศ ความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งครอบครัวจึงมีส่วนสำคัญ รัฐมีหน้าที่จัดการดูแลให้ปลอดภัยแก่นายกรัฐมนตรีและครอบครัว ตามความเหมาะสมแก่สภาพการณ์ การจัดบ้านพักรับรองที่ปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัว สร้างความพร้อมทั้งสุขภาพกาย และจิตใจ การปฏิบัติภารกิจในการบริหารประเทศ ล้วนเป็นประโยชน์ส่วนรวมจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่รัฐพึงจัดให้มีที่พำนักของผู้นำของประเทศในขณะที่ดำรงตำแหน่ง

กรณีประเทศไทยแม้รัฐเคยกำหนดให้สถานที่บางแห่งเป็นที่พำนักของนายกรัฐมนตรี ในขณะที่ดำรงตำแหน่ง เช่นบ้านพิษณุโลกก็ตาม แต่ปัจจุบันการบำรุง รักษาไม่พร้อมใช้หรือจัดให้มีขึ้นใหม่ ดังนั้นเพื่อให้นายกรัฐมนตรีปฎิบัติหน้าที่ในฐานะผู้นำของประเทศได้อย่างสมเกียรติ รัฐพึงจัดให้มีที่พำนักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การที่กองทัพบกอนุมัติให้ใช้บ้านพักรับรองของกองทัพบก และสนับสนุนค่ากระแสไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ เคยได้รับสิทธิตั้งแต่ดำรงตำแหน่งผบ.ทบ.ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยปฏิบัติเป็นไปตามระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบก พ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นกฎที่ยังคงใช้บังคับอยู่โดยไม่ได้ถูกยกเลิกหรือเพิกถอน ประกอบกับกองทัพบกให้สิทธิดังกล่าวกับผู้มีคุณสมบัติตามระเบียบนั้น โดยถือเป็นสิทธิของบุคคลเนื่องมาจากการดำรงตำแหน่ง อดีตผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพบก จึงไม่ได้เป็นการกระทำที่ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ รับเงินหรือประโยชน์ใด ๆ จากกองทัพบกซึ่งเป็นหน่วยราชการเป็นพิเศษ นอกเหนือจากปฏิบัติกับบุคคลอื่น จึงไม่เข้าข่ายเป็นการกระทำฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (5) จนทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสื้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) หรือไม่

เห็นว่าเมื่อวินิจฉัยว่าพล.อ.ประยุทธ์ พักอาศัยบ้านพักรับรองของกองทัพบก ซึ่งกองทัพบกพิจารณาจัดบ้านพักรับรองกองทัพบก สนับสนุนค่ากระแสไฟฟ้า และน้ำประปาใช้งานในบ้านพักรับรอง เป็นไปตามระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบก 2548 จึงไม่เป็นกรณีการถือประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ของประเทศ ไม่เป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเอง ไม่เป็นการขอ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ในประการที่อาจทำให้กระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่ และไม่เป็นการกระทำอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม เว้นแต่เป็นการรับที่มีบทบัญญัติกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ ให้รับได้

ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานจริยธรรม ข้อ 27 ประกอบข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 ข้อ 11 อันเป็นกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160(5) ซึ่งเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170วรรคหนึ่ง(4) อาศัยเหตุผลดังกล่าวจึงวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170วรรคหนึ่ง(4) ประกอบมาตรา 160 (5) และมาตรา 170 วรรคหนึ่ง(5) ประกอบมาตรา 186 วรรคหนึ่ง มาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]