กกต. แจงทำประชามติแก้รธน. 60 กำหนดให้ทุกคนมีสิทธิ์

หัวหิน 12 ก.ย.- กกต. แจงทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ 60 กำหนดให้ทุกคนมีสิทธิ์ทั้งใน-นอกประเทศ มองไม่ใช่เรื่องง่ายให้ประชาชนเข้าใจการแก้ รธน.


นายวรพงศ์ อนันต์เจริญกิจ ผอ.สำนักสนับสนุนการเลือกตั้ง สำนักงานกกต. กล่าวในการสัมมนาที่สำนักงาน กกต.จัดขึ้น เพื่อให้ความรู้กับสื่อมวลชนประจำ กกต. ถึงการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญทั้ง 3 ครั้ง ว่า เป็นจุดหลักที่ทำให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปเสนอแก้กฎหมาย คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติในกระบวนการเพิ่มเติม หากวันออกเสียงการเลือกตั้งทั่วไปหรือเลือกตั้งท้องถิ่น สามารถกำหนดเป็นวันเดียวกันได้ พอบอกว่าการทำประชามติทั้ง 3 ครั้งต้องใช้งบประมาณสูง แต่พอกำหนดให้ใช้ร่วมกันงบประมาณก็ต้องเพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งในกระบวนการออกเสียงประชามติ เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นกระบวนการที่อยู่ในมาตรา 9 พ.ร.บ.ประชามติ ที่จะเริ่มตั้งแต่ที่สภาให้ความเห็นชอบในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ และประธานสภาจะส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรีทราบ โดยต้องพิจารณากำหนดให้ออกเสียงประชามติ การกำหนดนั้นตามที่นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. บอกไว้ว่าต้องมี กรอบเวลาจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งต้องให้เร็วกว่า 90 วัน และไม่ช้ากว่า 120 วัน ในการทำประชามติ แต่หากเป็นการออกเสียงการเลือกตั้งทั่วไปก็จะยืดเวลาอาจจะไม่เร็วกว่า 60 วัน และไม่ช้ากว่า 150 วัน ซึ่งเป็นเฉพาะกรณีที่ทำประชามติพร้อมการเลือกตั้งทั่วไป

ซึ่งกระบวนการออกเสียงประชามติจะเริ่มก่อน โดยแปลว่าหากกำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ก็ต้องมีการเตรียมวันยุบสภาไว้ล่วงหน้า ว่าต้องภายในกี่เดือน เพื่อให้กระบวนการต่อท้ายนั้นชนกันได้ แต่กระบวนการประชามตินั้นถ้าเอากระบวนการเต็ม 120 วันช่วงแรก จะเป็นในเรื่องของการเผยแพร่สาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ กกต.ต้องทำและจัดให้มีการออกเสียงประชามติโดยในการแก้ไขเพิ่มเติมก็มีหน้าที่ในการเผยแพร่ทั้งร่างรัฐธรรมนูญและสาระสำคัญ คือต้องประกาศเป็นราชกิจจานุเบกษาภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งจากประธานรัฐสภาและต้องทำเอกสารเผยแพร่ส่งไปยังชาวบ้านก่อนวันออกเสียง อีกเรื่องหนึ่งคือการที่กำหนดให้กกต. มีหน้าที่เผยแพร่ขั้นตอนการออกเสียงประชามติด้วยซึ่งกกต.ต้องทำหน้าที่เผยแพร่ขั้นตอนการออกเสียงทั้งหมดเพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจว่าการออกเสียงประชามติมีขั้นตอนกระบวนการอย่างไร ซึ่งการออกเสียงประชามติตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 แตกต่างจากที่ผ่านมา เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดให้การออกเสียงเป็นหน้าที่ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงก็ต้องหน้าที่ไปออกเสียงทุกคน


ส่วนประเด็นต่อมาในการออกเสียงประชามติที่ผ่านมาทั้งสองครั้งจัดภายในประเทศโดยไม่มีการลงคะแนนเสียงนอกราชอาณาจักรแต่ตามพรบ.ฉบับใหม่ที่ระบุว่าเป็นหน้าที่ ซึ่งต้องจัดให้มีการออกเสียงนอกราชอาณาจักรด้วยนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะเกิดขึ้นโดยเป็นเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นและต้องขอให้สื่อมวลชนได้สื่อสารให้ประชาชน ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงได้เข้าใจว่าไม่เหมือนในอดีต

ส่วนอีกเรื่องคือการจัดให้มีแสดงความคิดเห็นที่หากมีฝ่ายที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบนั้นเป็นโจทก์ที่เป็นหน้าที่ของกกต. เพื่อรองรับกฎหมายที่มีการแก้ไขใหม่ซึ่งหากดูแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่ายทั้งการจัดเวทีดีเบสและต้องกระจายให้ทั่วพื้นที่และกฎหมายใหม่ที่ระบุเรื่องเกณฑ์ออกเสียงว่าใช้เกณฑ์จังหวัดเป็นเกณฑ์ออกเสียงแต่ในกฎหมายใหม่นั้นให้ใช้เกณฑ์ประเทศเขตจังหวัด เขตอำเภอเป็นเขตออกเสียงได้ หากในอนาคตมีประเด็นที่ต้องทำประชามติในท้องถิ่นในถิ่นหนึ่งก็สามารถดำเนินการได้เช่นเดียวกันโดยอันนี้เป็นเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นตามร่างของฉบับใหม่

เมื่อถามว่าการแก้ไขประชามติเปิดให้ทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปนั้นอยู่ในมาตราไหน การแก้ไขก็ต้องเข้ากระบวนการตามปกติก่อนใช่หรือไม่ นายวรพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างตามกฏหมายซึ่งผ่านสภาไปแล้วทางฝ่ายการเมืองก็ ให้ข่าวว่าผ่านสภาไปแล้วเราต้องมาคุยกันแต่ทาง กกต. ก็ต้องร่าง Hrabec กันจัดการออกเสียงนั้นปกติจะเป็นอย่างไรจัดพร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปนั้นเป็นอย่างไรซึ่งวิธีการจะแตกต่างกันและยกตัวอย่างว่ากฎหมายกำหนดให้แต่ละเขต แต่ละในกรณีจัดการเลือกตั้งพร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปก็จะพิจารณาในเกณฑ์ส.ส. ว่าเกี่ยวกับเขตหรือไม่เพื่อให้เร็วในการบริหารจัดการและใช้บุคลากรกลุ่มเดียวกันใช้ที่ออกเสียงที่เดียวกันซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมีการออกแบบกระบวนการอยู่และคาดว่าจะมีความชัดเจนจะได้ทำความเข้าใจและชี้แจงให้สื่อมวลชนได้รับทราบ รวมไปถึงกระบวนการออกเสียงซึ่งอาจจะมีสองประเด็นในบัตรใบเดียวนั้นซึ่งเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนก็เป็นโจทย์ของ กกต. ที่จะต้องวางกระบวนการโดยเฉพาะขั้นตอนลงคะแนนในพื้นที่เลือกตั้งในที่เดียวกันจะทำอย่างไรไม่ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเกิดความสับสนซึ่งจะเป็นปัญหาเรื่องบัตรเสียหรืออะไรก็ตาม


อีกประเด็นคือเรื่องการออกเสียงนอกเขตในการเลือกตั้งสส. เรากำหนดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์เพื่อจัดส่งบัตรไปยังนอกเขตได้แต่ผลการออกเสียงนอกเขตนั้นกำหนดให้ลงคะแนนในวันออกเสียงวันเดียวกันโดยสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่เป็นโจทย์และเป็นประเด็นในการสื่อสารทำความเข้าใจให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ถึงแม้ว่าเราจะกำหนดให้ที่ออกเสียงหรือที่เลือกตั้งที่เดียวกันแล้วแต่การเลือกตั้งนอกเขตการเลือกตั้งล่วงหน้าก่อนการออกเสียงนอกเขตต้องมาดำเนินการภายในวันเดียวกับวันออกเสียง อันนี้ก็เป็นอีกโจทย์ที่ต้องหาแนวทางว่าจะสื่อสารอย่างไรตั้งแต่ขั้นตอนการลงทะเบียน ขั้นตอนการลงคะแนนเพื่อให้ประชาชนเข้าใจ

ถามว่ากรณีการจัดทำคำถามพร้อมกันสองคำถามและผูกพันถึงผลของคำถามที่สองและมีการยกร่างแก้ไขทั้งฉบับหรือไม่โดยหากเสียงข้างมากไม่คำถามที่สองก็จะไม่มีความหมายทันที ซึ่งหากลงคะแนนพร้อมกันกกต. จะต้องประกาศผลของการออกเสียงคำถามข้อที่สองหรือไม่ นายวรพงศ์ กล่าวว่าประเด็นนี้เป็นประเด็นใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นซึ่งต้องนำไปศึกษาก่อนว่าจะกำหนดแนวทางเรื่องนี้อย่างไรเพราะในขั้นตอนกระบวนการก็ต้องมีการหารือร่วมกับคณะรัฐมนตรีและทางสภาจะเป็นผู้กำหนดทิศทางก็เป็นข้อสังเกตที่ต้องมาดูกัน

ส่วนจะใช้งบกลางหรืองบอะไรนั้น เนื่องจากการเลือกสส.เป็นเหตุที่ไม่สามารถคำนวณได้ล่วงหน้า เราไม่สามารถตั้งงบประมาณเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ ซึ่งทุกครั้งจะใช้วิธีการของบกลางไปถึงคณะรัฐมนตรีรวมทั้งการทำประชามติในชั้นนี้ทางกกตอยู่ในระหว่างการของบประมาณซึ่งเรามีกฎหมายและระเบียบกับการออกเสียงประชามติเพิ่มเติมที่จะจัดควบคู่กันว่าจะนำมาประกอบร่างอย่างไรอันไหนที่ใช้งบประมาณร่วมกันได้หรืออันไหนที่ต้องเพิ่ม แต่นอกจากกกต.แล้วก็ยังมีหน่วยงานต่างๆที่จะต้องเข้ามาร่วมในการช่วยทั้งสองภารกิจ คือสำนักการปกครอง ที่ช่วยในเรื่องการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ใช้สิทธิ์ออกเสียงต่างๆมีหน้าที่ที่เกี่ยวกับการประกาศหน่วยการเลือกตั้ง การจัดทำรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งผู้มีสิทธิ์ออกเสียง ซึ่งกกต. ต้องรอความชัดเจนของตัวกฎหมายและรอความเข้าใจ อย่างกระทรวงการต่างประเทศต้องรับผิดชอบเรื่องการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรซึ่งมีข้อปฏิบัติที่แตกต่างกัน การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจะมีการส่งกลับนับคะแนนในประเทศ หรือการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่กฎหมายกำหนดให้นับคะแนนที่สถานทูตเลย ต้องมีการซักซ้อมทั้งความเข้าใจและให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งขอความร่วมมือไป รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีการดูแลการเลือกตั้ง หรือไปรษณีย์ไทยที่มีการส่งวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้งบัตรเลือกตั้ง ซึ่งต้องมีการชี้แจงความเข้าใจอย่างเข้าใจในภาพรวมกระบวนการเพื่อสามารถครอบคลุมได้ทุกภารกิจ

ในเรื่องถัดมา คือปัญหาอุปสรรคจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมีเสียงสะท้อนจากผู้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ที่ต้องออกเดินทางมาตั้งแต่เช้า หน่วยเลือกตั้งตั้งแต่ตีสี่ตีห้า ดำเนินการนับคะแนนเสร็จจนถึงเวลาส่งที่หน่วยก็ใช้เวลานาน -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]