พรรคภูมิใจไทย 29 ส.ค. – “อนุทิน” ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ ตั้งแต่ปี 62 มั่นใจเสียงเพียงพอตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ ขอทำงานเพื่อประเทศ 4 เดือน หลังแถลงนโยบาย รับเงื่อนไขพรรคประชาชน ขณะที่ “เพื่อไทย” โผล่ พร้อมหนุน 10 เสียง ส่วน ”กลุ่มสุชาติ“ หนุน 16 เสียง
ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังกลับจากเดินทางไปพูดคุยกับแกนนำพรรคประชาชน และแกนนำพรรคกล้าธรรม เพื่อขอเสียงสนับสนุนในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายศักดา วิเชียรศรี สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ และนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์
นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้พวกเราซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้มารวมตัวกันเพื่อแสดงความพร้อมในการที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลชุดต่อไป เพื่อให้ปัญหาของประเทศได้รับการแก้ไข และคลี่คลายโดยเร็ว ทำให้การขับเคลื่อนประเทศไทยที่รักของเราได้เดินหน้าต่อไปโดยไม่มีการหยุดชะงัก วันนี้หลังจากที่ตนได้รับทราบเงื่อนไขที่ทางพรรคประชาชน แจ้งให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบแล้วว่า ในการที่จะขอรับการสนับสนุนจากพรรคประชาชนให้ไม่เกิดช่องว่างในการบริหารราชการแผ่นดินนั้น เราทั้งหมดในที่นี้รับทราบเงื่อนไขของพรรคประชาชน ซึ่งได้มีการหารือพูดคุยกัน และมีการชี้แนะแนวทางมอบให้ตนหารือกับพรรคประชาชน ซึ่งทางพรรคประชาชนได้รับทราบเจตนารมณ์ของพวกเราทุกคน และเงื่อนไขของพรรคประชาชน พวกเราทุกคนยืนยันไปว่าจะดำเนินการตามสิ่งที่ได้มีการหารือกันไว้ในสาระสำคัญ รวมถึงประเด็นรายละเอียดก็เห็นพ้องต้องกัน
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า วันนี้หลังได้รับทราบคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญแล้ว พวกเราก็มารวมตัวกัน และเห็นว่าจะปล่อยให้ประเทศไทยหยุดชะงักไม่ได้ ปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน บางทีเป็นเหมือนเส้นผมบังภูเขา ถ้าเป็นกลุ่มเดิมอาจจะแก้ไขไม่ได้ แต่ถ้าเป็นกลุ่มพวกเรามั่นใจว่าจะแก้ไขได้ เรามีความห่วงใยบ้านเมือง มีความต้องการคืนความสงบสุขทั้งหลายให้กับบ้านเมือง
นายอนุทิน กล่าวว่า พวกเราทั้งหมดในที่นี้ เมื่อรวมกับเสียงพรรคประชาชนแล้ว มั่นใจว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาบริหารประเทศได้ เงื่อนไขต่างๆ ที่มีคือ เรื่องของการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ เงื่อนไขการแก้ปัญหาคืนความสงบสุข การเจรจาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาอย่างรุนแรง นอกเหนือจากการบริหารราชการแผ่นดินทั่วไปแล้ว เราจะคืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชนภายในเวลา 4 เดือน หลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายรับตำแหน่ง และยุบสภา เพื่อพี่น้องประชาชนจะได้รีเซตประเทศอีกครั้ง และได้ใช้อำนาจของพี่น้องประชาชนตัดสินใจอนาคตของบ้านเมืองถึงผู้ที่จะมาบริหารประเทศต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนเข้าใจดีว่ามีอุปสรรคปัญหาต่างๆ มากมาย อยากจะมาอยู่ตรงนี้ก็ต้องแลกกับการสูญเสียบางอย่างของพรรคพวกพี่น้องของพวกเราทั้งสิ้น แต่เราจะปล่อยให้ประเทศอยู่โดยที่มีความเคลือบแคลงสงสัย หรือความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านเช่นนี้ไม่ได้ พวกเราที่อยู่ในที่นี้ขอเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในทุกๆ ด้าน และคืนอำนาจให้พี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด
เมื่อถามว่า พรรคประชาชนตอบรับอย่างเป็นทางการที่จะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ แล้วใช่หรือไม่ และขณะนี้รวบรวมได้กี่เสียงแล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า คิดว่าการที่เราได้พูดคุยกับพรรคประชาชน เราได้พูดในหลักการในทีโออาร์ที่ทางพรรคประชาชนนำเสนอมา ซึ่งเราตอบรับทีโออาร์เช่นนั้นได้เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง ส่วนหน้าที่การรวบรวมเสียงเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ซึ่งในหลักการพรรคประชาชนก็ไม่ได้มีข้อขัดแย้งหรือการไม่เห็นด้วยแต่อย่างใด อาจจะเหลือเรื่องของรายละเอียดปลีกย่อย เพราะพรรคประชาชนต้องการให้มีการตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษรกำกับเอาไว้ ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินงานของพรรคประชาชน ที่จะมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการช่วยกันหาทางออกให้กับประเทศ
เมื่อถามว่า เงื่อนไขของพรรคประชาชนเหมือนจะให้ยุบสภาเร็วเกินไป หรืออาจมีการยืดหยุ่น ยอมรับได้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าอยู่ในเงื่อนไขเราก็ต้องรับเงื่อนไขนั้น มันไม่มีคำว่าเร็วเกินไปหรือช้าเกินไป เพราะเรารู้ว่าเงื่อนไขเวลามีเท่านี้ ดังนั้น เราต้องจัดลำดับความสำคัญปัญหาของบ้านเมืองที่ต้องได้รับการแก้ไขทันที พวกเราที่อยู่ในที่แห่งนี้ รวมถึงพรรคกล้าธรรม ที่เราเพิ่งได้ไปพบหัวหน้าพรรคมา เรามีประสบการณ์ มีความสามารถ มีความตั้งใจ มีความจริงใจที่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่า รวบรวมเสียงไว้มีประมาณกี่เสียง นายอนุทิน กล่าวว่า ขออนุญาตว่าเราไม่เอาเรื่องของจำนวนตัวเลขมาพูด เราถือว่ามาทำงานให้บ้านเมือง และยืนยันว่ามีเสียงสนับสนุนเพียงพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลเพื่อบริหารราชการแผ่นดินได้เร็วที่สุด
เมื่อถามย้ำว่า พรรคกล้าธรรมมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทยแน่นอนแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มีการแถลงข่าวร่วมของหัวหน้าพรรคแล้ว ซึ่งหัวหน้าพรรคกล้าธรรมได้แถลงในรายละเอียดแล้ว และมีการแถลงยืนยันกับผู้สื่อข่าวแล้วด้วย
เมื่อถามถึงพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่ปิดกั้น รัฐบาลครั้งหน้า เป็นรัฐบาลที่มีวัตถุประสงค์แน่นอนเฉพาะกิจ จะต้องจัดทำเรื่องที่มันแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ให้ผ่านไปได้โดยเร็ว เพราะฉะนั้น ถ้าพรรคในกลุ่มใดเห็นว่ามีความสามารถช่วยกันสร้างชาติ ทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ พวกเราทุกคนในที่นี้จะไม่มีการตั้งแง่ใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า ได้ยกหูพูดคุยแล้วหรือไม่กับพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ตอนนี้คุยกันก็มาอยู่ตรงนี้แล้ว และตอนนี้มีเสียงเพียงพอที่จะนำเสนอให้ทางพรรคประชาชนได้มีความวางใจว่า การร่วมมือระหว่างประชาชนกับกลุ่มของพวกเราจะทำประโยชน์ให้กับประเทศเต็มที่
เมื่อถามว่า ขณะนี้พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ความพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรีของตนเอง ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และแคนดิเดตของพรรคภูมิใจไทย ก็ต้องบอกว่าพร้อมมาตั้งแต่ปี 2562 แล้ว
เมื่อถามว่า ห่วงเรื่องการชิงยุบสภาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเองขอไม่ก้าวล่วงตรงนั้น ซึ่งความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร สิ้นสุดลงตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตอนนี้ทุกคนมาสร้างบ้านสร้างเมืองต่อดีกว่า ซึ่งกระบวนการในการเลือกนายกฯ ใหม่ ก็ควรจะเป็นเช่นนั้น
เมื่อถามว่า เพื่อไทยจะเสนอชื่อแข่ง มีความกังวลเรื่องการดีลไม่ลงตัวและย้ายฝั่ง นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีแล้ว พรรคพลังประชารัฐมีหรือไม่
เมื่อถามว่า ทางกลุ่ม 18 สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ ให้เหตุผลในการมาร่วมสนับสนุนอย่างไร นายอนุทิน จึงให้นายสุชาติ กล่าวให้เหตุผลว่า พวกตนมากัน 16 คน โดยการสนับสนุนครั้งนี้เป็นเอกสิทธิ์ของ สส. มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศชาติบ้านเมืองเดินหน้าต่อไป
เมื่อถามว่า ได้คุยกับนายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แล้วหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า เป็นเรื่องสิทธิของ สส. ตนพูดในฐานะที่ตนก็เป็น สส.เหมือนกัน สส.ทุกคนมีสิทธิ หนึ่งคนหนึ่งสิทธิ พวกเรามี 16 คนเห็นตรงกัน และเดินมาถึงจุดนี้
ขณะที่นายศักดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ที่ได้เดินทางมาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงเหตุผลในการมาร่วมสนับสนุนในครั้งนี้ว่า ตนและพรรคพวกกลุ่มหนึ่งอยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปในทางที่ดีขึ้น จึงมาสนับสนุนนายอนุทิน เป็นนายกฯ
เมื่อถามว่า นำ สส.มากี่คน นายศักดา กล่าวว่า ประมาณ 10 กว่าคน เป็น สส.พรรคเพื่อไทยทั้งหมด เมื่อถามว่า ได้คุยกับทางพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายศักดา กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิ์ของตน ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพรรคเพื่อไทย แต่อยากเห็นบ้านเมืองไปได้ ตนเป็นผู้แทนฯ บ้านนอก เห็นความเดือดร้อนประชาชน ตนมั่นใจว่า นายอนุทิน เหมาะสมที่สุด.-416-สำนักข่าวไทย