กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ก.ต่างประเทศ 15 ส.ค.-กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เผย 1 เดือน ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดแล้ว 5 ครั้ง มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเป็นทุ่นใหม่ ไม่ใช่มรดกสงคราม ย้ำไทยมุ่งใช้กลไกทวิภาคี แก้ปมชายแดน จี้หยุดบิดเบือนเฟกนิวส์

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงหลังการบรรยายสรุปแก่คณะทูต องค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านทุ่นระเบิดว่า การบรรยายสรุปในวันนี้ (15 ส.ค.) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ข้อเท็จจริงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้พหารไทยหลายท่านได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพถาวร และสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน และเพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทยในเรื่องนี้ โดยได้เชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศและองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าร่วม โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟัง 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ


นายนิกรเดช กล่าวว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้กล่าวเปิดผ่านวิดีโอคลิป เนื่องจากขณะนี้ท่านติดการกิจอยู่ระหวางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ที่เมืองอันหนิง ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยทำหน้าที่ประธานการประชุมร่วมกับจีน หลังจากนั้นเป็นการบรรยายของนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ตามด้วยเจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ผู้แทนหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ

นายนิกรเดช ระบุว่า รัฐมนตรีมาริษได้กล่าวย้ำถึงวัตถุประสงค์ของการจัดการบรรยายสรุปในวันนี้ เพื่อชี้แจงให้ประชาคมโลกได้รับทราบความจริงที่ครบถ้วน เรื่องการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวาที่กัมพูชาเป็นภาคี และความไม่ตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แม้ฝ่ายไทยจะเสนอให้มีการเก็บกู้ร่วมกันในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง


ท่านรัฐมนตรีได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของไทยในการปฏิบัติตามอนุสัญญาและข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ต่อมาท่านผู้ช่วยรัฐมนตรีรัศม์ ได้สรุปผลลัพธ์ที่สำคัญๆ ของการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยวิสามัญ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 โดยชี้ให้เห็นถึงผลกระทบของการใช้ทุ่นระเบิดต่อความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยฝ่ายไทยได้เสนอกัมพูชา 2 เรื่องคือให้มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวมไปถึงการปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ร่วมกัน แต่ทั้งสองข้อไม่ได้รับการตอบสนองจากฝ่ายกัมพูชา

นอกจากนี้ยังได้ย้ำถึงความโปร่งใสในการดำเนินการของฝ่ายไทย ที่ได้นำคณะทูตลงพื้นที่สังเกตการณ์ผลกระทบจากการโจมตีแบบอย่างไม่เลือกเป้าของฝ่ายกัมพูชา เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ที่จะจัดให้มีการลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อสังเกตการณ์เรื่องการใช้หุ่นระเบิดโดยฝ่ายกัมพูชา ต่อมาท่านเจ้ากรมกิจการขายแดนทหาร พลโท ณัฐพงษ์ เพราแก้ว พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษธรรม ได้ให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดที่วางโดยฝ่ายกัมพูชา ตั้งแต่แรกเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี จนถึงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 ที่เพิ่งผ่านมา พร้อมทั้งให้ข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจและการใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบและเก็บกู้ทุ่นระเบิดของฝ่ายไทย และบทบาทของหน่วยปฏิบัติการฯ ในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ต่อมานายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ได้ให้ข้อมูลความพยายามของไทยในช่วงที่ผ่านมาที่ผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันในเรื่องการเก็บกับกู้ทุ่นระเบิดร่วมกัน แต่เหตุการณ์การเหยียบกับระเบิดโดยทหารไทยล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เรื่องการกวาดล้างทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมไม่ใช่ประเด็นที่ฝ่ายกัมพูชาให้ความสำคัญ โดยไทยได้ทำการประท้วงกัมพูชาในช่องทางทางการทูตต่าง ๆ ไปแล้ว และจะผลักดันเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องในการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) และรวมถึงการประชุม GBC ที่จะมีเกิดในเร็ว ๆ นี้


จากนั้น น.ส.พินท์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ และอนุสัญญาออตตาวาโดยฝ่ายกัมพูชา จากกรณีการลอบวางทุ่นระเบิด ตลอดจนการดำเนินการชี้แจง การนำเสนอข้อเท็จจริง และการประท้วงของไทยต่อกรณีข้างต้นในเวทีพหุภาคี

นายนิกรเดช สรุปประเด็นสำคัญจากการบรรยายสรุปครั้งนี้ 6 เรื่อง คือ

1.ประเทศไทยยึดมันในกฎหมายระหว่างประเทศ และพร้อมปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด รวมถึงพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาออตตาวาในการกำจัดทุ่นระเบิดให้หมดไป ทั้งด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยและด้านมนุษยธรรมสำหรับประชาชน โดยจนถึงปัจจุบัน ไทยได้เก็บกู้พื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดไปแล้วกว่า 99.5% ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2,500 ตารางกิโลเมตร และยังให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี

2.ในช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือนที่ผ่านมา ทหารไทยต้องเหยียบทุ่นระเบิดที่วางโดยฝ่ายกัมพูชาแล้วรวม 5 ครั้ง เมื่อวันที่ 16, 23 และ 28 กรกฎาคม และล่าสุด เมื่อวันที่ 9 และ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ทุพพลภาพถาวร 5 ท่าน และมีผู้ให้รับบาดเจ็บหลักสิบคน โดยฝ่ายไทยมีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่บ่งชี้ว่า ทุ่นระเบิดที่พบในบริเวณชายแดนเป็นทุ่นระเบิดประเภท PMN-2 ที่ถูกนำมาวางไว้ใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่เป็นมรดกจากสงครามในอดีตตามที่ฝ่ายกัมพูขากล่าวอ้าง ขอย้ำอีกครั้งว่าไทยไม่มีทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในครอบครองแล้ว

3.ประเทศไทยได้ดำเนินการประท้วงกัมพูชาในช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการตามกรอบอนุสัญญาออตตาวา หรือการมีหนังสือประท้วงไปยังเลขาธิการสหประชาชาติและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติ โดยไทยประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งหลักการพื้นฐานของกฎบัตรสหประชาชาติ รวมทั้งเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และพันธกรณีตามอนุสัญญาออตตาวาที่ทั้งไทยและกันพูชาเป็นภาคี อีกทั้งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่กำหนดให้ประเทศทั้งสองยุติการใช้อาวุธทุกชนิด รวมถึงทุ่นระเบิดสังหารบุคคลด้วย

4.กัมพูชาปฏิเสธที่จะหารือเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวมถึงเรื่องการปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ ตามที่ไทยเคยเสนอในการประชุม GBC สมัยวิสามัญที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพฤติการณ์ที่ไม่สุจริตใจและไม่จริงใจของฝ่ายกัมพูชา ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้กัมพูชายุติการกระทำที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาและข้อตกลงหยุดยิงโดยทันที แสดงความจริงใจที่จะฟื้นฟูสันติภาพบริเวณชายแดน และหันกลับมาร่วมมือกับไทยในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน

5.ประเทศไทยหวังว่า ประเด็นเรื่องการเก็บกู้ทุนระเบิดจะได้รับการพิจารณาในการประชุม RBC และ GBC ที่กำลังจะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ส่งผลต่อความปลอดภัยและการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชนทั้งสองฝั่งชายแดน

6.ในวันพรุ่งนี้ กระทรวงการต่างประเทศพร้อมด้วยหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้องจะจัดให้คณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียน รัฐภาคีอนุสัญญาออตาวา และผู้แทนองค์การภาคประชาสังคมที่มีภารกิจด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวมทั้งสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อสังเกตการณ์ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้จะได้นำหลักฐานเชิงประจักษ์ต่าง ๆ กลับไปพิจารณาทบทวนการให้ความช่วยเหลือแก่กันพูชาในการก็บกู้ทุนระเบิดอย่างรอบคอบ รวมทั้งกดดันให้กัมพูชา ในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาฯ แสดงความรับผิดชอบในเรื่องนี้

นายนิกรเดช ย้ำว่า ตนขอใช้โอกาสนี้ย้ำในอีก 2 ประเด็น คือ

1.ประเทศไทยยืนยันความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาเขตแดนและความตึงเครียดต่าง ๆ กับกัมพูชาโดยสันติวิธีผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น RBC GBC หรือคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทยจะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงด้วยความจริงใจและสุจริตใจ และคาดหวังในทางเดียวกันให้กัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในกลไกเหล่านี้เช่นกัน

2.ฝ่ายไทยขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ซึ่งนอกจากจะขัดต่อเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิงที่กำหนดให้งดเว้นการแพร่ข้อมูลเท็จหรือข่าวปลอมแล้ว ยังไม่เป็นผลดีต่อการสร้างภาวะที่เอื้อต่อการแก้ไขปัญหาและลดความตึงเครียดที่มีอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า การร้องเรียนกัมพูชาเกี่ยวกับการละเมิดอนุสัญญาออตตาวาใช้เวลาดำเนินการนานแค่ไหน นายนิกรเดชกล่าวว่า การประชุมอนุสัญญาออตตาวาครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม ในข้อเรียกร้องของเรา ไทยได้พูดถึงความเร่งด่วนของปัญหา แต่เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือการควบคุมว่าประธานอนุสัญญาจะเรียกร้องใหกัมพูชาดำเนินการอย่างไรหรือให้ข้อเท็จจริงอย่างไร อย่างไรก็ดีไทยได้ทำหนังสือเลขาธิการสหประชาชาติด้วย ซึ่งท่านมีอำนาจที่จะเรียกร้องให้กัมพูชาชี้แจงขอ้เท็จจริงซึ่งอาจเกิดขึ้นก่อนได้ เราเรียกร้องอย่างต่อเนื่องและหวังจะเกิดขึ้นเร็วกว่าการประชุมรอบปกติ แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะเกิดขึ้นได้เร็วที่สุดเมื่อไหร่.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]