กมธ.ศึกษา สว.เรียกร้อง “รัฐบาล” ตัดงบช่วยเหลือด้านการศึกษา “เขมร”

รัฐสภา 13 ส.ค.-กมธ.ศึกษา สว.เรียกร้อง “รัฐบาล” ตัดงบช่วยเหลือด้านการศึกษา “เขมร” มั่นใจไม่ขัดสิทธิเด็ก-มนุษยธรรม ยกตัวอย่าง “ยุโรป-อเมริกา” ก็ดูแลเฉพาะที่เข้าเมืองถูกกฎหมาย เปรียบ “เด็กกัมพูชา” ลาครูกลับบ้านเสียใจร้องไห้ แต่ “เด็กไทย” ที่ตายไม่มีโอกาสแม้กระทั่งเจอพ่อแม่ ถามตอนกดปุ่มระเบิดคิดอย่างไร

นายกมล รอดคล้าย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา นำคณะ สว.แถลงข่าวเสนอแนะรัฐบาล เรื่องขอให้พิจารณาปรับลดโครงการความช่วยเหลือด้านการศึกษาที่ประเทศไทยมีต่อประเทศกัมพูชา


โดยนายกมล กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดน ซึ่งไทยมีพื้นที่ติดกับกัมพูชาเป็นเส้นทางที่ยาวไกล เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นผลกระทบทั้งต่อพี่น้องประชาชนและเด็กที่อยู่ในโรงเรียน ประเด็นที่อยากจะนำเสนอในวันนี้มี 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนที่เราช่วยเหลือ ดูแลกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศที่พ่อแม่ ผู้ปกครองมาทำงานในประเทศไทย และลูกหลานจะต้องมาอยู่ในประเทศไทยด้วย ซึ่งเราจะต้องดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชนและตามข้อตกลงระหว่างประเทศ ประเทศไทยจะต้องทบทวน ในฐานะที่เราเคยเป็นประเทศที่ดีต่อกัน

ประเทศไทยเราได้ดูแลเด็ก ซึ่งนอกจากจะเป็นเด็กไทยแล้ว เรายังต้องดูแลเด็กที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร์ ไม่มีสัญชาติไทย กลุ่มชาติพันธุ์ เด็กด้อยโอกาส ผู้โยกย้ายถิ่นฐาน และลูกหลานของแรงงานต่างด้าว ซึ่งเป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก วันนี้ประเทศไทยของเรามีเด็กชาวต่างด้าวอยู่ทั้งหมดประมาณ 108,000 คน ซึ่งลูกหลานแรงงานที่ว่านี้จะเป็นเด็กที่อยู่ในโรงเรียนของสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่เหลือจะอยู่ในโรงเรียนเอกชน ขณะเดียวกัน มีกลุ่มที่อยู่บริเวณชายแดนและเดินข้ามมาในประเทศไทย ซึ่งเรามีอยู่ทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย ลาว กัมพูชา และเมียนมา ที่เดินทางเข้ามาจำนวนมาก โดย 541 คนมาจากชายแดนด้านกัมพูชาและลาวเป็นส่วนใหญ่ เด็กทั้งหมดนี้เป็นเด็กที่เราจะต้องดูแลค่าใช้จ่ายรายหัว หากคำนวณแล้วจะต้องเสียเงิน 837 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตกคนละ 20,000 – 30,000 บาท ที่เป็นปัญหาคืองบประมาณที่เราดูแลเด็ก


“เรามีค่าใช้จ่าย ซึ่งเราดูแลเด็กต่างด้าวมากกว่าเด็กไทยอีก เด็กที่มาจากต่างประเทศมีอย่างน้อยประมาณ 15 ประเทศ แต่สูงสุดก็คือเด็กกัมพูชา เมียนมาและลาว ประเด็นที่อยากจะเรียนต่อคือ เราควรจะดูแลเด็กเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน หรือมิติของการดูแลเด็ก เราจะต้องดูแลอย่างครบถ้วน ทั้งที่หลักการประเทศที่เจริญแล้วจะดูแค่เด็กที่เข้าเมืองถูกกฎหมาย แต่เราดูมากกว่า เพราะฉะนั้น ค่าใช้จ่ายรายหัวจึงสูงมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะด้านการศึกษา เรื่องพยาบาล เรื่องอื่นตามมาด้วย” นายกมล กล่าว

นายกมล กล่าวว่าเป็นเรื่องข้อตกลงอาเซียน ทำให้เราต้องดูแลมากกว่าเรื่องสิทธิเด็ก สุดท้ายสิ่งที่เราอยากจะนำเสนอคือประเทศไทยและจะปรับลดค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรจะเริ่มที่ประเทศกัมพูชาก่อน ถ้าหากไม่มีความเป็นกัลยาณมิตร เราจำเป็นจะต้องจัดการกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง เราน่าจะดูแลเฉพาะส่วนที่ถูกกฎหมาย ส่วนที่เขาผิดกฎหมาย หรือเด็กที่เดินข้ามมาชายแดน เราน่าจะระงับความช่วยเหลือไว้ก่อนในเบื้องต้น

ส่วนที่สอง นายกมล ระบุว่า อยากให้ลดความช่วยเหลือด้านการศึกษาอื่นๆ เฉพาะกับประเทศกัมพูชา เรามีความร่วมมือทางด้านการศึกษา สาธารณสุข เทคนิค และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมนุษยธรรม วันนี้เรามีความช่วยเหลืออย่างน้อย 6-7 เรื่อง และในปีนี้มีกิจกรรมหลากหลาย มีทุนที่มาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ให้แก่เด็กกัมพูชา วันนี้เราน่าจะต้องกำหนดทิศทาง


ไทยควรจะดูแลเด็กตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เฉพาะเรื่องที่เด็กเข้ามาอย่างถูกกฎหมายคือ 103,000 คน ส่วนอีกประมาณ 800,000 คน เราควรชะลอการช่วยเหลือไว้ก่อนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น หรืออาจจะต้องปรับให้กับประเทศลาว เมียนมา เวียดนาม รวมถึงประเทศประเทศอื่น ซึ่งประเทศไทยก็เป็นกัลยาณมิตรสูงมาก โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน

“ผู้ที่คิดถึงมนุษยชนอาจจะมองว่าทำไมต้องทำเรื่องนี้ แต่เราทำเท่าที่จำเป็น และไม่ได้ต่ำกว่ามาตรฐานในประเทศยุโรปเลย เด็กไม่ได้ไปเรียน 16 วันแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะส่งไปเรียนได้ตามปกติหรือไม่ เด็กกัมพูชาที่กลับประเทศมีโอกาสที่เสียใจ แต่เด็กไทยที่โดนระเบิด เขาไม่มีโอกาสได้เสียใจ เขาไม่มีโอกาสได้ร้องไห้ ไม่มีโอกาสได้ไปโรงเรียน และไม่มีโอกาสได้พบกับพ่อแม่เขาอีกเลย เพราะฉะนั้น สิ่งเหล่านี้ ผมอยากบอกกับทุกท่านว่าโลกเรามันไม่ได้สวยเหมือนที่เราคิด ขอให้ตั้งอยู่บนหลักเหตุผลและก็พร้อมที่จะทำหน้าที่นี้ เพื่อพวกเราชาวไทยต่อไป” นายกมล กล่าว

ด้านนายวิวัฒน์ รุ้งแก้ว สว.จาก จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่าจังหวัดศรีสะเกษมีด่านช่องสะงำ มีโรงเรียนห่างจากด่าน 13 กิโลเมตร แต่มีนักเรียนที่บิดามารดาพำนักที่กัมพูชาแล้วส่งมาเรียนที่โรงเรียนในไทย ตนจึงไปถามว่ามาเรียนได้อย่างไร ก็ทราบว่าผู้ปกครองมาส่งตอนเช้า ตอนเย็นมารับกลับ ตนได้รับแจ้งว่าเด็กดังกล่าวเป็นเด็กติด G ซึ่งเด็กติด G ผู้ปกครองต้องมีถิ่นพำนักอยู่ที่ประเทศไทย จึงสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อผู้ปกครองทำงานอยู่ที่กัมพูชา ทำงานทำการ หากินที่กัมพูชา แต่มาเรียนที่ประเทศไทย ใช้ทรัพยากรของไทย โดยเฉพาะภาษี อย่าคิดถึงอาหาร ค่าเล่าเรียน แต่ต้องนึกถึงสิ่งปลูกสร้างและค่าจ้างครูด้วย ถ้ามา 10 คนก็ 300,000 บาท เราแบกภาระกันสมควร ส่วนเรื่องสิทธิเด็กพอจะจำเป็นต้องทำ แต่เราทำเต็มที่ตามสนธิสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก

“ถ้าเขามาเรียนบ้านเราแล้วเป็นคนดีตามความเชื่อของคนไทย คือต้องมีความชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยึดมั่นในคติของพวกเราชาวไทย เคารพกฎหมายไทย ทำตัวเป็นคนดี เราไม่ต้องคิดมาก แต่วันนี้สิ่งที่ทำให้ต้องคิดมาก เพราะเรามีความรู้สึกว่ากัมพูชาไม่รู้สึกสำนึกในบุญคุณข้าวแดงแกงร้อน ผมไม่เอาประวัติศาสตร์ที่เกิดไม่ทันมาเล่า ผมเอาเฉพาะที่ผมเกิดทันคือปี 2510 – 2518 กัมพูชาบ้านแตกสาแหลกขาด เราคนไทยได้ดูแลด้านมนุษยธรรมอย่างเต็มที่ แต่วันนี้สิ่งที่กัมพูชาทำกับเราถือว่าไม่สำนึกบุญคุณข้าวแดงแกงร้อน เพราะฉะนั้น ความช่วยเหลืออื่น ความช่วยเหลือใดๆ รวมทั้งการศึกษา เราควรพิจารณาตัดในส่วนที่ตัดได้“ นายวิวัฒน์ กล่าว

ขณะที่นายชาญชัย ไชยพิศ สว.จาก จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ประเทศเพื่อนบ้านที่เราไว้วางใจ ให้ความรักตลอดหลาย 10 ปีที่ผ่านมา เขาไม่นึกเลยว่าในช่วงปี 2520 อพยพมาหลายแสนคน มาอยู่ในผืนแผ่นดินไทย มากินข้าวที่เมืองไทย มาใช้น้ำที่เมืองไทย มาพึ่งมาโพธิสมภารของพระเจ้าอยู่หัว ข้าวของไทยไม่มียาง ไม่มีสำนึกบุญคุณบ้านเราบ้างเลย

“บ้านสร้างมาเป็นล้านก็เหลือเป็นเศษซาก ถ้าคนอยู่ก็คือตาย แต่ชาวบ้านเขาเชื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และอพยพมาก่อนทำให้ปลอดภัย เราจึงอยากให้รัฐบาลทบทวนสิ่งที่ช่วยเหลือ” นายชาญชัย กล่าว

จากนั้นเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่ขัดหลักการสิทธิมนุษยชน นายกมล กล่าวว่า เราได้ตรวจสอบหลักกฎหมายมาเรียบร้อยแล้ว ถ้าไปยุโรป อเมริกา เขาจะดูแลสิทธิเด็กเฉพาะเด็กที่เข้าเมืองถูกกฎหมาย เช่น พ่อแม่ไปเรียน ทำงาน ลูกหลานก็จะไปเรียนและใช้สิทธิ์ได้แบบเดียวกับประเทศเหล่านั้น อย่าว่าแต่เรื่องการศึกษาเลยกระทรวงสาธารณสุขหมดเงินไปหลายบาทแล้วกับการช่วยเหลือเพื่อนบ้าน สิ่งที่เราอยากให้ชะลอหรือปรับลดคือส่วนที่ไม่อยู่ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก

เมื่อถามว่าจะไม่เป็นเครื่องมือให้ทางกัมพูชากล่าวหาว่าประเทศไทยละเมิดมนุษยธรรมหรือไม่ นายกลม กล่าวว่าเราไม่ได้ทำ 100% เรายังรักษาสิ่งที่เป็นกฎเกณฑ์ เป็นสากล แต่คนที่ไม่เป็นมิตร ไม่น่าจะมาเรียกร้อง แน่นอนเขาอาจจะไปพูด แต่คนไทยต้องกล้าที่จะเสนอ กับเพื่อนกับกัลยาณมิตรเราพร้อมที่จะดูแลทุกอย่าง ถ้าความสัมพันธ์ดีขึ้น ถ้ากัมพูชาเปลี่ยนท่าที เราก็พร้อมที่จะเอาเรื่องนี้มาพิจารณากันใหม่

เมื่อถามว่าจะไม่เป็นประเด็นเรื่องรังเกียจทางด้านเชื้อชาติหรือไม่ นายกมล กล่าวว่า ไม่ครับ เราดูแลเด็กเด็กทุกคนเท่าเทียมกัน แต่อย่าลืมว่าค่าใช้จ่ายรายหัว ตอนที่เขายิงระเบิดลูกแรกลงมาตกในร้านสะดวกซื้อแล้วคนตาย 8 คน ตอนเขากดปุ่ม เขาคิดอย่างไร เพราะฉะนั้น นี่คือคำตอบของผม.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]