“บิ๊กเล็ก” ชี้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นถือว่าดีมากแล้ว เรื่องกับระเบิด จะคุยจนกว่ายอมรับ

ทำเนียบ 8 ส.ค.-“บิ๊กเล็ก” มอบความสำเร็จให้ทีมเจรจา GBC พร้อมขอบคุณประชาชน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาที่อดทน ให้ผู้ว่าฯ ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงอนุญาตประชาชนกลับบ้าน ชี้กัมพูชาเมินข้อตกลงเก็บกู้ระเบิด เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันกำลังตนเอง ย้ำจะนำไปคุยใน GBC และจนกว่าจะยอมรับ จ่อตั้งทีมที่ปรึกษาส่วนตัวดูข้อกฎหมายรอบด้าน

พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำผลสำเร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย – กัมพูชา หรือ GBC ว่า ขอบคุณทีมคณะเลขานุการ GBC ดำเนินการพูดคุยจนบรรลุข้อตกลง 13 ประเด็น โดยผลสำเร็จที่สำคัญ คือ เป็นการตกลงแบบทวิภาคี ระหว่างไทย – กัมพูชา ซึ่งอาเซียนได้ปล่อยให้ทั้งสองประเทศพูดคุยกัน โดยไม่เข้ามาแทรกแซง ทำหน้าที่เพียงเป็นผู้สังเกตการณ์ ขณะที่ในการพูดคุยมีผู้สังเกตการณ์จากสหรัฐสหรัฐอเมริกา และจีน ก็ได้ปล่อยให้อาเซียนบริหารจัดการกันเอง โดยไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นกัน ถือว่าได้รับคำมั่นจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และมาเลเซียก็ตอบรับคำขอไทย ที่พยายามจะรักษาการพูดคุยระหว่างสองประเทศ เพื่อให้กลไกทวิภาคีดำเนินการต่อไปได้ และสิ่งที่ไทยประสบผลสำเร็จอีกหนึ่งประการ คือ เป็นอีกครั้งที่กัมพูชายอมพูดคุยทวิภาคี หลังจากที่ปฏิเสธมาตลอด


ส่วนการจะเชื่อใจกัมพูชาได้อย่างไรนั้น พลเอกณัฐพล ย้ำว่า จะใช้แนวทางเดิม คือ ความเป็นผู้มีวุฒิภาวะ โดยประเทศไทยจะแสดงถึงความเป็นผู้มีวุฒิภาวะ ดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศ และปฏิบัติตามความเห็นร่วมกันของนานาชาติ ซึ่งจะเป็นกรอบประเมินควบคุมการปฏิบัติงานของฝ่ายกัมพูชา ว่า จะดำเนินการขัดต่อกฎหมาย หรืออนุสัญญานานาชาติหรือไม่

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่าส่วนตัวประเมินกัมพูชาใน 3 ขั้น คือ การประชุม GBC ในชั้นเลขานุการ ถือว่ากัมพูชาให้ความร่วมมือกับไทยเป็นอย่างดี แม้จะมีบางข้อที่ไม่ยอมรับ และบางข้อที่เสนอมา ซึ่งไทยก็ไม่ยอมรับเช่นกัน เช่น ไทยเสนอประเด็นการเก็บกู้วัตถุระเบิด รวมถึงการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แต่กัมพูชาก็ปฏิเสธ


ขั้นที่ 2 จะประเมินการประชุม GBC แบบเต็มคณะ ที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้ลงนามตกลงกับกัมพูชา โดยจะยึดถือตามเอกสารที่ลงนามกัน และขั้นที่ 3 คือ จะประเมินขั้นตอนการปฏิบัติ ซึ่งขั้นตอนนี้จะมีกลไกกำกับ คือ กลไกคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC และจากนั้นอีก 1 เดือนจะเข้าสู่การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย – กัมพูชา หรือ JBC

พลเอกณัฐพล ยังย้ำว่า ปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาครั้งนี้ จะใช้ผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ทหารอาเซียนที่อยู่ในประเทศประเทศไทย คอยสังเกตการณ์ในเรื่องนี้ ดังนั้น จะไม่มีการนำกำลังจากนอกประเทศมายังประเทศไทย ขอให้ประชาชน และสื่อมวลชนสบายใจได้ พร้อมย้ำว่า กลไกกำกับเหตุการณ์ครั้งนี้มีอยู่ 3 ระดับ หรือ RBC, GBC และคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวจากอาเซียน ซึ่งอาจมาไม่ครบทุกประเทศ รูปแบบจะคล้ายกับการนำคณะทูตทหารลงพื้นที่ดูข้อเท็จจริงที่จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา

พลเอกณัฐพล ยังยืนยันว่า ทั้งกลไก GBC และศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ที่มีทีมกฎหมายดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งตนเองจะทำในสิ่งที่อยู่ในกรอบกฎหมาย แต่หากเกินอำนาจจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. และย้ำว่าการดำเนินการของ ศบ.ทก. จะไม่อยู่นาน แต่สถานการณ์ปัจจุบันรัฐบาลยังคงเป็นห่วง จึงอยากให้ ศบ.ทก. ช่วยดำเนินการไปก่อน แต่เมื่อถึงเวลาจะเสนอจบภารกิจ เพราะยอมรับว่าเป็นภารกิจที่หนักมาก ที่มีการดำเนินการเกี่ยวข้องกับกฎหมายต่างๆ รวมถึงคดีที่จะตามมาด้วย และล่าสุด เพื่อความปลอดภัยในแง่ของกฎหมาย จะแต่งตั้งทีมที่ปรึกษาส่วนตัว โดยมีเลขาธิการสำนักงานกฤษฎีกา เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อช่วยดูสิ่งที่ดำเนินการต่าง ๆ ว่า ต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างไร รวมถึงจะแต่งตั้งที่ปรึกษา ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านทหาร กฎหมาย แผนที่ ประวัติศาสตร์ อีกประมาณ 8 คน เพราะมองเห็นแล้วว่างานในข้างหน้า ลำพังกลไก GBC หรือ ศบ.ทก. จะเกินกำลัง ดังนั้น ต้องมีผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญมาช่วยงานในสิ่งที่ควรดำเนินการต่อไป


พลเอกณัฐพล ยังระบุว่า ได้รับทราบถึงปัญหาประชาชนในพื้นที่ชายแดนที่ต้องการกลับบ้านแล้ว ที่ห่วงเรื่องผลผลิตทางการเกษตร ที่บางอย่างต้องเก็บเกี่ยวแล้ว เพราะหากช้าไปอาจจะเกิดการสูญเสียได้ จึงได้ประสานไปยังแม่ทัพภาคที่ 2 ให้หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด 4 ชายแดน เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่เพื่อความปลอดภัยขอความร่วมมือให้อยู่ในศูนย์พักพิงก่อน พร้อมขอบคุณน้ำใจประชาชน 4 จังหวัดชายแดน ที่แม้จะมีความเดือดร้อน ไม่เคยพูดตัดพ้อให้ ศบ.ทก. หรือ คณะกรรมการ GBC แต่อย่างใด

และส่วนตัวทราบว่าประชาชนเดือดร้อนมาก จึงขอบคุณความอดทนอดกลั้นของประชาชน และจะพยายามคลี่คลายสถานการณ์ให้เป็นไปตามลำดับ ทั้งนี้ ในพื้นที่สามารถประเมินและตัดสินใจให้ประชาชนกลับบ้านได้เองโดยไม่ต้องรายงานต่อที่ประชุม ศบ.ทก. รับทราบ แต่ขณะนี้ฝ่ายทหารยังเป็นห่วงเรื่องระเบิดที่ตกมายังประเทศไทย เพราะมีลูกจรวดบางส่วนยังตกค้างอยู่ในพื้นที่ กังวลว่าประชาชนจะไม่ปลอดภัย แม้ว่าชุด EOD ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เข้ามาช่วยเก็บกู้ระเบิดแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีที่ยังไม่ได้ตรวจสอบอีก ดังนั้น ฝ่ายทหารต้องประเมินอีกครั้ง เมื่อทหารและตำรวจมั่นใจแล้วก็จะส่งกลับบ้าน และย้ำว่า จุดที่จะทำลายระเบิดใกล้แนวชายแดนประสานกับกัมพูชาแล้ว เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด พร้อมยืนยันว่า ไทยจะไปวางวัตถุระเบิด เพื่อสร้างสถานการณ์ทำไม เพราะเกิดความสูญเสียในชีวิต และทรัพย์สิน

ขณะที่ผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว จันทบุรี ตราด ที่เดือดร้อน ขอให้อดทนอีกนิด เมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว จะผ่อนปรนมาตรการตามลำดับ

ส่วนเหตุผลที่กัมพูชาไม่รับข้อเสนอ 2 ข้อนั้น ไม่ได้ให้เหตุผล แต่ทราบได้ว่ากัมพูชายังคงอาศัยเรื่องกับระเบิดเป็นเครื่องป้องกันกำลังของตนเองที่ดำรงอยู่ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่ากัมพูชาก็ไม่ไว้ใจไทย และไทยก็ไม่ได้ไว้ใจกัมพูชา ดังนั้น การบรรลุข้อตกลงในเบื้องต้นถือว่าดีมากแล้ว และเหมาะสมกับสถานการณ์ขณะนี้ ซึ่งไทยจะหยิบยก 2 ประเด็นนี้จะนำไปหารือในที่ประชุม GBC ในครั้งต่อไป และจะพูดต่อไปเรื่อยๆ จนกว่ากัมพูชาจะยอมรับ ซึ่งไทยได้พูดให้นานาชาติรับทราบแล้ว.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]