“ณัฐวุฒิ” รับหนังสือและกรอบเวลา ประชุม กมธ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข

รัฐสภา 7 ส.ค.-“ณัฐวุฒิ” เผย กมธ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ได้ข้อสรุปเรื่องเวลา เริ่มตั้งแต่ปี 48 จนกฎหมายบังคับใช้-จ่อเพิ่มในบัญชีแนบท้าย เป็น 25 ฐานความผิด วางกรอบแล้วเสร็จใน 2 เดือน ย้ำ ไม่ลืม ‘เสื้อแดง ปี 53’ ที่ยังไม่ได้ถูกเยียวยา ลั่น จะทำให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ เพื่อเป็นเครื่องมือคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมไทย ให้คนสามารถเดินหน้าชีวิตในฐานะผู้บริสุทธิ์ต่อไป หลังรับหนังสือจาก ‘กลุ่มนิรโทษกรรมประชาชน’

กลุ่มเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน พร้อมด้วยทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข ซึ่งมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นตัวแทนรับ


โดยนางสาวพูนสุข พูนสุขเจริญ เป็นตัวแทนกล่าวว่า เนื่องจากเราเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติทั้ง 3 ฉบับ อาจจะไม่ครอบคลุมเพียงพอ ในการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองตลอดระยะเวลา 20 ที่ผ่านมา จึงมายื่นข้อเสนอถึงประธานคณะกรรมาธิการฯ 4 เรื่อง ดังนี้ 1.ระยะเวลาการนิรโทษกรรม ขอเสนอให้ครอบคลุมตั้งแต่ พ.ศ.2548-2568 หรือจนกว่าจะมีการบังคับใช้พระราชบัญญัติ

2.ในส่วนฐานความผิด เมื่อพิจารณาจากบัญชีแนบท้ายร่างพระราชบัญญัติ ที่มีเพียง 12 ข้อ หรือถือเป็น 20 ฐานความผิด ซึ่งทำให้อาจตกหล่นบางฐานความผิดได้


3.คดีเยาวชน ตั้งแต่ปี 63 เป็นต้นมา มีเยาวชนผู้ถูกดำเนินคดี 286 ราย ซึ่งเราคิดว่า เยาวชนควรจะได้รับการนิรโทษกรรมไปด้วยในครั้งนี้ ไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะไม่ควรรวมการนิรโทษกรรมให้กับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ในทุกฐานความผิด

4.คณะกรรมการ เสนอให้ควรจะมีองค์ประกอบของทางภาคการเมืองและภาคประชาชนเข้าไปด้วย เพราะในร่างพระราชบัญญัตินั้น องค์ประกอบหลัก จะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรืออดีตศาล อัยการ เป็นหลัก แต่เรื่องนี้ไม่ใช่พิจารณาว่า คดีไหนถูกหรือผิด หรือเป็นการเมืองไม่ใช่การเมือง จึงควรจะมีคนที่ถูกดำเนินคดี และคนที่ติดตามสถานการณ์เรื่องนี้มาตลอด เข้าไปเป็นองค์ประกอบของคณะกรรมการด้วย

รวมถึงระยะเวลาที่คณะกรรมาธิการฯ พิจารณา ที่ไม่ว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ก็ตาม หากมีการกำหนดว่า คณะกรรมการนี้ จะยุบภายใน 6 เดือน หรือ 1 ปี หลังจากนั้น ก็ควรเปิดช่องให้ศาลยุติธรรมมีอำนาจในการพิจารณาคดี เผื่อมีคดีไหนตกหล่น และนอกเหนือจากที่คณะกรรมการ จะพิจารณาคดีนิรโทษกรรมแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งประเด็นที่ควรพูดถึง คือเรื่องของการเยียวยา


ขณะที่นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ใน 2 ประเด็นแรก เป็นเรื่องที่เห็นตรงกันอยู่แล้ว และคณะกรรมาธิการฯ ได้มีการประชุมรวมถึงมีความเห็นร่วมกันเป็นมติของที่ประชุมไปแล้ว คือกรอบเวลาเริ่มต้นปี 48 จนถึงวันที่กฎหมายประกาศใช้ ส่วนเรื่องฐานความผิด ในบัญชีแนบท้ายนั้น แน่นอนว่ายังไม่ครอบคลุม และตกหล่นเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น ในสัปดาห์ที่แล้ว กรรมาธิการฯ จึงมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง และมีมติด้วยเสียงข้างมาก ว่าจะบรรจุบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัติให้ระบุทั้งความผิด โดยหลักคิดตรงกันว่า จะต้องเพิ่มจาก 12 ฐานความผิดในขณะนี้ จากการอ้างอิงรายงานผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่มีการระบุไว้ 25 ฐานความผิด อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการฯ ไม่ได้ปิดกั้น ที่จะมีการเพิ่มฐานความผิดอื่น หากพบข้อเท็จจริงว่า มีผู้ที่ถูกดำเนินคดียังคงตกหล่น ไม่ได้ระบุไว้ในร่างกฎหมาย ก็สามารถดำเนินการ ในขั้นตอนการพิจารณาได้

ส่วนเรื่องเยาวชนและองค์ประกอบของคณะกรรมการนั้น เนื่องจากยังไม่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา แต่ตนขอรับไว้ จะมีการนำไปหารือจนมีข้อสรุป และรายงานให้ทราบต่อไป แต่โดยเบื้องต้นในหลักการไม่มีอะไรขัดกันกับข้อเสนอนี้

นายณัฐวุฒิ ยืนยันว่า การทำงานของคณะกรรมการฯ นั่งรวมกัน โดยคนที่เห็นต่างหรือเห็นตรงในทางการเมือง เพียงแต่เมื่อมีเจตนาร่วมกันว่า จะผลักดันสังคมไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้ง โดยใช้การนิรโทษกรรมคดีความอันเกิดขึ้นจากการชุมนุมทางการเมืองหรือเกี่ยวเนื่องกับความเคลื่อนไหวทางการเมืองในห้วง 20 ปีที่ผ่านมาเป็นเครื่องมือหนึ่ง เราตั้งใจว่าจะทำเรื่องนี้ให้คืบหน้า และแล้วเสร็จในชั้นกรรมาธิการฯ โดยเร็ว จากที่วางกรอบไว้ว่า จะอยู่ในเวลา 2 เดือนบวกลบ แต่ก็ต้องดูภารกิจของสภาใหญ่ด้วย ย้ำว่า ทุกนัดที่มีการประชุม เราทำงานการเต็มที่ ล่าสุดก็มีการขยับเวลาเพิ่ม

“ผมก็ไม่เคยมาทำหน้าที่นี้ในสภานี้เลย แล้วก็ไม่คิดว่าจะมาเป็นกรรมการใดๆ ชุดไหนกับเขาด้วย แต่เรื่องนี้ผมตามมาตลอด ผมเคยไปแสดงความคิดเห็นในคณะกรรมาธิการศึกษาเรื่องการนิรโทษกรรม ผมยังคงนั่งคุยกับกลุ่มแกนนำทั้งที่เห็นด้วย และเคยเห็นต่าง เคยเผชิญหน้ากันทางการเมือง พูดคุยกับกลุ่มมวลชนฝ่ายต่างๆ พูดคุยกับตัวแทนคนหนุ่มสาวที่เขาออกมาต่อสู้ พูดคุยกับผู้รู้เรื่องกฎหมาย ผู้รู้เรื่องกระบวนการยุติธรรม หารือกับผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายอื่นๆ และติดตามความคืบหน้าของเรื่องนี้ จนก่อนจะมีการนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในสภาวาระแรก แน่นอนว่า ทุกคนอยากให้ครอบคลุมที่สุด แต่ถ้าความจริงของสถานการณ์มันไปได้ไกลที่สุดแค่ไหน ก็ทำให้ได้มากที่สุดก็แล้วกัน ถ้ายังมีอะไรเหลืออยู่ ก็มาว่ากัน ณ เวลานั้นอีกครั้งหนึ่ง”

ดังนั้น เมื่อตนตัดสินใจว่า จะเข้ามาเป็นกรรมาธิการ และเมื่อกฎหมายได้ผ่านวาระแรกของสภา ตนได้เดินทางไปพบผู้ต้องขังคดีความทางการเมืองที่เรือนจำ และบอกกับเขาตรงๆ ว่า สภาฯ รับมาแบบนี้ และตนจะเข้ามาเป็นกรรมาธิการ ตนมั่นใจว่าตนเข้าใจพวกเขา และก็แน่ใจว่าเขาเข้าใจตน ย้ำว่า ภารกิจของคณะกรรมการธิการชุดนี้ ไม่ได้เป็นเพียงในห้องประชุมของคณะกรรมาธิการนี้ แต่ยังมีภารกิจบางด้านบางประการที่ต้องทำข้างนอก ซึ่งตนก็พยายามดำเนินการอยู่ และเชื่อว่าคณะกรรมาธิการทุกท่านก็กำลังพยายามดำเนินการอยู่

“เราจะทำให้มันออกมาดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ เราจะทำให้มันออกมาเป็นเครื่องมือของการคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมไทยให้ได้มากที่สุด แม้ว่าขณะนี้รูปลักษณ์ของความขัดแย้งทางความคิดยังคงชัดเจน และลึกซึ้งอยู่ก็ตาม แต่ไม่มีสังคมไหนไม่ขัดแย้งทางความคิด เราต้องทำให้สังคมนี้พร้อมที่จะเปิดโอกาสให้คนแต่ละกลุ่มได้ตั้งหลักตั้งต้น และเดินหน้าชีวิตในฐานะผู้บริสุทธิ์ต่อไป”

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงคนบางกลุ่ม ซึ่งบางทีสังคมอาจจะมองพร่าเลือนไปแล้ว เช่น คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นชายชุดดำ เป็นกองกำลังติดอาวุธ ในการชุมนุม ปี 53 คนกลุ่มนี้ ถูกดำเนินคดี ถูกเอาไปขังในเรือนจำ และสู้คดีจนศาลยกฟ้อง เป็นผู้บริสุทธิ์จากกระบวนการยุติธรรม แต่คนกลุ่มนี้ไม่ได้รับการเยียวยา ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงกลายเป็นว่าหลักเกณฑ์การเยียวยาชุดนั้น ได้สำหรับคนส่วนหนึ่ง และไม่ได้สำหรับคนอีกส่วน ซึ่งเป็นส่วนที่ข้อกล่าวหาฉกาจฉกรรจ์ นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ตนไปนั่งคุยมา และได้ไปตามข้อมูลที่กรมคุ้มครองสิทธิ์กระทรวงยุติธรรม ได้ข้อมูลมาปึกหนึ่งจะนำมาผลักดัน และหาทางออกที่ดีที่สุดในคณะกรรมาธิการชุดนี้เช่นเดียวกัน.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]