“มาริษ” ยันไทยไม่เสียเปรียบกัมพูชาในเวทีนานาชาติ

ก.ต่างประเทศ 31 ก.ค.-“มาริษ” ยันไทยไม่เสียเปรียบกัมพูชาในเวทีนานาชาติ และไม่ได้นิ่งนอนใจเฟคนิวส์ฝั่งกัมพูชา สั่งทูตเดินหน้าแจงทุกกรอบทุกเวที บอกนำทูตต่างประเทศลงดูพื้นที่ชายแดนช้า ห่วงความปลอดภัย ชี้ไปเร็ว ไม่ถือว่าชนะ

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงยืนยัน จากสถานการณ์ปัญหาไทย-กัมพูชา ไทยไม่ได้เสียเปรียบ เพราะการชี้แจงอยู่ในกรอบของสหประชาชาติ เราได้ย้ำจุดยืนตั้งแต่ต้น ว่าเรายึดมั่นในสันติวิธีและกฎหมายระหว่างประเทศ กรอบกฎบัตรของอาเซียน แม้มีความพยายามนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC แต่ไม่ได้ออกข้อมติใดๆ และพูดว่าเป็นเรื่องของการเจรจาในระดับทวิภาคีไม่ต้องเอากลับมาในกรอบของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รวมทั้งการที่กัมพูชา พยายามพูดปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาในเวทีที่ปัญหาอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ก็ไม่ได้รับการบรรจุเรื่องนี้ในสเตทเมนท์ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าแม้มีความพยายามบิดเบือนจากกัมพูชาในเวทีต่างๆ แต่กระทรวงการต่างประเทศก็ไม่ได้อยู่นิ่ง เดินหน้ามาตรการทางการทูตโดยเร่งชี้แจงกับประเทศต่าง ๆ ทั้งกรอบทวิภาคี ภาคีในเวทีระหว่างประเทศทั้งหลาย ทั้งดำเนินการจากส่วนกลาง และการดำเนินการ ผานสถานทูตสถานกงสุญใหญ่ทั่วโลก ตั้งแต่เกิดกรณีการรุกราน เช่น ในเรื่องของ UNSC การวางทุ่นระเบิดสังหาร การโจมตีพลเรือน ในฝั่งไทย และประณามไปแล้ว


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า เมื่อเช้าได้พบกับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ซึนตนได้พูดให้เห็นถึงภาพต่าง ๆ ในการพบกันกับผูนำกัมพูชาที่มาเลเซีย และบอกว่าเราต้องการเห็นการหยุดยิงที่ไม่มีเงื่อนไข และหยุดยิง เด็ดขาดตามที่ตกลงกัน ซึ่งเรื่องนี้ต้องได้รับความจริงใจจากกัมพูชา แต่ที่ผ่านมา ตนขอใช้คำว่า ละเมืดข้อตกลงหยุดยิงและมีการตอดนิดตอดหน่อยตลอดเวลา เพื่อให้เราตอบโต้ ไทยใช้ความอดทนอดกลั้น แต่อย่างกัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลง รวมทั้งใช้เฟคนิวส์ บิดเบือนข่าวสาร ตนจึงจำเป็นต้องพูดกับ ผู้แทนของสหรัฐ จีนและมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้สังเกตการณ์ เพื่อยืนยันในข้อตกลงที่เราได้ตกลงกันเอาไว้ที่มาเลเซีย

“เราไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่มอนิเตอร์และจะตอบโต้ทั้งหมด แต่ต้องแสดงให้เห็น โดยผมและทูตทุกคนได้รับทราบ และได้ฟ้อง ชี้แจงให้มิตรประเทศได้เข้าใจ โดยเฉพาะสามประเทศที่เป็น witness ว่ากัมพูชาทำเป็นสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างประเทศ “


สำหรับทหารกัมพูชาที่ถูกจับกุมนั้น นายมาริษ กล่าวว่า เราให้การดูแลภายใต้อนุสัญญาเจนีวา ที่จะดูแลบุคคลที่เราจับมาและขอเรียนว่า ถูกจับในขณะที่ละเมิดอำนาจอธิปไตยดุลยภาพแห่งดินแดนของเรา และเราให้การดูแลตามกฎบัตรสหประชาชาติทุกขั้นตอนส่วนจะปล่อยตัวเมื่อไหร่นั้น ตามสนธิสัญญา เจนีวา ฉบับที่ 3 ระบุว่าเราสามารถควบคุมตัวได้ และจะปล่อยกลับไปต่อเมื่อเรามั่นใจว่าบุคคลเหล่านี้จะไม่กลับมาทำร้าย หรือโจมตีเราอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องยึดถือ เพราะเราเป็นประเทศ ที่มีภาพลักษณ์ที่ดีในเรื่องของการรักษาดำรงไว้ซึ่งความถูกต้องภายใต้กฎบัตรของสหประชาชาติ และกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ตามขึ้นอยู่กับฝ่ายความมั่นคง ว่าจะพิจารณาอย่างไร

นายมาริษ กล่าวว่าในวันพรุ่งนี้ (1ส.ค.)จะมีการนำผู้ช่วยทูตทหาร จากต่างประเทศที่ประจำประเทศไทยไปลงพื้นที่ เพื่อสังเกตุการณ์ก็หวังว่าทุกคนจะได้ไปเห็นด้วยตัวเองว่าสิ่งที่กัมพูชาละเมิดไม่ใช่แค่อำนาจอธิปไตย และดุลยภาพแห่งดินแดน แต่ยังละเมิดข้อตกลงของสหประชาชาติ กฎหมายระหว่างประเทศกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศในการโจมตีพลเรือน โจมตีเป้าหมายพลเรือน โรงพยาบาล โรงเรียน ปั๊มน้ำมัน สิ่งเหล่านี้จะเป็นหลักฐานที่สำคัญ เพื่อให้มิตรประเทศได้เข้าใจว่าเราปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศโดยตลอด เมื่อเทียบกับเมื่อวานที่กัมพูชาพาไปดูก่อน เป็นความเสียหายทางทหารเท่านั้นไม่ได้กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของพลเรือน โดยกระทรวงการต่างประเทศจะนำสื่อมวลชนต่างประเทศลงพื้นที่ เพื่อสะท้อนข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง สื่อสาร ให้ ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทุกคนได้เข้าใจว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงคือความปลอดภัยของผู้ที่จะลงไปในพื้นที่ เพราะ บุคคลเหล่านี้เป็นเจ้าหน้าที่ทางการทูต
และในการลงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้จะนำไปสู่การหารือ และจะประสบความสำเร็จในการประชุม จีบีซี ในวันจันทร์ที่ 4 ส.ค.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่า สถานการณ์ ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบกับประชาชนชาวกัมพูชาและชาวไทย เราไม่ผลักภาระทั้งหมดนี้ให้กับประชาชนของทั้งสองประเทศ ดังนั้นด้วยความมีมนุษยธรรมที่ดี เราไม่ต้องการทำการอะไรที่ไม่ถูกต้องกับประชาชนของทั้งสองประเทศ รวมถึงกัมพูชาด้วย


ยืนยันเราได้เปรียบในเรื่องเวทีการเมืองระหว่างประเทศ การปฏิบัติทางทหาร การเจรจาหลังจากการปฏิบัติการ ได้ทั้งการหยุดยิงและดึงกลับมาสู่โต๊ะเจรจา โดยใช้กลไกทวิภาคีของทั้ง 2 ประเทศ แต่ ณ ขณะนี้สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือสงครามข่าวสาร ซึ่งไม่เป็นผลดีดังนั้น หากกัมพูชาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร อย่างที่ทำอยู่ กระทรวงการต่างประเทศ ตน และหน่วยงานของรัฐ มีสิทธิ์ที่จะตอบโต้และแก้ไขข้อความที่ถูกต้องให้ทุกคนได้เข้าใจข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องชัดเจน โดยมีมาตรการขยับไปเรื่อยๆ แต่มันเป็นแทคติคของการเจรจา คงไม่สามารถเปิดเผยว่าจะทำอะไร เพราะจริงๆ แล้วเพิ่งมีการคุยกัน และมีการพูดคุยกันในประเด็นนี้ ว่ามีการใช้ เฟคนิว ดังนั้นตรงนี้เราต้องกดดันต่อในทุกกรอบและทุกเวที เพราะเราไม่ได้เป็นผู้ละเมิดอะไรทั้งสิ้น ดังนั้นเขาต้องเห็นว่า เป็นสิ่งที่อีกฝ่ายละเมิดตลอดเวลาเรามีวุฒิภาวะ เรามีภาพลักษณ์ที่ดีในการปฏิบัติตามมติของสหประชาชาติ และปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ และยืนยันว่ากระทรวงต่างต่างประเทศไม่ได้อยู่นิ่งทำงานตลอดเวลา

ส่วนที่ถูกมองว่า กระทรวงการต่างประเทศ ไม่ทำงานในเชิงรุก ช้ากว่ากัมพูชาที่นำ ผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่ไปตั้งแต่เมื่อวานนี้นั้น นายมาริษ กล่าวว่า ทุกคนคำนึงถึงความปลอดภัย ทราบว่ามีผู้ลงทะเบียนไปในวันพรุ่งนี้เยอะมาก ดังนั้น ตรงนี้จะเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้ความสำคัญ เพราะการที่มีคนจำนวนมากก็มีประเด็นเรื่องความปลอดภัยด้วย เรื่องความเร็วเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่ต้องมีความมั่นใจในข้อมูลข่าวสารและความน่าเชื่อถือ ตนไม่ต้องการให้ประเทศไทยถูกมองแบบกัมพูชาว่าใช้ความบิดเบือน พูดไม่จริง และสามารถพูดได้โดยไม่ต้องรับผิดชอบ เราเล่นตามกติกา ซึ่งความเร็ว ก็ไม่ถือเป็นชัยชนะ แต่กรณีนี้ตนคิดว่าเรามั่นคง ภาพลักษณ์ที่เรามีในสายตาของประชาคมโลกทำให้เราในได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งการหยุดยิงและการกลับสู่กระบวนการเจรจา.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]