รัฐสภา 31 ก.ค.- “ฉลาด” รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เผยอาจไม่ถูกใจบ้าง แต่ถูกข้อบังคับ เตรียมใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว แก้ปัญหาสภาล่ม
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายฉลาด ขามช่วง ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ที่อาคารรัฐสภา โดยมีนางสาวสาวิตรี ชำนาญกิจ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นผู้เชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง มายังบริเวณพิธี พร้อมอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง และเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งไปวางที่โต๊ะหมู่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์
โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เข้าร่วมในพิธีและร่วมแสดงความยินดีด้วย กับนายฉลาด ขามช่วง
จากนั้นนายฉลาด ขามช่วง รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง และได้ร่วมกันถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
จากนั้น นายฉลาด ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้เป็นการเริ่มต้นการทำหน้าที่ของรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ที่ว่างอยู่ ตนได้กราบเรียนกับที่ประชุมว่าในฐานะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของสภา ช่วยเหลือประธานสภาฯจะดูแลทั้งในและนอกสภา ในการขอความร่วมมือกับเพื่อนสมาชิกทุกฝ่าย ตนอยู่สภามานาน รุ่นก่อน รุ่นเก่า รุ่นเดียวกัน และรุ่นน้อง ตอนนี้เป็นรุ่นลูกด้วยซ้ำ คนรุ่นใหม่ก็มีแนวความคิดในการที่จะสร้างสรรค์สภา ก่อนทำหน้าที่ 2 ปี ตนได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนกับเพื่อนสมาชิกทุกรุ่นว่าแนวทางในการที่จะพัฒนาสภาผู้แทนราษฎร ทำอย่างไรสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นสถานที่น่าอยู่ เชิดหน้าชูตาของคนไทยทั้งประเทศ สภาของเรานั้นเป็นที่พึ่งหวังของพี่น้องประชาชน คนที่ได้รับความเดือดร้อนเดินทางมา ขอความร่วมมือ ขอความช่วยเหลือจากสภา ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตย เราเป็น 1 ใน 3 อำนาจ ซึ่งจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ขอกราบว่าในฐานะเป็นนักการเมือง เห็นการกระทำของเพื่อนสมาชิก ผมยืนยันว่าจะทำหน้าที่เป็นกลางทางการเมือง เป็นกลางในขณะปฎิบัติหน้าที่ อาศัยข้อบังคับที่พวกเราสร้างขึ้นมา เพราะฉะนั้นการทำหน้าที่อาจจะไม่ถูกใจบ้าง แต่ถูกข้อบังคับ ต้องขออภัย ผมยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่าสถานการณ์สภาล่ม จะบริหารการประชุมอย่างไรให้ราบรื่น นายฉลาด กล่าวว่า สภาต้องเจรจากัน วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน สส.ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนกัน เพราะอยู่ในกรรมาธิการทุกพรรคการเมือง และสส.ทุกพรรค ตนมีความสัมพันธ์ส่วนตัว ความคุ้นเคยส่วนตัว จะนำมาใช้การประชุม ถึงแม้จะอยู่คนละฝ่าย แต่ความคิดเห็นที่ต้องยืนยันแต่ต้น ว่าทุกคนห่วงประเทศ ขอความร่วมมือและฝากถึงรัฐบาลว่าเรามีเสียงข้างมาก เป็นหน้าที่ของทุกคนโดยตรงและอย่าปฏิเสธฝ่ายอื่น เป็นหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลที่ต้องประชุม ไม่พอใจอะไรก็มีตัวแทนของพรรคการเมือง ตนกับประธานจะทำหน้าที่ฟังความเห็นวิปทุกฝ่าย การใช้ความเห็นส่วนตัว ไม่ฟังใส่คนอื่น จะทำให้ไม่เกิดความราบรื่น ทำให้ขัดแย้ง
เมื่อถามว่าพรุ่งนี้ (1 ส.ค.68) จะมีการพิจารณาคดีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่หนึ่ง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมความพร้อมอย่างไรบ้างในฝ่ายประมุขนิติบัญญัติ นายฉลาด กล่าวว่า ผลจะเป็นบวกเป็นลบ ตอนนี้คุยกับนายพิเชษฐ์ ดูตามข้อกฎหมายแล้วไม่สามารถก้าวล่วงศาลได้ แต่ข้อเท็จจริงนายพิเชษฐ์ได้คุยเบื้องต้นว่ามีความบริสุทธิ์ใจ โดยสุจริต ผลจะเป็นอย่างไร ไม่สามารถคาดเดาได้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง จะกระตุ้นรัฐบาลให้เร่งแก้ปัญหาชายแดนกัมพูชาอย่างไรนั้น นายฉลาด กล่าวว่า ในฐานะ สส.อยากเห็นบ้านเมืองมีความสงบ แวดล้อมด้วยเพื่อนบ้านอาเซียน ทุกคนมีเป้าหมายคือรักษาดินแดนของตนเอง ส่วนที่ขัดแย้งอยู่เป็นเรื่องของกระบวนการในการเจรจา ทุกอย่างต้องเจรจากัน สิ่งที่กระทบกระทั่งเป็นเรื่องปกติของชายแดน เหมือนปัญหาข้างบ้านต้องเจรจา รัฐบาลทำงานมุ่งมั่นตั้งใจ นายกมนตรี คณะรัฐมนตรี แม้แต่สมาชิกทุกฝ่าย ขอเป็นกำลังใจรัฐบาลทุกคน สภาจะสนับสนุนอำนวยความสะดวกเป็นเครื่องมือ ขอสภาได้ขอความร่วมมือตามหน้าที่นิติบัญญัติ.-315.-สำนักข่าวไทย
