เดินสายแจงทูตสหภาพยุโรป-อังกฤษ ปมชายแดน

รัฐสภา 31 ก.ค.-ประธาน กมธ.การต่างประเทศ เดินสายชี้แจงทูตสหภาพยุโรป-อังกฤษ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ห่วงข่าวปลอมบิดเบือนภาพไทย ย้ำไทยอดทน ยับยั้งชั่งใจทุกขั้นตอน ไม่ตอบโต้เกินจำเป็น ชี้ ต้องเข้มแข็งด้วยลำแข้งตัวเอง ขอประชาคมโลกแสดงจุดยืนต่อความรุนแรง พร้อมจับตาบทบาทประเทศที่สาม บอกถึงเวลาไทยต้องวางตัวอย่างรอบคอบและเข้มแข็ง


นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินสายพบคณะทูตสหภาพยุโรป และทูตอังกฤษ ถึงสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุปะทะที่ชายแดนตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมาทางคณะกรรมาธิการการต่างประเทศได้เดินสายชี้แจงข้อเท็จจริง เป็นอันดับแรก เพราะมีความกังวลใจว่าการสื่อสารข่าว จากทั้งไทยและกัมพูชา มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก จึงเป็นส่วนที่ต่างชาติไม่เข้าใจ และกังวลใจ กรรมาธิการจึงเดินสายไปชี้แจงกับประเทศ ที่เป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคง ที่อย่างน้อยได้แสดงถึงความกังวลใจในฐานะของฝ่ายนิติบัญญัติ เช่นที่ผ่านมาได้ชี้แจงกับประเทศจีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส และอีก 18 ประเทศ ขอสหภาพยุโรป ไปแล้ว ซึ่งจากนี้กรรมาธิการจะเดินสายพูดคุยและชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ และเรียกร้องให้มิตรประเทศแสดงจุดยืนต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น และขอให้ทุกประเทศช่วยจับตาดูข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาประชาคมโลกเห็นถึงความสับสนที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร เพราะสำนักข่าวต่างประเทศต่างหยิบยกการแถลงข่าว จาก กัมพูชาที่มีการปลอมแปลงมารายงานข่าว ซึ่งเห็นว่าเป็นการปลอมแปลงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

เมื่อถามว่า ภายหลังที่ มีข้อตกลงการหยุดยิง แต่ยังเกิดการปะทะ จากฝ่ายกัมพูชาสถานทูตต่างๆมีความเข้าใจในเรื่องนี้หรือไม่ ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ กล่าวว่า แต่ละประเทศก็รับฟัง เพราะหลายประเทศโดยเฉพาะจากโซนยุโรป ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงจากเรื่องนี้ ดังนั้นจุดยืน สนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายยับยั้งชั่งใจ ในส่วนไทยก็ชัดเจนว่ายับยั้งชั่งใจมาโดยตลอด ซึ่งการปะทะที่เกิดขึ้น ทางฝั่งไทยไม่ได้เลือกที่จะปะทะให้เกิดความเสียหายต่อพลเรือน ไทยปกป้องตนเองเท่าที่จำเป็น และเท่าที่เห็นยังไม่มีภาพ ที่ชาวกัมพูชาได้รับความเสียหาย หรือพลเรือนเสียชีวิต ดังนั้นประชาคมโลกจึงจำเป็นต้องแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนและพลเรือนได้รับความรุนแรง ซึ่งขัดแย้งกับกฎบัตรต่างๆ ที่ทั้งสองประเทศเป็นภาคีอยู่


เมื่อถามว่าแต่ละสถานสถานทูตมีความสงสัยหรือไม่ ที่เหตุการณ์เกิดการปะทะและยกระดับความรุนแรงขึ้น ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศกล่าวว่า เขาก็อยากฟังความ เห็นของฝ่ายนิติบัญญัติและนักการเมืองเช่นเดียวกันว่ามีความเห็นอย่างไร ขณะที่ประเทศในภูมิภาค ก็อยากทำความเข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้นกับทั้งสองประเทศ ยังมีความเป็นกลางและไม่ได้ออกความเห็นมาก

ขณะที่โซนประเทศที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ก็มีความกังวลใจ เรื่องประเทศที่สามที่เข้ามาเกี่ยวข้อง จึงอยากทราบจุดยืนของไทย ต่อประเทศมหาอำนาจว่าเป็นอย่างไร

ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ยังกล่าวว่า ทุกประเทศมีส่วนได้ส่วนเสีย ดังนั้นประเทศไทยจึงมีความจำเป็นที่ต้องเข้มแข็งด้วยลำแข้งตัวเอง เป็นโอกาสที่จะได้เห็นว่าใครเป็นมิตรประเทศของเราในที่เรามีปัญหา ได้เห็นความจริงใจจากหลายประเทศ ที่จะเข้ามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ ซึ่งเรื่องนี้ไทยต้องเข้มแข็งด้วยตัวเองและต้องมองให้ออกว่า กัมพูชามีจุดประสงค์อะไร และประเทศที่เกี่ยวข้องต้องการอะไร


“ไม่มีการปะทะไหน มาถึงความรุนแรงแค่เพราะว่าต้องการปราสาท มันน่าจะมีอะไรที่มากกว่านั้น ส่วนใหญ่การประทะจากทั่วโลก ล้วนแล้วแต่มาจากทรัพยากร เงินๆทองๆ ทั้งนั้น” นางสาวสรัสนันท์ กล่าว

สำหรับการประชุมคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ในวันนี้ ที่เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อมูลความรุนแรงและความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชานั้น ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่ติดตามอยู่อย่างต่อเนื่องในกรอบของกรรมาธิการการต่างประเทศ และนอกเหนือจากนั้นเราอยากรู้ถึงสถานการณ์ปัจจุบันตามแนวชายแดน ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่หยุดยิงแล้ว การปะทะและการปฏิสัมพันธ์ของทหารเป็นอย่างไร จึงอยากสอบถาม ผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดน และตัวแทนกองทัพภาคที่2 ว่าหลังจากคุยกันที่มาเลเซีย ว่าจะมีการพูดคุยกันที่JBC จะเป็นไปในทิศทางไหน เพราะวงการพูดคุยRBC ยังไม่มีความคืบหน้า และหลายกรอบเป็นสิ่งที่เราทำกันอยู่แล้ว วันนี้อยากดูแนวทางของกระทรวงการต่างประเทศและใฝ่ความมั่นคงว่าต่อจากนี้ จะทำอย่างไรให้สถานการณ์คลี่คลายให้เร็วที่สุด

เมื่อถามว่า ในฐานะกรรมาธิการการต่างประเทศมองอย่างไร ต่อข้อเสนอแนะ จากนักวิชาการและฝ่ายการเมือง ที่ให้ฟ้องกัมพูชาต่อศาล อาญาระหว่างประเทศหรือ ICC ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศกล่าวว่า สามารถทำได้แต่ยังไม่ถึงเวลา เพราะอาจเป็นการเขวี้ยงงูไม่พ้นคอ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากทางฝั่งไทยและกัมพูชา ดังนั้นการจะฟ้องศาลICC ต้องมีหลักฐานที่เพียงพอ และเท่าที่ดูกัมพูชายังมีคดีอื่นๆ ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคมโลกมากอยู่แล้ว

“ดังนั้นไทยจึงต้องวางเป้าให้ดีว่าต้องการอะไร เราต้องการที่จะหยุดความรุนแรงเพื่อเจรจาไปเจรจาต่อ หรือพยายามกำจัดบุคคลหรือครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งให้ออกจากซีน” นางสาวสรัสนันท์ กล่าว

ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ที่เป็นตัวกลางในการเจรจาส่วนเกมการเมืองระดับภูมิภาค ยัง
ต้องจับตาดู เพราะยังมีความเคลื่อนไหวจากทางจีนและสหรัฐ ที่มีนัยสำคัญ อาจถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ ว่าไทยจะวางตัวอยู่ในมิติไหน ให้เหมาะสมและเสียหายให้น้อยที่สุด โดยไม่เลือกฝั่ง เพราะตอนนี้การค้าถูกกดดันด้วยเรื่องภาษี ทำให้ทราบถึงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของสหรัฐว่าต้องการกดดันไทยผ่านกรอบอะไรบ้าง จึงเป็นที่น่ากังวลว่าท้ายที่สุดแล้ว ว่าไทยถูกกดดันจากเกมของใคร

เมื่อถามถึงการที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชา แถลงกลางที่ประชุมระดับสูงของสหภาพรัฐสภา ที่เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ว่าไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิงนั้น นางสาวสรัสนันท์ กล่าวว่า ตนในฐานะเลขาธิการหน่วยประจำชาติไทย ในสหภาพรัฐสภา หรือ IPU นั้น มองว่าเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน ที่สามารถแสดงออกบนเวทีระหว่างประเทศ ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นฝ่ายนิติบัญญัติมีองค์กรระหว่างประเทศในหลายกรอบ ทั้ง IPU , สมัชชารัฐสภาอาเซียน หรือ AIPA กรอบอาเซียนและ สหภาพสมาชิกรัฐสภาเอเชียแปซิฟิก หรือ APPU ดังนั้นควรใช้กรอบความร่วมมือที่มีอยู่เพื่อสื่อสารไปยังสมาชิกทั่วโลกให้เกิดประโยชน์สูงสุด.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]