สภาฯ ถกลับ 7 ญัตติส่อสงครามไทย-กัมพูชา

รัฐสภา 24 ก.ค.- สภาฯ ถกลับ 7 ญัตติส่อสงครามไทย-กัมพูชา! ‘กัณวีร์’ แฉเล่ห์เขมร หวังฟ้อง ‘องค์กรประชาคมโลก’ เข้าแทรกแซงหยุด ‘ปฏิบัติทางการทหารไทย’ ยันกัมพูชาพฤติกรรมชัดทำกฎมนุษยธรรมระหว่างประเทศแตกสลาย บั่นทอนสัมพันธ์ บี้รัฐบาล-บัวแก้ว เข้มเร่งงานการต่างประเทศ อย่าอืดตามก้นไม่ทัน ต้องดึงโลกมาเข้าข้างเราให้ได้ ด้าน ‘โรม’ ชี้ช่อง ‘ฝ่ายตรงข้าม’ ตั้งฐานใกล้ ‘ปราสาทแหล่งมรดกโลก’ กระทบปุ๊บ ฟ้อง ‘ศาลโลก’ ทันที แนะยกหูคุย ‘ปธ.อาเซียน’ กล่อมอย่าตก ‘หลุมพราง’ เหลี่ยมถูก ‘รังแก’


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจาเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์การปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นญัตติในลักษณะเดียวกัน จำนวน 7 ญัตติ แบ่งเป็น ฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล ได้แก่ญัตติของ พรรคเพื่อไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคกล้าธรรม และพรรคประชาธิปัตย์ และฝั่งพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้แก่ญัตติของ พรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย และพรรคเป็นธรรม โดยได้มีการเปิดให้ตัวแทนเจ้าของญัตติทั้ง7ญัตติ อภิปรายเสนอญัตติ และชี้แจงเหตุผลเบื้องต้นของการเสนอญัตติ จากนั้นจะเป็นการประชุมลับ โดยในช่วงการอภิปรายสนับสนุนของสมาชิก ทั้งนี้ตัวแทนผู้เสนอญัตติได้อภิปรายถึงเหตุผลของการเสนอญัตติในภาพรวม เพื่อส่งข้อเสนอแนะให้รัฐบาลรับทราบ รวมถึงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งตั้งศูนย์ข่าว ศูนย์ช่วยเหลือประชาชน รวมถึงมีแผนอพยพประชาชน ดูแลชีวิตและทรัพย์สิน ให้มีความชัดเจน เพื่อลดความสับสนในพื้นที่

สำหรับการอภิปรายในช่วงการเสนอญัตติ ที่ยังเป็นการประชุมแบบเปิด มีสมาชิกอภิปรายเนื้อหาน่าสนใจ อาทิ นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ชี้แจงตอนหนึ่งว่า ตนมีเหตุผลเดียว ความอ่อนแอในการดำเนินงานด้านการต่างประเทศ และไม่สามารถวิเคราะห์แนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้การต่าบประเทศนำความมั่นคง ขอแสดงความเสียใจกับประชาชนทั้ง2ฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงผู้สูญเสีย ขอให้กำลังใจประชาชน ข้าราชการ หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ สิ่งเหล่านี้ไม่น่าเกิดขึ้นเลย แต่มันเป็นไปตามสิ่งที่กัมพูชากำหนดไว้ ล่าสุดนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความว่า ได้ทำหนังสือถึงรักษาการประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC แล้ว ในการที่จะให้ UNSC เข้ามาแทรกแซง เข้ามาหยุดการปฏิบัติการทางทหารของประเทศไทยที่เบ้าไปทำลายประเทศเขา นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ


“หากงานการต่างประเทศของไทยเราเข้มแข็ง เราจะมองเห็นว่าสุดท้ายที่เขาต้องการคือเข้าไปถึง UNSC เพราะ UNSC มีข้อผูกมัดกับ180ประเทศทั่วโลกที่เป็นสมาชิก และยอมรับหาก UNSC มีการพิจารณาออกมา ตอนนี้การดำเนินการประเทศไทยจะทำอย่างไร หากมีการพิจารณาออกมา การใช้แนวทางการทูตของประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาจะทำได้หรือไม่ ตรงนี้เป็นความท้าทายของเรา ที่เราจำเป็นต้องแสดงความเชื่อมั่นให้ประชาคมโลกเห็นว่าเรานำการทูตมาแก้ไขปัญหาได้จริงๆ ประเทศต่างๆจำเป็นต้องมีการวางแผนใช้การทูต สงครามไม่ใช่สิ่งที่ปราถนา สงครามเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะต้องเกิดขึ้นในโลกใบนี้ สันติภาพที่ยั่งยืนต่างหากที่จำเป็น แต่เราจะทำอย่างไรให้สันติภาพนำหน้าภาวะสงคราม เราช้าจริงๆในด้านงานการต่างประเทศ เขาไปถึงตรงนั้นแล้ว เราอยู่ตรงไหน” นายกัณวีร์ กล่าว

นายกัณวีร์ กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุที่วานนี้(23ก.ค.) ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดบาดเจ็บสาหัส โชคดีที่เราได้มีการดำเนินการตามงานการต่างประเทศแล้ว 4 จาก 6 มาตรการ ตามสนธิสัญญาเวียนนา ได้แก่ การประท้วง การเรียกทูตเข้าไปคุย การเรียกทูตไทยกลับมา และส่งทูตกัมพูชากลับไป เหลืออีกเพียง2มาตรการ ที่เราจำเป็นต้องทำ เราต้องเร่งกระบวนการพิจารณาให้ดีว่าจะตัดสัมพันธ์ทางการทูต จนไปถึงการปิดสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้ได้ หากดำเนินการครบ 6 มาตรการตามสนธิสัญญาเวียนนา จะเป็นหลักประกันว่าเราได้ดำเนินการตามกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศให้ได้ ปัจจุบันกัมพูชาได้ผิดข้อตกลงว่าด้วยการเคารพทางกฎหมายระหว่างประเทศ ด้านมนุษยธรรมในภาวะสงคราม ขณะนี้คือภาวะสงครามที่เกิดขึ้น และกัมพูชาไม่เลือกเป้าหมายว่าเป็นพื้นที่เป้าหมายทางการทหาร แต่ไปเลือกพื้นที่พลเรือน ดังนั้น กระทรวงการต่างประเทศ ต้องทำงานให้มากกว่ากัมพูชา ต้องดึงประชาคมโลกมาเข้าข้างประเทศไทยให้ได้ จะมาบอกว่าเราใช้ F-16 เขาใช้แค่เครื่องยิงจรวด BM-21 ไม่ได้ เราต้องยึดมั่นว่ามีเป้าหมายทางด้านการทหารเพียงเท่านั้น

“การปฏิบัติการครั้งนี้ของกัมพูชา ทำให้กฎหมายระหว่างประเทศต่างๆโดยเฉพาะกฎหมายระหว่างประเทศทางด้านมนุษยธรรมมันแตกสลาย มันบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่ใช่แค่ไทย-กัมพูชาเท่านั้น แต่บั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในประชาคมโลก ผมจึงอยากเห็นแผนงานการต่างประเทศ ของรัฐบาลชุดนี้“ นายกัณวีร์ กล่าว


ด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายชี้แจงเหตุผลในการเสนอญัตติว่า แผนอพยพประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ ปัญหาที่ต้องทำเฉพาะหน้าคือให้ประชาชนของไทยได้รับผลกระทบน้อยที่สุด นอกจากนั้นต้องพัฒนาประสิทธิภาพของการแจ้งเตือนไปยังประชาชนในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงให้มีความพร้อม และมีประเด็นที่ไทยทำได้ คือ การเชิญทูตทหารลงพื้นที่เพื่อให้เห็นต่อการก้าวร้าวของกัมพูชา

“รักษาการนายกฯต้องยกหูถึงประธานอาเซียน รวมถึงประธานสภาฯ ต้องช่วยสื่อสารไปยังประธานอาเซียน คือ มาเลเซีย เพื่อให้มิตรประเทศเข้าใจสถานการณ์ไม่ตกหลุมพรางของกัมพูชาที่สร้างเรื่องว่าถูกรังแก นอกจากนั้นกระทรวงการต่างประเทศต้องเร่งยื่นเรื่องไปยังยูเอ็นเอสซี เพราะเป้าหมายของกัมพูชาคือ กลุ่มเปราะบาง โรงพยาบาล หากกัมพูชายื่นก่อนไทยอาจตกเป็นจำเลยของนานาชาติ ควรต้องทำให้นานาประเทศเห็นเหมือนที่ไทยเห็น” นายรังสิมันต์ อภิปราย

นายรังสิมันต์ อภิปรายต่อว่า ในการประชุมกมธ.ความมั่นคง มีข้อมูลว่า กัมพูชาตั้งฐานไว้ที่ปราสาทต่างๆ ที่ถูกขึ้นเป็นมรดกโลก ซึ่งหากกองทัพไทยดำเนินการใดที่มีผลกระทบ กัมพูชาจะใช้โอกาสพาไทยขึ้นศาลโลก แม้ว่าผลการตัดสินจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม กัมพูชาปรารถนาอย่างเดียวคือ ลากไทยขึ้นสู่ศาลโลก

ทั้งนี้เมื่อเจ้าของญัตติทั้ง7ญัตติ ได้เสนอญัตติ พร้อมอภิปรายเหตุผลในเบื้องต้นครบถ้วนแล้ว จากนั้นได้เข้าสู่การประชุมลับ ในช่วงการอภิปรายสนับสนุนลงรายละเอียดของสมาชิก ตามที่วิปทั้ง2ฝ่ายได้ตกลงร่วมกันมาก่อนหน้านี้ โดยประธานที่ประชุม ได้ขอให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกห้องประชุม และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนมีการบันทึกภาพและเสียงในการประชุมลับครั้งนี้อีกด้วย.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]