กมธ.มั่นคงแห่งรัฐฯ ถกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

รัฐสภา 24 ก.ค.-กมธ.มั่นคงแห่งรัฐฯ ถกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา “โรม” ถาม “แพทองธาร” ไม่มา-ไม่แจ้งเลยหรือ ด้าน “ชุติพงศ์” สงสัยทำไมไม่ให้ความร่วมมือ ขณะที่ “เพื่อไทย” ป้องกลัวบังคับใช้อำนาจเรียกแล้วมีคนร้องศาล ยันไม่ได้ปกป้องใคร ด้าน “ทูตรัศม์” ร่วมประชุมไม่นาน รีบกลับ กต. ด่วน เหตุ “ไทย-เขมร” ปะทะกัน

การประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณากรณีความขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ และกลไกการพูดคุย JBC และวาระพิจารณากรณีคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา


โดยสัปดาห์นี้ ที่ประชุมมีมติใช้อำนาจเรียกบุคคลให้มาแถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความเห็นต่อคณะกรรมาธิการฯ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อำนาจเรียกของคณะกรรมาธิการของรัฐสภา ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่มีการมอบหมายให้ใครเข้าชี้แจงแทน , นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งแจ้งว่าไม่มา แต่มอบหมายให้เลขาธิการสภาความมั่นคงเข้าชี้แจงแทน , นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งแจ้งว่าติดภารกิจเดินทางไปที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา มอบหมายให้นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าชี้แจงแทน , พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรงกลาโหม ในตอนแรกได้รับการประสานว่าจะมาด้วยตนเอง แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ขณะนี้ จึงไม่สามารถมาได้ และมอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกรมยุทธการทหารบก มาแทน

ขณะที่ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ มอบหมาย ผู้อำนวยการสำนักกำกับดูแล กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ มาแทน , เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ มอบหมายรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ชี้แจงแทน , พลตำรวจเอก ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปอส.ตร.) มอบหมายผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมเทคโนโลยีมาแทน แต่ไม่มา จึงมอบให้รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมเทคโนโลยี มาแทนอีกทอดหนึ่ง , ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี , ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มอบหมายผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และผู้อำนวยการมูลนิธิอิมมานูเอล นอกจากนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้มอบหมายให้ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมการประชุมด้วย


โดยช่วงเริ่มการประชุมฝ่ายเลขาฯ ได้ชี้แจงถึงการใช้อำนาจเรียกตาม พ.ร.บ.ว่า กฎหมายได้กำหนดให้บุคคลที่ได้รับหนังสือเรียกให้มาแถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความคิดเห็นด้วยตนเอง กรณีหากมาไม่ได้ และมอบหมายบุคคลมาดำเนินการแทน ให้คณะกรรมาธิการฯ พิจารณา เพื่อมีมติว่า จะให้บุคคลที่ถูกมอบหมายดำเนินการแทนหรือไม่ ทั้งนี้ หากคณะกรรมาธิการฯ มีมติให้บุคคลที่ได้รับมอบหมายมาแสดงข้อเท็จจริงหรือความคิดเห็นต่อคณะกรรมาธิการฯ แทน ให้ถือว่าความเห็นของบุคคลที่ได้รับมอบหมายนั้น เป็นคำแถลงหรือความเห็นของผู้ที่คณะกรรมาธิการฯ มีหนังสือเรียก

โดยนายรังสิมันต์ ได้ถามกับผู้ช่วยเลขานุการประจำกรรมาธิการฯ ว่า นางสาวแพทองธาร ไม่มาหรือ ไม่แจ้งหรือ แต่ผู้ช่วยเลขานุการฯ ตอบว่า “ไม่มา”

ต่อมา นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เราใช้ พ.ร.บ.อำนาจเรียก ผ่านสภา จากการรับฟังเหตุผลของผู้ที่ถูกเรียกมา อย่างกรณี นายมาริษ พลเอก ณัฐพล ก็พอเข้าใจเหตุผลได้อยู่ แต่ส่วนของนายภูมิธรรม ตนไม่แน่ใจว่า เรามีการเชิญเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติมาอยู่แล้ว แล้วทำไมรองนายกรัฐมนตรีถึงใช้วิธีการมอบหมายเช่นนี้ เนื่องจากปกติ ที่เรามีการเชิญไป ที่ผ่านมา ไม่ได้รับความร่วมมือในหลายๆ ครั้ง และเมื่อไม่ได้รับความร่วมมือ เราจึงใช้คำสั่งเรียก ซึ่งก็ไม่เป็นผล


ดังนั้น จึงไม่แน่ใจว่า เราจะรับกับการไม่มีเหตุผล ในการชี้แจงเหตุผล ที่ไม่สามารถมาได้อย่างไรกับบางกรณี ส่วนตัวติดใจกรณีของนายภูมิธรรม และนางสาวแพทองธาร พร้อมกับสอบถามว่า ผู้ที่ไม่มาชี้แจงตามอำนาจเรียก จะต้องมาชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่

“อย่างที่เห็น กรณีคลิปเสียง ปัญหาวิกฤติชายแดนไทย กัมพูชา มันดำเนินมาเรื่อยๆ จนวันนี้ตอนเช้าก็มีข้อพิพาทเรื่องการยิงอยู่ ในภาวะที่ไม่ปลอดภัยและเมื่อความขัดแย้งกัมพูชาเดินหน้ามาถึงตอนนี้ พื้นที่ของสภาผู้แทนราษฎรของเรา กรรมาธิการฯ ของเราพยายามอย่างสุดความสามารถใช้ทุกอย่างที่มีในการดึงเอาทุกองคาพยพมาพูดคุย เพื่อหาข้อสรุป เพื่อจะหาวิธีการแก้ปัญหา เสนอแนะต่อรัฐบาล เพื่อหาข้อกระจ่างให้กับสังคม แต่สิ่งที่เราได้รับกลับมากลับไม่ได้รับความร่วมมือเลย ติดอยู่อย่างเดียว คือท่านรักษาการนายกฯ ภูมิธรรมให้เหตุผลว่าอย่างไร ในการที่จะไม่มาชี้แจงด้วยตัวเอง และผมไม่เข้าใจเลยว่ากรณีนางสาวแพทองธาร ใครจะมาชี้แจงได้ หรือถ้าชี้แจงไม่ได้แจ้งเหตุผลว่าอย่างไร ส่วนตัวผมติดใจตรงนี้” นายชุติพงศ์ กล่าว

จากนั้น นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ตนต้องการเป็นผู้ฟังมากกว่าที่จะเป็นผู้พูด กรณีนี้ก็เป็นคนใกล้ตัวของตน ก็อึดอัด

“ผมไม่มีหน้าที่จะมาปกป้องใคร กราบเรียนตรงไปตรงมา แต่ข้อเท็จจริงในการที่จะต้องแยกแยะ กรณีอย่างนี้ต้องมาพิจารณาร่วมกัน กรณีมอบหมายให้บุคคลใดมาทำหน้าที่นั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่มาทำหน้าที่แทนจะพูดได้เสียทุกเรื่อง เพราะการมอบหมาย มันมอบหมายได้ตามลำดับ ผมก็เรียนกฎหมายมาเหมือนกับหลายท่าน แต่บังเอิญกฎหมายอำนาจเรียกเราก็พิจารณากันหลายแง่หลายประเด็น ประเด็นนายภูมิธรรม ผมก็ไม่แน่ใจว่าท่านมอบหมายในประเด็นใดบ้าง มอบให้เต็มที่หรือไม่ ถ้ามอบหมายลอย ๆ การที่จะตอบแล้วผูกพัน ผมก็ว่าลำบากอยู่เหมือนกัน สำหรับคนที่ทำหน้าที่ ซึ่งเขาก็ต้องทำหน้าที่อยู่แล้ว ส่วนประเด็นนางสาวแพทองธาร ผมไม่ต้องตอบคำถามเหล่านี้ เพราะมันไม่อยู่ในสถานะที่จะต้องตอบ แต่การบังคับบุคคลภายนอก ไม่ใช่ข้าราชการ เราก็ได้พิจารณากันมากมาย ว่าเราสามารถทำได้หรือไม่ ผมไม่สามารถตอบได้และไม่ประสงค์ที่จะป้องกันใครด้วย เพราะเอาตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น” นายประยุทธ์ กล่าว

ด้านนายสุธรรม แสงประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ใช้กฎหมายอำนาจเรียก ถ้าทำโดยที่ไม่มีความเข้าใจที่ชัดเจน เกรงว่าจะมีการฟ้องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ เป็นอุปสรรค และถึงแม้ผู้ได้รับเชิญได้มอบหมายให้คนมาชี้แจงก็ตาม ก็เป็นหน้าที่ของกรรมาธิการว่าจะต้องพิจารณาว่าจะรับฟังหรือไม่ ควรจะให้ชี้แจงหรือไม่ เพราะฉะนั้น เราต้องเคลียร์เรื่องนี้กันให้ดี เพื่อให้เกิดปัญหาตามมา เราไม่ได้ปกป้องใคร เราอยากใช้เครื่องมือให้ดีที่สุด

ต่อมานายขจิตร ชัยนิคม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เราเรียกบุคคลธรรมดาก็ส่วนหนึ่ง แต่ถ้าเราเรียกราชการก็ต้องใช้หลักราชการ หมายความว่ามีใครทำแทนได้ ไม่ใช่มอบไปเรื่อย ๆ วิธีพิจารณาเราต้องอิงหลักราชการ แต่ถ้าคนธรรมดา จะมองใครก็อยู่ที่การวินิจฉัย ตนห่วงว่าการปฏิบัติของแต่ละกรรมาธิการฯ ทั้ง สส.และ สว. จะมีหลักไม่เหมือนกัน ดังนั้น ตนเห็นว่าประธานรัฐสภาควรทำความเข้าใจกับทุกประธานคณะกรรมาธิการฯ ถ้าเร่งด่วน ใช้เลยก็ได้ แต่สุ่มเสี่ยงที่จะให้เกิดปัญหาเยอะ เราต้องมีหลัก

จากนั้น นายประยุทธ์ กล่าวว่า ตนขอทราบนิดเดียวว่าการมอบหมายแบบเป็นลายลักษณ์อักษร มอบหมายแบบเปิดหรือมอบหมายตามลำดับ แล้วกรรมาธิการจะพิจารณาว่าจะอนุมัติว่าการมอบหมายนั้น ทำได้หรือไม่ ถ้าทำไม่ได้เราก็แจ้งไปว่าไม่รับ

ช่วงหนึ่ง นายรัศม์ ได้ขออนุญาตด่วน ด้วยท่าทีจริงจัง ระบุว่ามีเรื่องด่วนต้องไปประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย กัมพูชา ที่ตอนนี้ปะทะกันแล้ว โดยเป็นการประชุมด่วนที่กระทรวงการต่างประเทศ ก่อนจะเดินออกจากห้องประชุมทันที

จากนั้น นายรังสิมันต์ ได้ขอมติว่าการที่บุคคลที่เชิญมา แล้วมีการมอบหมายนั้น จะอนุมัติของใครได้บ้าง ทำให้นายขจิตร เปิดไมค์ท้วงว่าตนรับไม่ได้ ต้องมีหลักก่อน ไม่ใช่มาถามเป็นคนๆไปโดยไม่มีหลัก ตนขออนุญาตไม่ร่วมพิจารณา ซึ่งที่ประชุมได้ลงมติต่อ ก่อนที่ผู้ช่วยเลขานุการฯ จะสรุปผลการลงมติว่า กรรมาธิการฯ 10 ท่าน มีมติให้ผู้ชี้แจง ชี้แจงแทนในส่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และที่ประชุมมีมติให้ครั้งต่อไป พิจารณาเรื่องความขัดแย้ง ไทยกัมพูชา ตามเดิม โดยเรียกบุคคลมาเข้าร่วมประชุมตามเดิม.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]