“ชาญชัย” เผยใกล้ปิดเกม การไต่สวนคดีชั้น 14 ของ “ทักษิณ”

ศาลฎีกา 18 ก.ค.-“ชาญชัย” เผยไต่สวนทีมแพทย์ รพ.ตำรวจ พบพิรุธไม่รู้จ่ายยาอะไร ใกล้ปิดเกม ด้าน “หมอวรงค์” ลั่นราชทัณฑ์เบิกความไม่ตรงทีมแพทย์ เตรียมยกธงขาวได้เลย จี้ “วิษณุ” เอาภาพระบบข้อมูลผู้ต้องขังมายืนยันว่าเข้าคุกจริง

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังการเข้าร่วมฟังการไต่สวนคดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า วันนี้ได้รับทราบข้อเท็จจริง ได้เห็นเอกสารเองกับหูได้ดูกับตา และคำให้การขัดแย้งกับแพทย์สภาจริงๆ ซึ่งในอาทิตย์หน้าแพทย์สภาจะมาเบิกความ เมื่อเช้าตนได้ชี้แจงต่อศาล และศาลได้นำใบเสร็จขึ้นมาถามสรุปแล้ว ก็ถามว่าทำไมใบเสร็จถึงไม่มีค่ายา


“ผู้อำนวยการทั้งเก่าและใหม่ เขาบอกว่าไปซื้อยาข้างนอกมาใช้เอง ซึ่งตนงงมากกับระบบของโรงพยาบาลตำรวจ ที่แพทย์จ่ายยาทุกวัน แต่ไม่รู้ว่าจ่ายยาอะไร เป็นเรื่องแปลกประหลาดเป็นพิรุธใหญ่มาก” นายชาญชัย กล่าว

นายชาญชัย กล่าวว่า วันนี้ทางองค์คณะได้สอบถามมากพอสมควร แล้วตนจะให้หลักฐานเหล่านี้ไปปรากฏต่อสาธารณะ ซึ่งไม่ผิด เพราะหลักฐานตัวนี้ได้ให้ไว้ก่อนที่จะเข้าไปฟังศาลไต่สวน และไม่ใช่เวชระเบียน ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น เปิดเผยต่อสาธารณะได้ ศาลได้เรียกหลักฐานไปแล้วไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น ยืนยันว่าเปิดเผยต่อสาธารณะได้และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ไม่ใช่การกล่าวโทษผู้อื่น


และยังตั้งข้อสังเกต ว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะคนไทยทั้งประเทศเวลาไปนอนโรงพยาบาล เวลาได้รับใบเสร็จจะมีรายการยาทุกคน แต่มีใบเสร็จนี้อันเดียวที่ไม่มี ซึ่งเป็นกรณีพิเศษ เพราะฉะนั้นอย่าไปโทษคนอื่นว่าเขากลั่นแกล้งตัวเองทำอะไร และทำผิดกฎหมายและทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปทั้งหมด เป็นเรื่องที่เจ้าตัวต้องไปพิจารณาตัวเอง

นายชาญชัย เปิดเผยว่าได้ถามไปว่าใครเป็นคนส่งตัวนายทักษิณ ไปโรงพยาบาลตำรวจ 181 วัน ซึ่งโดยปกตินายทักษิณ สั่งไม่ได้ แต่วันนี้จะมีคนที่เข้าร่วมกระบวนการนายทักษิณ คือศาลอนุมัติให้นายวิษณุ เครืองาม มาเป็นพยานให้นายทักษิณ ในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ ความจริงจะปรากฏอีกรูปแบบหนึ่งทั้งระบบ แล้วจะปิดก๊อก และความจริงจะปิดเกมแล้ว แล้วจะปรากฏว่าเรื่องนี้จะไปจบอย่างไร

ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวว่า หัวใจสำคัญวันนี้คือการไต่สวนแพทย์ ดังนั้นประเด็นที่เกิดขึ้นทั้งหมดจึงเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นในค่ำคืนวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ที่มีการส่งตัวมาโรงพยาบาลตำรวจ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเมื่อนักโทษรายนี้มาโรงพยาบาลตำรวจและไปอยู่ที่ชั้น 14 มีการถามว่าใครกำหนดให้เป็นคนอยู่ที่ชั้น 14 ซึ่งไม่มีใครชี้แจงได้ว่าใครเป็นผู้กำหนด แต่ในภาพรวมพยายามโบ้ยไปให้พยาบาลหรือศูนย์ประสานงานในการรับผู้ป่วย


วันนี้เป็นการยืนยัน ว่าการส่งนักโทษรายนี้มาด้วยหลักการ แล้วต้องผ่านห้องฉุกเฉิน เพราะเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน มีอาการเจ็บหน้าอก มีปัญหาการหายใจ แต่ที่ฟังการไต่สวนแล้ว ยืนยันว่าไม่มีการผ่านห้องฉุกเฉิน ซึ่งมีการซักถามกันในประเด็นห้องฉุกเฉินกับชั้น 14 และ ICU ว่าศักยภาพเป็นแบบไหน อย่างน้อยก็รับรู้ว่าห้องฉุกเฉินเป็นห้องรักษาเบื้องต้น ผู้ป่วยที่มีอาการวิกฤต ส่วน ICU จะเป็นการดูแลคนไข้วิกฤตแบบระยะยาว

“มีการชี้ให้เห็นว่าชั้น 14 เป็นห้องพิเศษหรือไม่ มีพยานอย่างน้อย 2 ปากชี้ให้เห็นว่าเป็นห้องพิเศษ แต่มีอยู่ 1 ปากที่พยายามบอกว่าเป็นห้องแยก หลายๆ ปากให้ข้อมูลสอดคล้องกัน ชี้ว่าชั้น 14 ที่เอาขึ้นไปส่งนั้น ด้วยสาเหตุสำคัญ 2 กรณี คือ อ้างเรื่องโควิด-19 และอ้างเรื่องความปลอดภัย” นพ.วรงค์ กล่าว

นพ.วรงค์ ยังกล่าวว่า การมาถึงโรงพยาบาลตำรวจในช่วงเที่ยงคืนเศษๆ ปกติแล้วผ่านห้องฉุกเฉินแพทย์เวรห้องฉุกเฉินจะเป็นคนดูแล และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่คืนนั้นกลายเป็นปรึกษาแพทย์เวร ที่เป็นแพทย์ด้านศัลยกรรมสมอง ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่าแพทย์ที่ถูกสอบจากโรงพยาบาลตำรวจวันนี้ กลายเป็นแพทย์ที่อยู่ในทีมเดียวกันคือ ศัลยกรรมสมองทั้ง 3 คน

มีการส่งตัวมาเพราะอาการแน่นหน้าอกและถูกสงสัยว่าเกี่ยวกับโรคหัวใจ แต่แพทย์ที่ดูแลกลับเป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านสมอง ไม่ได้ปรึกษาแพทย์ด้านหัวใจในคืนนั้น และจากที่ฟังแพทย์ที่ทำการรักษาด้านสมอง กลายเป็นแพทย์ผู้สั่งการรักษาในคืนนั้น ทุกคนทราบอยู่แล้ว ว่ามีการใช้ยา 2 ตัว คือยาพ่นกับยาลดความดัน ที่น่าแปลกใจมากสำหรับคนที่อยู่ในวงการแพทย์คือ

“มีการปรึกษาแพทย์ทางด้านโรคหัวใจจริงๆ ซึ่งมาปรึกษาในวันที่ 23 สิงหาคม 2566 ในเวลาปกติ และแพทย์โรคหัวใจมาดูแลจริงๆ ในวันที่ 24 สิงหาคม 2566 ซึ่งมีการบันทึกไว้ชัดเจน ว่าอาการผู้ป่วยทุเลาลง หากเป็นคนไข้ทั่วไปสามารถกลับไปรักษาที่บ้านได้ มีปัญหาอะไรก็ให้มาตรวจต่อได้ ตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญ” นพ. วรงค์ กล่าว

นพ.วรงค์ ยังระบุว่า ส่วนที่เหลือจะเป็นเรื่องการรักษาผ่านิ้วล็อค ผ่าตัดเอ็นไหล่ การผ่านิ้วล็อคนั้น ถ้าเป็นคนทั่วไป ก็ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลถือเป็นการผ่าตัดเล็ก อีกเรื่องคือการเจาะที่ไหล่ โดยทั่วไปควรนอนโรงพยาบาลประมาณ 7 วัน แต่นายทักษิณ อาจมีภาวะอื่น ๆ แฝงตัวอยู่ก็อาจจะทำให้นอนโรงพยาบาลประมาณ 3 อาทิตย์

“สิ่งที่น่าสนใจหากได้ฟังคำไต่สวน ทีมราชทัณฑ์ให้ข้อมูลไม่ตรงกับทีมแพทย์ ทีมราชทัณฑ์พยายามยืนยัน ว่านักโทษรายนี้ติดเตียงต่อเนื่อง ในเมื่อถามแพทย์แต่ละท่านเมื่อเข้าไปตรวจเยี่ยม เจอคนไข้นั่งที่โซฟาก็มี บางท่านก็บอกว่าเมื่อเข้าไปตรวจเยี่ยม เจอคนไข้เดินอยู่ข้างเตียงก็มี บทสรุปคือ ผมว่าน่าจะยกธงขาวได้แล้ว ไม่รู้จะเอาอะไรมาแก้ตัว” นพ.วรงค์ กล่าว

ขณะที่นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. กล่าวว่าในเรื่องของใบเสร็จการรักษาของนายทักษิณ ว่า มีแต่ค่าห้องตลอด 180 วัน ค่ายารักษามี 2 อาการที่พบ การผ่าตัดนิ้วล็อค กับผ่าตัดไหล่ จะสำคัญคือการล้มหรือการเกิดอุบัติเหตุ ขณะที่อยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ ไม่ใช่อาการเดิมซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดการผ่าตัด

ส่วนการสงสัยว่าป่วยเป็นโรคหัวใจขาดเลือดที่ว่าวิกฤต และถูกส่งออกมา หลังจากที่ตนเคยสอบทิ้งไว้ในคณะกรรมาธิการของ สว. กลับวันนี้ที่มาฟังพยาน จากแพทย์โรงพยาบาลตำรวจทั้งหมดไม่พบการผ่าตัดส่วนหัวใจ เป็นการให้ยาตามปกติ ที่สำคัญคือไม่ได้เข้าห้องฉุกเฉิน เหมือนที่พยาบาลราชทัณฑ์ หมอราชทัณฑ์และพัศดีเวรทั้งหลาย ส่งตัวฉุกเฉิน ซึ่งคนไข้ลักษณะอาการแบบนี้ต้องรักษาภายใน 90 นาที แต่ใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมงครึ่ง เมื่อมาถึงโรงพยาบาลตำรวจก็ไม่ได้เข้าห้อง ICU แต่ไปอยู่ห้องพักฟื้นที่ชั้น 14 เลย ซึ่งเรื่องนี้ชัดเจนขึ้น

อีกประเด็นที่อยากให้ไปตรวจสอบคือ MOU ของโรงพยาบาลตำรวจกับราชทัณฑ์นั้น อาคารรักษาผู้ป่วยที่ส่งจากราชทัณฑ์ อยู่ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งมีห้องป่วยฉุกเฉินอยู่ข้างล่าง และอาคารนี้ชั้น 5 มีห้องขัง 4 เตียง มีลูกกรงกั้นควบคุมตัวได้ แต่ไม่ได้ส่งผู้ป่วยเหล่านี้ไปที่อาคารนั้น

ซึ่งในสัปดาห์หน้าเราจะมีหลักฐาน ว่าชั้น 14 มีผู้ป่วยอื่นรักษาอยู่แล้ว ไม่ได้ป่วยโควิด-19 การอ้างของโรงพยาบาลตำรวจ เรื่องตรวจโควิด-19 อันนี้ก็เป็นข้อสงสัยใบเสร็จชัดเจนว่าค่ารักษาพยาบาลมีน้อยมาก ค่าผ่าตัดก็มีแค่ 2 โรค สรุปคือสามารถส่งนักโทษกลับเรือนจำได้ตลอดเวลา ส่วนที่บอกว่าป่วยวิกฤตรักษาต่อเนื่องเฉพาะทาง ในความเห็นตนฟังไม่ขึ้น ผู้ป่วยก็ต้องกลับไปอยู่เรือนจำ ถ้าจะไปพักฟื้นต้องกลับไปอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ไม่ใช่อยู่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14

ทั้งนี้นายสมชาย ยังระบุว่า นายวิษณุ ที่จะมาเป็นพยาน เปิดกล้องวงจรปิดที่ราชทัณฑ์ ในวันที่นายวิษณุได้เข้าไป เพื่อยืนยันกับศาล ว่าได้เดินทางไปตรวจจริง ๆ

ส่วน นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งข้อสังเกตว่า แพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทั้งแพทย์เวรและพยาบาลเวร บอกว่าเป็นโรคหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด แต่ที่โรงพยาบาลตำรวจไม่มีการตรวจโดยแพทย์โรคหัวใจ โดยปล่อยให้ผ่านไปกว่า 20 ชั่วโมง จนถึงเช้าวันที่ 24 ส.ค.66 จึงมีแพทย์โรคหัวใจมาตรวจ เมื่อตรวจแล้วพบความดันโลหิตสูงและยาขยายหลอดลม ซึ่งสิ่งเหล่านี้โรงพยาบาลราชทัณฑ์สามารถรักษาได้ มองว่าการอ้างทั้งหมดนี้น่าจะเป็นโมฆะ พราะไม่ได้เป็นไปตามมาตรา 55 การส่งตัวตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ฯ และกฎกระทรวง

ทั้งนี้การตรวจของแพทย์โรงพยาบาลตำรวจต้องยืนยัน ว่าเป็นโรคหัวใจขาดเลือดตามที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้แจ้ง และเช้าวันที่ 24-25 ส.ค.66 พบว่าความดันโลหิตหายแล้ว ก็น่าจะกลับไปที่เรือนจำ ซึ่งเมื่อเห็นว่าไม่จำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาลตำรวจก็ควรจะต้องกลับไปอยู่เรือนจำตามหมายขัง

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวถึงการไต่สวนในวันนี้ เป็นการพิจารณาจากบันทึกของแพทย์ไม่ใช่ใบคำสั่งแพทย์ บันทึกแพทย์สามารถเขียนย้อนหลังได้ แต่คำสั่งแพทย์จะเขียนทุกวันไล่ตามเวลาจริง ว่าสั่งยาอะไรบ้าง ซึ่งในการพิจารณาความนำบันทึกของแพทย์และใบคำสั่งแพทย์ที่อยู่ในเวชระเบียนมาพร้อมกัน พร้อมเรียกร้องให้นายวิษณุ เครืองาม ที่ศาลจะนัดมาไต่สวน ว่าคำพูดของนายวิษณุที่ระบุว่า นายทักษิณจำคุกแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่จะเชื่อได้ 100% จึงขอให้นายวิษณุ นำหลักฐานภาพถ่ายที่มีการลงทะเบียนระบบข้อมูลผู้ต้องขัง (รท.101) ที่นายทักษิณถอดเสื้อในแดนคุมขัง ที่มีการถ่ายรูปตรงและด้านข้าง เพื่อยืนยันว่าเข้าไปในแดนคุมขัง และมีการลงทะเบียนจริง.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]