“โรม” เสียใจ “ทหารไทย” เหยียบกับระเบิด เบรกโซเชียลอย่าเติมเชื้อไฟ

รัฐสภา 17 ก.ค.-“โรม” เสียใจ “ทหารไทย” เหยียบกับระเบิด เบรกโซเชียลอย่าเติมเชื้อไฟ ทำรั้วรอบปราสาทตาเมือนธม หวั่นเข้าทาง “เขมร” ลากไทยไปศาลโลก แนะรัฐบาลไทยเชิญ “ฮุน มาเนต” ประกาศปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รับไม่มีนายกฯ ตัวจริง การแก้ปัญหาชายแดนชะงัก

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาขณะนี้ ว่า ตอนนี้ยังติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด ในเรื่องของคลิปเสียงก็ยังไม่ยอมแพ้ ต้องมีการหารือแนวทางในคณะกรรมาธิการอีกครั้ง ซึ่งเรื่องคลิปเสียงเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญ ที่เราต้องได้รับความชัดเจน คิดดูว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้รัฐบาลยังไม่ให้ความร่วมมือ เรื่องอื่นๆ เราจะหวังพึ่งความร่วมมือจากรัฐบาลได้อย่างไร จนมาถึงวันนี้กรรมาธิการไม่ได้รับการคลี่คลายในเรื่องนี้เลย


ส่วนแนวทางที่ 2 ในการแก้ปัญหาที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเรื่องด่านชายแดนที่จะนำไปสู่การยุติความขัดแย้งแล้วกลับไปสู่สถานะเดิมพี่ทั้งสองฝ่ายพึงมีต่อกัน ต้องยอมรับว่าตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายแล้ว ไม่ว่าจะทำให้ด่านกลับไปเป็นสภาพเดิมเช่นการค้าขาย แต่วันนี้เรายังไม่เห็นความชัดเจนว่าจะมีแนวทางอย่างไร จะโทษรัฐบาลอย่างเดียวไม่ได้ ต้องยอมรับว่าทางกัมพูชาก็มีประเด็นปัญหาแบบนี้ สิ่งที่ตนคิดว่าจะเป็นข้อแนะนำไปถึงรัฐบาลในการคลี่คลาย แล้วทำให้เกิดการพูดคุยกลับมาเป็นปกติได้ ต้องยกระดับมาตรการที่สำคัญ คือการปรักปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถ้าปัญหานี้จบลงทุกฝ่ายอยากพูดคุยถึงการค้าขายที่ปกติมากขึ้น

แต่การรอให้เกิดการปราบปรามอย่างรวดเร็วและเด็ดขาดก็ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจบได้ทันที การพูดคุยระหว่าง 2 ประเทศจำเป็นต้องมี และความยากคือทางกัมพูชาไม่ได้มีมุมมองแบบเดียวกัน วิธีการคือเรามีความจำเป็นที่ต้องพูดคุยกับประเทศอื่นให้มากขึ้น เพื่อทำให้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีผลความก้าวหน้ารวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทางกัมพูชาจะได้มาพูดคุยกับเราและจะได้มีข้อได้เปรียบ


นอกจากนี้ ปัญหาชายแดนคนเข้าออกไม่ได้ แต่สินค้าที่มีข้อจำกัด เช่น สินค้าเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค รวมไปถึงแรงงาน จะเอาเข้าออกได้หรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าเรามีแนวทางแก้ปัญหาแต่อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะจริงจังแค่ไหน

เมื่อถามว่าพลเอก ฮุน มาเนต นายรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศจะกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไทยเองจะมีส่วนร่วมหรือแนวทางได้อย่างไรบ้าง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คิดว่าหากทางกัมพูชาต้องการที่จะปราบปราม ทางการไทยต้องรีบเชื้อเชิญเลย เพื่อดึงกัมพูชาเข้ามาร่วมการปราบปรามจริง ๆ วันนี้เรารู้พิกัดกันหมดแล้วคิดว่า KPI ง่ายมาก คือรอดูว่า 50 เกือบ 60 พิกัดมีการปราบปรามหรือไม่ รวมไปถึงการออกมาตรการออกหมายจับเพิ่มเติมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่าง ๆ และรอดูว่าทางกัมพูชาจะมีการส่งตัวให้หรือไม่ รวมไปถึงการสร้างปฏิบัติการร่วมกันซึ่งทางกัมพูชาต้องเป็นหัวหอก และไทยคอยประสานงานให้ข้อมูลก็สามารถทำได้ หากกัมพูชาจริงใจกระบวนการเหล่านี้ควรจะเกิดขึ้น รวมไปถึงหลาย ๆ ประเทศ

ส่วนการเรียกทูตกลับมาในเชิงลดความสัมพันธ์มองว่าจะทำให้ปัญหาบานปลายหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตอนแรกตอนประเมินว่าการเรียกทูตกลับมาจะเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ถ้าสถานการณ์ไม่ได้มีการไต่ระดับสูงขึ้น ต้องตอบคำถามให้ชัดว่าทำไมต้องเป็นเวลาดังกล่าว ทำไมไม่เกิดขึ้นก่อนหน้า เรื่องนี้ต้องพิจารณาเหมือนกัน ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ต้องคิดในการเจรจาพูดคุยกันเพื่อหาทางออกและไม่มีทูตแล้ว จะทำกันอย่างไร


“ผมคิดว่าหลายส่วนรัฐบาลค่อนข้างช้า ในการแสดงออกในการแสดงพฤติกรรม ไม่ว่าจะเป็นการประท้วง หรือแม้กระทั่งการจะเรียกทูตกลับมาต้องยอมรับว่ามันช้าจริง ๆ ดังนั้นสถานการณ์ภาพรวมทั้งหมดผมยังแปลกใจ ว่ารัฐบาลกำลังทำอะไร วันนี้รัฐบาลต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนว่าตกลงต้องการอะไร และจะไปเป้าแบบไหนเอาให้มันชัด หากรัฐบาลไม่รู้ตัวเองว่าทำอะไรอยู่ จะมีปัญหาในการแก้วิกฤตนี้มากๆ” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่าที่รัฐบาลตัดสินใจเรื่องชายแดนกัมพูชาไม่ได้ เพราะนายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นอย่างนั้น ตนคิดว่ามีส่วนที่เป็นรูปแบบและส่วนที่เป็นเนื้อหา ส่วนที่เป็นรูปแบบก็ต้องยอมรับว่าการที่นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งไม่ใช่แค่หยุดปฏิบัติหน้าที่แต่รอคอยว่าศาลจะว่ายังไง ต้องยอมรับว่าความเชื่อมั่นของประชาชนและต่างชาติที่มองว่า ดูแล้วมีความเป็นไปได้มากที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อาจจะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกแล้วในวันข้างหน้า ทำให้เกิดปัญหาขาดเสถียรภาพทางการเมือง

“การที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยพยายามเดินหน้าต่อไปโดยไม่สนไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น ก็มีปัญหาเหมือนกันว่าในแง่ความชอบธรรมเหมือนกันแก้วิกฤตต่าง ๆ ก็ไม่มี ในส่วนของเนื้อหาการที่คุณแพทองธารไม่ตอบคำถามในเรื่องของคลิปเสียง การปราศจากซึ่งคำขอโทษที่จริงใจ ต่อพี่น้องประชาชนชาวไทย และวิธีการสื่อสารอื่นๆที่ผิดพลาด ผมคิดว่ามันทำให้วิกฤตของเราขยายใหญ่โต และทำให้สุดท้ายคนเริ่มงงว่าเรากับกัมพูชาทะเลาะกันเรื่องอะไร” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวว่า แบบนี้จะมีคำถามต่อๆ ไปว่าที่ทำกันอยู่กำลังนำไปสู่อะไร หากจะเอาเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นหลักในการแก้ปัญหาก็ยอมรับว่าไฟเรายังไม่ตัด เน็ตเรายังไม่มีความคืบหน้า และที่บอกน้ำมันไม่ส่งก็แค่ผ่านด่านไม่ได้แต่ส่งช่องทางอื่น ก็จะมีปัญหาในลักษณะนี้ต่อไปสุดท้าย เราแค่บีบโดยเอาเรื่องการค้าชายแดนเป็นตัวตั้ง

วันนี้แกงคอลเซ็นเตอร์จะไปทำงานที่กัมพูชาเขามีวิธีอื่น คือนั่งเครื่องบินไปลงพนมเปญ และนั่งรถกลับมาซึ่งตรงนี้เราไม่เห็นว่าสุดท้ายแล้วรัฐบาลหากจะปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์จริง ๆ ก็ไม่ให้ว่ มีการจัดการจริงจังแค่ไปสนใจจุดชายแดนอย่างเดียวก็คิดว่าไม่ใช่ทางออกทั้งหมด

เมื่อถามว่าเห็นด้วยหรือไม่กับข้อเสนอให้สร้างรั้วรอบปราสาทตาเมือนธม นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มเชื้อไฟ ถ้าเราทำรั้ว เราจะทำไปทำไม ซึ่งถ้าเราทำรั้ว ทางกัมพูชาก็จะใช้จุดนี้ทำให้เกิดการปะทะ ถ้าปะทะกันกันก็จะมีโอกาสที่กัมพูชาจะใช้จุดนี้นำไปสู่ศาลโลก ตนจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีการเติมเชื้อไฟ

เมื่อถามต่อว่าเรื่องการทำรั้ว มีการเรียกร้องเพราะทหารกัมพูชาขึ้นมาปลุกปั่นบ่อยครั้ง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องดูก่อนว่าตกลงเราต้องการอะไร ถ้าเราต้องการให้กัมพูชาพาเราไปศษลโลก เราอาจจะทำแบบนั้นก็ได้ แต่ถ้าต้องการให้ชายแดนกลับมาสู่ปกติ และเราพยายามที่ทำให้ประเทศต่างๆทั่วโลกมองปัญหาที่แท้จริงว่ากัมพูชาต้องการยั่วยุ เป็นแลนด์ออฟสแกมเมอร์ วิธีการที่จะวางตัว กำหนดท่าทีและแนวทางต่างๆ ต้องใจเย็นๆ ไม่ควรไปเพิ่มจุดอะไรต่างๆที่ทำให้เกิดการปะทะกัน ปะทะเมื่อไหร่คือสิ่งที่กัมพูชาอยากได้ กัมพูชาไม่ได้แคร์ชีวิตทหาร ไม่ได้สนใจว่าชีวิตประชาชนจะเป็นอย่างไร เขาสนใจแต่เป้าหมายคือพาประเทศไทยไปสู่ศาลโลก กัมพูชาถือว่าชนะแล้ว

ส่วนกรณีล่าสุดที่ทหารไทยไปเหยียบกับระเบิด นายรังสิมันต์ กล่าวแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่ใช่เพียงทหารที่ได้รับผลกระทบ แต่รวมถึงครอบครัวที่มีความเป็นห่วง ซึ่งไม่อยากให้มีสถานการณ์เช่นนี้ ไม่อยากให้มีใครบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้เลย เราคงต้องติดตามต่อไปว่าที่มาที่ไปของเหตุไปถูกับระเบิด รายละเอียดเป็นอย่างไร เบื้องต้นตนติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด คงจะได้มีการหารือกับทางกองทัพต่อไป.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]