“ประเสริฐ” รองนายกฯ ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ SWOC

กรมชลประทาน 2 ก.ค.-“ประเสริฐ” รองนายกฯ ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ SWOC เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝน เน้นการทำงานแบบบูรณาการ ประสานความร่วมมือ สร้างเครือข่ายที่พร้อมจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) ชั้น 3 อาคาร 99 ปี หม่อมหลวง ชูชาติ กำภู กรมชลประทาน ถนนสามเสน เขตดุสิต โดยมีนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารกรมชลประทาน ตลอดจนผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน หนองคาย สกลนคร บึงกาฬ นครพนมและ มุกดาหาร เข้าร่วมประชุมออนไลน์ผ่านทางระบบ Video Conference ด้วย


นายประเสริฐ กล่าวก่อนเปิดการประชุมว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติในช่วงฤดูฝน ซึ่งปีนี้คาดว่าฝนจะมาเร็วกว่าปกติ ขณะนี้ได้เริ่มมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น จังหวัดเชียงราย หนองคาย บึงกาฬ และหนองบัวลำภู ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากการประเมินของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม จะมีฝนตกมากในหลายพื้นที่ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะในพื้นที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่มต่ำ สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความกังวลให้กับประชาชนอย่างมาก

นอกจากนี้ ยังมีรายงานเหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในหลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ อินเดีย และญี่ปุ่น ซึ่งทำให้ประชาชนในไทยเกิดความวิตกกังวล อย่างไรก็ตามขณะนี้สถานการณ์ในประเทศไทยยังไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่ก็สร้างความไม่สบายใจให้กับพี่น้องประชาชนอย่างกว้างขวาง


“รัฐบาลจึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เข้าร่วมประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และภัยพิบัติในรูปแบบต่างๆ โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานมีแผนเผชิญเหตุที่ชัดเจน และสามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที” นายประเสริฐกล่าว

ด้านกรมชลประทานได้รายงานสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝนอย่างใกล้ชิด เพื่อนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการ วิเคราะห์ วางแผนการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมทั้งพิจารณาปรับแผนการระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน รวมทั้งปฏิบัติตาม 9 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 68 ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบอย่างเคร่งครัด เพื่อรองรับปริมาณฝนที่จะเพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ไว้ ที่สำคัญได้เน้นย้ำให้ทุกโครงการชลประทาน ตรวจสอบอาคารชลศาสตร์ และกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนกำหนดพื้นที่เฝ้าระวังอุทกภัยทั่วประเทศรวม 1,652 จุด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ และเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ เช่น เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ รถบรรทุก และเครื่องจักรอื่นๆ ไว้ประจำจุดเสี่ยง เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที

ภายหลังการประชุม รองนายกรัฐมนตรีมอบนโยบายและข้อสั่งการว่า ในปีนี้จังหวัดและหน่วยงานมีการเตรียมความพร้อมไว้เป็นอย่างดี แต่สิ่งสำคัญที่อยากเน้นคือเรามีบทเรียนที่อำเภอแม่สาย ให้ทุกหน่วยงานถอดบทเรียนตรงนี้แล้วนำมาปรับใช้ในการรับมือให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ตามบริบทของแต่ละจังหวัด และเน้นให้ทุกหน่วยงานมีการทำงานในลักษณะในเชิงบูรณาการร่วมกันมีการประสานความร่วมมือ สร้างเครือข่ายที่พร้อมจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สำหรับแนวทางและนโยบายให้หน่วยงานรับไปพิจารณาดำเนินการ ดังนี้ 1. การเตือนภัย ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และ GISTDA ร่วมกันติดตาม คาดการณ์การก่อตัวของพายุหรือร่องมรสุมหรือสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งพยากรณ์อากาศล่วงหน้า (ระยะสั้น ระยะปานกลาง) คาดการณ์พื้นที่ฝนตกหนักถึงหนักมาก การประเมินพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดปัญหาอุทกภัย ออกประกาศคำเตือนภัยล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 วัน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบและเตรียมการรับมือได้อย่างทันท่วงที และให้ตรวจสอบระบบเตือนภัยล่วงหน้า (Early Warning System) ให้พร้อมใช้งาน รวมถึงเตรียมระบบสำรองในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน รวมทั้ง ให้กรมทรัพยากรธรณีติดตามและประเมินสถานการณ์ธรณีพิบัติภัยจากดินโคลนถล่ม แผ่นดินไหว อย่างต่อเนื่อง และบูรณาการข้อมูลการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งสื่อสารสร้างการรับรู้ความเสี่ยงภัยให้กับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์พิบัติภัยได้อย่างทันท่วงที


2.การเตรียมพื้นที่รับมือภัยพิบัติ ให้กรมชลประทาน ร่วมกับจังหวัดในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งสำรวจและเร่งรัดดำเนินการรื้อสิ่งปลูกสร้างกลางลำน้ำที่ขวางทางน้ำเพื่อให้นำไหลได้สะดวก พร้อมทั้งให้ประสานหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาเพื่อบูรณาการในการเร่งรัดขุดลอกแม่น้ำสายต่าง ๆ และให้กองทัพบก กองทัพเรือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธรณภัย ดำเนินการและสนับสนุนกำลังคน อากาศยาน เครื่องไม้ เครื่องมือ เครื่องจักรกลหนัก รถยนต์ เรือยาง และอุปกรณ์ที่จำเป็นเพื่อเตรียมการสำหรับการเข้าพื้นที่ได้ทันท่วงที และให้กรมชลประทานตรวจสอบอาคารชลศาสตร์ให้พร้อมใช้งาน และประสานงานเพื่อสนับสนุนทรัพยากรให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เช่น เครื่องสูบน้ำ เรือตรวจการณ์ เสบียงอาหารสัตว์ ถุงยังชีพสัตว์ เมล็ดพันธุ์พืช หัวเชื้อจุลินทรีย์ และชีวภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืช พร้อมกับให้จังหวัด และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยไว้ล่วงหน้า พร้อมทั้งให้มีการดำเนินซักซ้อมทำความเข้าใจกับทุกหน่วยงานในพื้นที่ของแต่ละจังหวัด จัดเตรียมพื้นที่สถานที่สำหรับการอพยพประชาชนมายังที่ปลอดภัย จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว จัดเตรียมสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีพ น้ำ อาหารแห้ง เครื่องดื่ม จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน หน่วยรักษาพยาบาลไว้หากเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติจะได้พร้อมให้การช่วยเหลือได้ทันที พร้อมทั้งจัดเตรียมสถานที่และประสานงานกับมูลนิธิต่าง ๆ จิตอาสาที่เข้ามาช่วยเหลือเพื่ออำนวยความสะดวกให้สามารถเข้ามาสนับสนุนและปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น ให้กรมโยธาธิการและผังเมืองก่อสร้างคันกั้นน้ำริมตลิ่งในจุดวิกฤติตามแผนแก้ไขปัญหาระยะกลางโดยเร็ว และให้กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กองทัพบก สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ใช้กลไกต่าง ๆ เพื่อเจรจากับรัฐบาลเมียนมาเพื่อแก้ไขปัญหาการชะล้างดินตะกอนที่เกิดขึ้นจากการเปิดเหมืองและการปนเปื้อนของสารพิษโดยเร็วที่สุด

3.การประชาสัมพันธ์ ให้จังหวัด กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ทบทวนแผนการปฏิบัติและการสื่อสารประชาสัมพันธ์การให้ข้อมูลผ่านระบบ Cell Broadcast (CB) โดยร่วมกับการแจ้งเตือนในรูปแบบอื่นๆ ตลอดเวลาหากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดขึ้นให้รีบแจ้งเตือนประชาชนได้รับทราบข้อมูลอย่างทันท่วงที ได้รับข่าวสารที่ถูกต้อง เพื่อให้ประชาชนรับรู้สามารถเตรียมการ พร้อมรับมือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นเพื่อลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤตให้มีความชัดเจน ลดความสับสน ป้องกันการเกิด Fake News รวมทั้งการประสานเครือข่ายอาสาสมัครแจ้งเตือนภัยในพื้นที่ รวมทั้ง ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมทรัพยากรธรณี เผยแพร่องค์ความรู้และสร้างการรับรู้แก่ประชาชน โดยแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งแจ้งแนวทางการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย และช่องทางการรับความช่วยเหลือจากภาครัฐโดยกำชับให้ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายอาสาสมัคร ประชาชนจิตอาสาให้ความสำคัญกับการจัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัยสำหรับรองรับประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบให้เพียงพอและมีมาตรฐาน

4.การฟื้นฟู ช่วยเหลือเยียวยา ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับจังหวัดจัดทำข้อมูล สำรวจพื้นที่ บ้านเรือน ทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเสียหายเพื่อประเมินและ เร่งจ่ายเงินชดเชยเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยและวาตภัย รวมถึงให้จังหวัดในพื้นที่เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ จิตอาสา ภาคเอกชน มูลนิธิต่าง ในการร่วมให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในการล้างทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน ที่สาธารณประโยชน์ และสถานที่ราชการในพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติและสำรวจความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านเรือนที่พักอาศัยพื้นที่การเกษตร ที่สาธารณประโยชน์ เพื่อซ่อมแซม ฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพปกติ และให้ความช่วยเหลือตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยเร็วนอกจากนั้น ให้จังหวัดบูรณาการกับหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิต่าง ๆ จัดชุดเคลื่อนที่เร็วให้ความช่วยเหลือลงพื้นที่ตามแผนเผชิญเหตุ ด้านการช่วยเหลือ การพยาบาลและการบรรเทาทุกข์โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่บนดอย หรือพื้นที่ห่างไกลจากชุมชน.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]