“ธีรรัตน์” ปิดการฝึกบริหารจัดการภัยสึนามิ

ภูเก็ต 27 มิ.ย. – “ธีรรัตน์” ปิดการฝึกบริหารจัดการภัยสึนามิ (C-MEX 25) ชื่นชมทุกภาคส่วนร่วมฝึกซ้อมด้วยความมุ่งมั่น พร้อมย้ำ 4 มาตรการ “พัฒนาต่อยอด ทดสอบความพร้อม ให้ความสำคัญการฝึก และทำอย่างต่อเนื่อง” เพื่อประชาชนมีความปลอดภัยสูงสุด


น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานตรวจเยี่ยมกำลังพลและภาคีเครือข่าย เเละปิดการฝึกการบริหารวิฤตการณ์ระดับชาติด้านสาธารณภัย ประจำปี พ.ศ. 2568 (Crisis Management Exercise: C-MEX 25) จากภัยสึนามิ ในพื้นที่ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน ณ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 36 จังหวัดภูเก็ต ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยมีการถ่ายทอดการฝึกซ้อมจากอีก 5 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันมายัง จ.ภูเก็ต โดยมี นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ท.อนุสรณ์ โออุไร แม่ทัพน้อยที่ 4 นายรัชกรณ์ นภาพรพิพัฒน์ รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้แทน จ.กระบี่ พังงา ระนอง ตรัง และ จ.สตูล ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลต่างประเทศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย ร่วมฝึกซ้อมในพื้นที่ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน จำนวนกว่า 1,000 คน

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการฝึกซ้อมร่วมกัน 6 จังหวัด 6 จุดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยที่เคยเกิดสึนามิเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งรัฐบาล ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่งเสริมให้ทุกคน ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะชุมชนและประชาชนตระหนักถึงภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและมีความรุนแรงขึ้น ซึ่งการรวมพลังในวันนี้ที่หลาย ๆ หน่วยงานเข้ามาร่วมกันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ที่จะทำให้เกิดการสร้างการรับรู้กับพี่น้องประชาชน และสร้างความมั่นใจกับประชาชนว่าทางภาครัฐมีความพร้อม เป็นไปอย่างมีเอกภาพและเป็นไปตามมาตรฐานสากล


ในบทเรียนหลายครั้งที่ผ่านมา เมื่อเกิดภัยเราได้ถอดบทเรียนและนำมาปรับปรุงแผนเผชิญเหตุเพื่อให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุดที่เราสามารถป้องกันได้ ทั้งเรื่องบุคลากร อุปกรณ์ต่าง ๆ เราพร้อมเต็มที่ และเรายินดีให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันไม่ว่าในพื้นที่ไหน จะเป็นความรับผิดชอบหน่วยงานใด ทุกหน่วยงานสามารถช่วยกันเติมเต็มให้ภารกิจประสบความสำเร็จได้ จึงเป็นการที่ทำให้ทุกหน่วยได้มีส่วนร่วมกันและทุกคนได้มีความกระตือรือร้นอย่างจริงจังมาก จึงฝากให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และเป็นประจำ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อหากเกิดสถานการณ์จริงจะสามารถปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย ไม่เกิดการโกลาหลหรือชุลมุนขึ้น

น.ส.ธีรรัตน์ ได้เน้นย้ำ 4 ข้อสั่งการเพื่อให้การป้องกันสาธารณภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ 1. นำบทเรียนจากการฝึกในครั้งนี้ไปสู่การพัฒนา ต่อยอด ที่สอดคล้องตามกฎหมาย แผนว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในทุกระดับ ทั้งระดับชาติ จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2. ให้มีการทดสอบความพร้อมของหอเตือนภัย เครื่องมือ อุปกรณ์ ระบบสื่อสาร เครื่องจักรกลสาธารณภัย ยุทโธปกรณ์ และกำลังพล ที่อยู่ในความรับผิดชอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความพร้อมในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล 3. ให้จังหวัดให้ความสำคัญกับการฝึกแบบบูรณาการร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบการจัดการสาธารณภัย เพื่อร่วมสร้างความเข้มแข็ง และสังคมแห่งความปลอดภัยอย่างยั่งยืน และ 4. ให้หน่วยงานภาคีเครือข่าย ภาครัฐบาล ภาคเอกชน มูลนิธิ อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย จิตอาสาร่วมเตรียมความพร้อมเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกันเพื่อพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศ และเกิดเครื่อข่ายด้านการป้องกันและบรรเทาสาธาธารณภัยครอบคลุมทุกพื้นที่

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณและชื่นชมทุกภาคส่วนที่มุ่งมั่นจนทำให้การฝึกภาคปฏิบัติครั้งนี้สำเร็จลุล่วง และในส่วนความรู้วิชาการก็ได้มีการให้ความรู้ในเรื่องข่าวสารที่เป็นประโยชน์ในแต่ละพื้นที่เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปกระจายต่อให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง โดย มท. ร่วมกับทุกภาคส่วนทำงานอย่างใกล้ชิดและมีบุคลากรที่ทำให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพมากและเมื่อเกิดเหตุการณ์สิ่งเราก็พร้อมที่จะรับมือ ทั้งยังได้มีการเชิญตัวแทนสถานทูตและสถานกงสุลได้มาร่วมชมการสาธิตของเราด้วย ทำให้เขาได้รับทราบว่าเรามีการเตรียมความพร้อมอย่างไรเพื่อที่จะเมื่อมีการสอบถามจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทางสถานทูตก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลได้เลยว่า ไทยเรามีการเตรียมความพร้อมด้วยการฝึกซ้อมอยู่เสมอเป็นประจำต่อเนื่อง สามารถสร้างความมั่นใจให้กับชาวต่างชาติที่เข้ามาเยือนประเทศไทยด้วย


ด้านนายภาสกร กล่าวว่า การฝึกในครั้งนี้ครอบคลุมตั้งแต่การแจ้งเตือนภัย การอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย การกู้ภัย การแพทย์และสาธารณสุข การจัดการศูนย์พักพิง และการกู้ภัยทางน้ำและอากาศยาน ระหว่างวันที่ 24-27 มิ.ย. 68 โดยมีภาครัฐภาคเอกชนมูลนิธิองค์กรสาธารณกุศลภาคประชาชนและจิตอาสา 180 หน่วยงาน และผู้ร่วมฝึก 1,000 คน มีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อทดสอบแผนเผชิญเหตุของ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน รวมทั้งยังเป็นการทดสอบความเชื่อมโยงของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ทุกระดับ ทั้งในระดับนโยบาย ระดับอำนวยการ และระดับปฏิบัติ เพื่อพัฒนาศักยภาพหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้มีความพร้อมในการบริหารจัดการสาธารณภัยอย่างมีประสิทธิภาพ เจ้าหน้าที่และประชาชนมีความรู้ในการปฏิบัติตน โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิ ที่เคยเกิดเหตุการณ์เมื่อปี 2547 ทำให้มีผู้เสียชีวิตในพื้นที่ประเทศไทยกว่า 5,400 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บ และสูญหายจำนวนมาก รวมถึงทรัพย์สินของประชาชนเสียหายคิดเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาท

การฝึกการบริหารวิฤตการณ์ระดับชาติด้านสาธารณภัยในครั้งนี้ ได้จำลองสถานการณ์การตรวจพบระดับน้ำมีการเปลี่ยนแปลงที่หุ่นตรวจคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย และทะเลอันดามัน แล้วได้รับการยืนยันว่าเกิดสึนามิที่มีผลกระทบต่อประเทศไทย โดยคาดว่าจะขึ้นฝั่งที่ จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการท้องถิ่นทั้ง 6 จังหวัดจึงได้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยทันที เพื่อเตรียมพร้อมรับมือเหตุสึนามิที่เกิดขึ้น และเป็นศูนย์กลางระดมสรรพกำลังในการช่วยเหลือประชาชน โดยร่วมมือกับกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยซึ่งได้รับอนุมัติจากอธิบดีให้กดสัญญาณเตือนไปยัง 6 จังหวัดเพื่ออพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยโดยด่วน

สำหรับพื้นที่ฝึกซ้อมใน 6 จังหวัด ได้แก่ 1. ระนอง บริเวณบ้านบางเบน และบ้านอ่าวเคย ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 1 จุด 2. พังงา บริเวณบ้านน้ำเค็ม บ้านบางสักเหนือ และบ้านบางสักใต้ ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 4 จุด 3. กระบี่ บริเวณหาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 1 จุด 4. ตรัง บริเวณหาดทรายทอง ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 1 จุด 5. สตูล บริเวณ ต.ตันหยงโป อ.เมืองสตูล เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 2 จุด และ 6.ภูเก็ต บริเวณหาดกมลา อ.กะทู้ เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 1 จุด โดยการฝึกซ้อมจะมีการส่งสัญญาณเตือนภัยจากหอเตือนภัยสึนามิของแต่ละพื้นที่เสมือนจริง แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ เสียงแบบ M2 “เกิดแผ่นดินไหวในทะเล อาจเกิดคลื่นสึนามิ ขอให้ออกจากชายหาด ไปยังที่สูงโดยด่วน” และเสียงแบบ M3 “ขณะนี้เกิดคลื่นสึนามิ ขอให้ออกจากชายหาด ไปยังพื้นที่สูงโดยด่วน”

จากนั้น เป็นการสาธิตการกู้ภัยทางบก และการจัดการศูนย์พักพิง ด้วยการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัย และหลังเกิดสถานการณ์ ได้มีการค้นหาผู้ประสบภัยบริเวณซากอาคาร ซากรถยนต์ และพื้นที่โดยรอบ พร้อมทั้งแยกระดับของผู้บาดเจ็บเพื่อลำเลียงไปยังสถานพยาบาล นอกจากนี้ ได้รับชมสาธิตการค้นหาผู้ประสบภัย สถานีกู้ภัยทางน้ำและอากาศยาน โดยได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากฐานทัพเรือภาคที่ 3 และกรม ปภ. และเรือจากกรม ปภ. สำนัก ปภ.กทม. กรมเจ้าท่า และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ด้วยการลำเลียงผู้ประสบภัยที่ลอยคออยู่ในทะเลกลับเข้าสู่ฝั่ง.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]