ประชุมสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย

กรุงเทพฯ 24 มิ.ย.-“นครินทร์” ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดประชุมสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย “จิรนิติ” เผย 3 ทศวรรษศาลผ่านแรงเสียดทาน ยุบพรรคมามาก ช่วยไทยรอดวิกฤตทางการเมือง ห่วงยุค AI รุกล้ำสิทธิประชาชน

ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการสมาชิกสมาคม และจัดการบรรยายสาธารณะ หัวข้อ “The Courts and the Protection of Human Rights” โดยมีนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญและในฐานะประธานสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย เป็นประธานเปิดงาน พร้อมมอบของที่ระลึกให้กับวิทยากร ซึ่งการจัดการประชุมครั้งนี้มีประเทศสมาชิกเข้าร่วม ได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐทูร์เคีย สาธารณรัฐอุซเบกิสถานและการประชุมรูปแบบออนไลน์จากประเทศสมาชิก อื่นๆ ที่ปัจจุบันมีประเทศสมาชิก 21 ประเทศ


นายจิรนิติ หะวานนท์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ บรรยายหัวข้อ “3 ทศวรรษของศาลรัฐธรรมนูญไทย และความท้าทายในทศวรรษหน้า” ว่าศาลรัฐธรรมนูญมาถึง 3 ทศวรรษแล้ว ในช่วงเริ่มต้นการก่อตั้งศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ปี 2541-2549 ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 หน้าที่สำคัญคือการตรวจสอบว่ากฎหมายระดับพระราชบัญญัติขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งการตรวจสอบมีหลักสำคัญคือหลักนิติธรรม และหลักการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในทศวรรษแรกก็จะมีคำถามว่ามีศาลรัฐธรรมนูญไปทำไม ดังนั้นในช่วงนั้นเราจึงตั้งคำถามนี้ ซึ่งก็จะเป็นการวางรากฐานคดีรัฐธรรมนูญว่าเป็นคดีประเภทไหน คดีอะไร จะเห็นว่าคำวินิจฉัยในยุคนั้นจะทำความเข้าใจว่าบทบาทหรืออำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญคืออะไร โดยจะวินิจฉัยเฉพาะพระราชบัญญัติที่มีปัญหาเรื่องขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เช่นกฎกระทรวง ข้อบังคับสภาเทศบาลตำบล หรือประกาศธนาคารพาณิชย์ พวกนี้จะไม่ใช่ปัญหากฎหมายที่จะมาสู่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่จะเป็นปัญหาที่จะไปสู่ศาลปกครอง หรือแม้คำสั่งนายกรัฐมนตรีเราก็จะไม่รับวินิจฉัย ซึ่งในทศวรรษแรกยังไม่มีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ จึงต้องมีข้อกำหนดวิธีพิจารณาของตัวเองไปพลางก่อน

นายจิรนิต กล่าวว่า ต่อมายุคทศวรรษที่ 2 ตั้งแต่ปี 2550 – 2557 ยุคเผชิญวิกฤตการเมือง จะเห็นว่าตอนนั้นก็มีปัญหาทางการเมืองมากมาย ซึ่งเป็นยุคที่เราจะต้องมีส่วนในการพาประเทศฝ่าวิกฤตทางการเมือง เช่น คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องการสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช เนื่องจากมีรายได้ทางสื่อ หรือคำวินิจฉัยในคดีเสียบบัตรแทนกัน เพื่อโหวตผ่านกฎหมาย ซึ่งการกระทำแบบนี้ทำให้การได้มาซึ่งอำนาจอธิปไตยไม่ใช่วิธีทางรัฐธรรมนูญ หรือ ความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเพราะโยกย้ายข้าราชการเพื่อให้ญาติของตนมาดำรงตำแหน่งแทน ซึ่งยุคนั้นก็มีปัญหาทางการเมืองมาก ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ฟันฝ่าอุปสรรค โดยเฉพาะสมัยนั้นศาลรัฐธรรมนูญมีที่ตั้งอยู่ที่พาหุรัด ก็โดนระเบิด M79 ยิง


ต่อมายุคที่ 3 ยุคขยายบทบาทศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี2560 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มีบทบาทสำคัญที่เข้ามาในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันคือการพิจารณาคดีร้องทุกข์ทางรัฐธรรมนูญ โดยจะพิจารณาเรื่องการกระทำของหน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้ก็ยังมีปัญหาทางการเมืองมากอยู่เหมือนกัน ยุบพรรคการเมืองไปเยอะพอสมควร ความจริงก่อนหน้านี้ก็มีการยุบพรรคการเมืองแต่ส่วนมากก็เป็นเรื่องของการไม่ทำบัญชีรายชื่อสมาชิก ไม่ทำรายงานการดำเนินการหรือไม่ทำรายงานเกี่ยวกับบัญชีทรัพย์สินส่ง กกต. ซึ่งในยุคปัจจุบันเรื่องคดีเกี่ยวกับทางการเมืองมีความเข้มข้นขึ้นเช่น คดียุบพรรคการเมืองจากการเสนอชื่อพระราชวงศ์ชั้นสูงมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐธรรมนูญพระมหากษัตริย์จะอยู่เหนือการเมือง หรือการที่พรรคการเมืองไปกู้ยืมเงินหัวหน้าพรรค หรือ สมาชิกภาพของสส.สิ้นสุดลงเมื่อถือหุ้นสื่อ นอกจากนี้มีคดีที่สำคัญแต่คนไม่ค่อยพูดถึงคือประกาศคสช.ที่ให้ผู้ฝ่าฝืนคำสั่งเรียกบุคคลมารายงานตัว เมื่อสิ้นสุดสถานการณ์ความมั่นคงแล้วย่อมขัดหรือแย้งและรัฐธรรมนูญ

โดยสมัยก่อนไม่ว่าศาลไหนในไทยก็จะไม่แตะต้องคำสั่งของคณะรัฐประหาร แต่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าคำสั่งของคณะรัฐประหารใช้เฉพาะในเหตุการณ์ฉุกเฉินที่จะต้องรักษาความมั่นคง แต่เมื่อบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติคำสั่งนี้ก็ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นคำสั่งแรกที่ศาลในประเทศไทยวินิจฉัยเกี่ยวกับคำสั่งของรัฐประหาร

นายจิรนิติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีคดีอื่นไม่ว่าจะเป็นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ต้องจัดให้ประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญออกเสียงทำประชามติเสียก่อน ซึ่งคำถามนี้ก็ยังอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ และอยู่ระหว่างการวินิจฉัย และคดีสำคัญกรณีการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่มีเหตุจูงใจล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าการรณรงค์ดังกล่าวนำไปสู่การล้มล้างการปกครอง ซึ่งเป็นคำที่คนพูดกันบ่อยๆนั่นคือ “เซาะกร่อนบ่อนทำลาย” นำไปสู่การล้มล้าง ก็ต้องให้เลิกกระทำการอย่างนั้นเสีย ซึ่งพอวินิจฉัยคดีนี้ไป ตนขับรถผ่านสามเหลี่ยมดินแดงทีไรก็คิดทุกทีว่าวินิจฉัยถูกแล้ว เพราะแต่ก่อนถนนเส้นนั้นในช่วงค่ำผ่านไม่ได้ เนื่องจากมีม็อบแล้วมีการขว้างระเบิดกัน หลังจากคำวินิจฉัยนั้นออกมาก็สงบเรียบร้อยดี จะเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญช่วยแก้วิกฤติการเมืองให้กับประเทศไปเยอะทีเดียว


นายจิรนิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ศาลรัฐธรรมนูญกำลังจะก้าวสู่ในทศวรรษที่ 4 ความท้าทายคือจะทำยังไงให้ได้รับความเชื่อมั่นต่อประชาชนและรักษาความเป็นกลางได้เพราะว่าในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีบทบาทโดยเฉพาะทางการเมือง ซึ่งทางการเมืองพยายามเข้ามาแทรกเข้ามาสู่ศาลรัฐธรรมนูญ พยายามจะเปลี่ยนองค์ประกอบอะไรบ้าง ซึ่งเราคงจะต้องฟันฝ่าอุปสรรคตรงนี้ และที่สำคัญเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งปัญหาที่จะเข้าสู่ศาลรัฐธรรมนูญมันไม่ใช่เรื่อง AI เกี่ยวกับทางวิชาการ แต่ปัญหาคือถ้าเป็น AI ของหน่วยงานของรัฐ แล้วไปคิดเองเออเองเที่ยวละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ถ้าเกิดขึ้นเราจะตั้งรับมันอย่างไร ก็จะมีข้ออ้างว่า AI คิดเอง หน่วยงานของรัฐไม่ได้ทำ เหมือนกับคำวินิจฉัยในต่างประเทศที่ AI คิด วาดรูปโครงสร้าง หรือทำสูตรนั้นสูตรนี้ขึ้นมาแล้วศาลบางประเทศระบุว่า AI ไม่ใช่มนุษย์ เพราะฉะนั้นไม่มีลิขสิทธิ แต่ถ้าเป็นหน่วยงานรัฐแล้วไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน แล้วเราจะปฏิเสธได้หรือไม่ว่าเป็นเรื่องที่ AI คิดเอง ทำเอง ไปแทรกแซงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลใช้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนจะทำอย่างไร ซึ่งเป็นปัญหาที่จะต้องคิดกันต่อไป.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]