“วิโรจน์” จี้นายกฯ ลาออก ชี้หมดความชอบธรรม

รัฐสภา 18 มิ.ย.-“วิโรจน์” จี้นายกฯ ลาออก หลังคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน” เป็นของจริง ชี้หมดความชอบธรรมเจรจาปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ใช้ดีลส่วนตัวคุยทางลับ แทนเจรจาทางการ ซัดติติงกันเองได้ แต่ไม่ควรดิสเครดิตกับฝั่งตรงข้าม ชั่ว ดี ถี่ ห่าง ก็เป็นทีมเดียวกัน มั่นใจเรื่องคลิปเสียงเป็นการยั่วยุ แต่นายกฯ โดนล่อซื้อ ลั่นนี่ไม่ใช่ธุรกิจของท่าน

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคประชาชน กล่าวถึง การที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมายอมรับคลิปเสียงหลุด ของนายกรัฐมนตรีและฮุน เซน เป็นคลิปจริง ว่า เป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมาก เพราะนายกรัฐมนตรีนอกจากจะเป็นประมุขฝ่ายบริหาร แล้วยังดำรงตำแหน่งเป็น ผอ.รมน. คือผู้อำนวยการกองรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรด้วยและยังเป็นประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ด้วยซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งสำคัญในเรื่องของการปกป้องอธิปไตยและดูแลในเรื่องของความมั่นคงของชาติ ตอนแรกจนเผื่อใจเอาไว้ว่าเป็นคลิปเสียงของนายกแพทองธารจริงหรือไม่ แต่หลังจากที่ติดตามข่าวทางฝั่งฮุน เซน และฮุน มาเนต ก็ยอมรับว่าเป็นคลิปเสียงจริง และสุดท้ายนายกรัฐมนตรีก็ยอมรับว่าเป็นคลิปเสียงจริง แต่เป็นเทคนิคในการเจรจาให้โอนอ่อนผ่อนตาม


ทั้งนี้ ต้องเข้าใจในเรื่องของการเจรจาว่าจะต้องมีเทคนิคในการเอาน้ำเย็นเข้าลูบ หรือชักแม่น้ำทั้งห้า แต่สิ่งที่นายกรัฐมนตรีในฐานะที่เป็น ผอ.รมน. เป็นประมุขฝ่ายบริหารเป็นประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ต้องตระหนักเอาไว้ คือสมควรหรือไม่ ที่การเจรจา ไม่มีประโยคไหนเลย ที่ยืนยันในความชอบธรรม และจุดยืนของประเทศไทย ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ

นายวิโรจน์ กล่าวว่า จุดที่น่าลำบากใจและยากที่จะเข้าใจได้ที่สุดคือการดิสเครดิตทีมงานด้วยกัน ที่ผ่านมาตนให้สัมภาษณ์สงวนความเห็น ในลักษณะที่โจมตีต่อว่านายกมาโดยตลอด แม้ว่าจะมีกลิ่นอายของการติติงบ้างแต่ก็จะอยู่ในลักษณะการให้ข้อเสนอแนะกับทางนายกรัฐมนตรีไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดการเส้นเงิน ที่เชื่อมโยง ระหว่างกลุ่มทุนกับตระกูลฮุน กับเครือข่ายนายทุนไทย ที่อาจจะเกี่ยวพันกับการกระทำผิดกฎหมาย และอาชญากรรมที่ส่งผลเสียต่อประเทศและมีคนไทยตกเป็นผู้เสียหายจำนวนมากซึ่งน่าจะเป็นมาตรการกดดันที่มีประสิทธิผล เพื่อจูงใจให้ทางรัฐบาลกัมพูชาหวนกลับเข้ามา ในโต๊ะเจรจาอย่างสมเหตุสมผล เพราะตนตระหนักดีว่าในห้วงเวลานี้เป็นห้วงเวลาที่จะต้องมีเอกภาพในการทำงานร่วมกันการติติงทำได้แต่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะโจมตีกันทางการเมือง


นายวิโรจน์ ยังกล่าวว่า ตนในฐานะฝ่ายค้านและในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหารที่พยายามที่จะสนับสนุนรัฐบาลมาโดยตลอด ตนรู้สึกตกใจและผิดหวังอย่างมาก และคงต้องทำตั้งคำถาม ว่าประชาชนจะไว้วางใจนายกรัฐมนตรีที่ชื่อแพทองธาร ชินวัตร ต่อไปได้อย่างไร กับประโยคที่เรียกฮุน เซน ว่า อังเคิล ตนว่าไม่ใช่ท่าทีของนายกรัฐมนตรี
แล้วยังมีประโยคหนึ่งที่ตนตกใจมาก คือ “ถ้า ฮุน เซน ต้องการอะไรจะจัดการให้” นี่หรือคือการเจรจา ตนฟังจนจบแต่ไม่มีการพูดถึงจุดยืน เป็นการพูดด้วยความสุภาพ แต่จุดยืนของประเทศไทยคำพูดที่พูดถึงเรายึดมั่นใน MOU 43 ก็ไม่มี อาจจะไม่ต้องพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวแต่การยืนยันจุดยืน ว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นอธิปไตยของประเทศไทย และยืนยันที่จะคลี่คลายปัญหาโดยสันติวิธีเราก็สามารถพูดได้ แต่ตนไม่ได้ยินประโยคใดในลักษณะนามทำนองนี้เลย

ทั้งนี้ เป็นการสะท้อนวิธีคิดของนายกรัฐมนตรีที่ไม่เคยแปรเปลี่ยนไปเลย ตนย้ำเสมอว่าการคลี่คลายข้อพิพาทครั้งนี้จะต้องใช้การสื่อสารทางการเมืองที่มีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็น การผ่านเวทีสากล สหประชาชาติ อาเซียน หรือทูตานุทูต การสื่อสารกับประชาชนของฝั่งตนเอง และรวมถึงการสื่อสารกับประชาชนฝั่งกัมพูชา หรือใช้กลไกกระทรวงการต่างประเทศ แต่นายกรัฐมนตรีไม่รับฟังยังคงมีนิสัยเหมือนเดิม คือใช้การดีล การคุยกันทางลับ และตนยืนยันเสมอว่า ฮุน เซน กับ ฮุน มาเนต คือกลไกสำคัญที่ก่อให้เกิดข้อพิพาทในครั้งนี้ และตนก็เคยย้ำกับนายกรัฐมนตรีแล้วว่าถ้าเป็นมิตรกัน เขาจะไม่ทำกันแบบนี้วันนี้ต้องเอาความเป็นมิตร ความรู้จักกันสัมพันธ์ที่มีวางไว้ข้างหลังไกลๆ แล้วมองฝั่งตัวเองว่าตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน สมช. เป็น ผอ.รมน. ก็ทำหน้าที่ไป แต่นายกรัฐมนตรีก็ไม่รับฟัง

“เรื่องที่เกิดขึ้นตนคิดว่าหมดเวลาของนายกฯ แล้ว ตนไม่อยากจะพูดคำนี้เลย แต่ตนไม่รู้ว่าจะพูดแบกท่านนายกฯ ต่อไปอย่างไรแล้ว ที่จะทำให้ประชาชนคนไทยกลับมาให้ความเชื่อมั่นกับนายกรัฐมนตรีที่ชื่อแพทองธาร ชินวัตร ให้คลี่คลายปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทยกัมพูชาต่อไป จะมั่นใจได้อย่างไรว่าการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อแพทองธาร จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก นี่คือคำถาม ที่ฟังแถลงการณ์ของนายกแล้ว แต่ก็ไม่สามารถที่จะคลี่คลาย ข้อวิพากษ์ วิจารณ์ และข้อสงสัยของประชาชนได้ผมว่าทางออกเดียวของนายกรัฐมนตรีตอนนี้คือลาออกจากตำแหน่งเท่านั้น” นายวิโรจน์กล่าว


ส่วนที่มีการพูดพาดพิงถึงแม่ทัพภาคที่ 2 นั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า ชั่ว ดี ถี่ ห่าง ชอบ ไม่ชอบ คิดตรง คิดต่าง เราอยู่ในทีมเดียวกันแล้ว ตนอยู่ในฐานะฝ่ายค้าน ตนก็ไม่เคยติติงนายกรัฐมนตรี และรองนายกภูมิธรรม เวชยาชัย เลย ก็ให้ข้อเสนอแนะ อาจจะตรงไปตรงมาบ้าง ช่วยจัดการด้วยซ้ำไป ไม่เคยบอกว่าท่านไม่ดีอย่างนั้น ไม่ดีอย่างนี้ ขนาดมีประชาชนจำนวนหนึ่งออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยที่ส่งท่านทูตนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ไปเป็นหัวหน้าทีมเจรจา ตนยังให้ความเห็นว่าแล้วจะมีใครดีไปกว่านายประศาสน์ ที่มีความรู้ความเข้าใจการเมืองในกัมพูชาไม่มีอีกแล้ว ไม่ว่าจะมีข้อติติง แต่จะหาผู้ที่เหมาะสมกว่าท่านทูตประศาสน์ไม่ได้ และ ณ วินาทีนี้ตนยังจำได้ว่าตนให้กำลังใจ ในขณะที่ฝั่งกัมพูชาโห่ร้องให้กำลังใจตัวแทนของเขาแต่พวกเราไม่สมควรเลยที่จะมาดิสเครดิตและบั่นทอนกำลังใจของหัวหน้าทีมของเรา

“ชั่ว ดี ถี่ ห่างอย่างไร ณ วันนี้ ผมได้วางการเมืองลงแล้วและผมเชื่อว่าการเจรจาบนโต๊ะอย่างเป็นทางการจะคลี่คลายได้จากมาตรการที่พุ่งเป้าไปที่กระเป๋าสตางค์ฮุน เซนและฮุน มาเนต จะสามารถจูงใจให้เขากลับมาสู่โต๊ะเจรจาได้ แต่นายกฯ ไม่เชื่อ และกลับทำในเรื่องที่ไม่สมควร อย่างมากคือการดิสเครดิต พูดลับหลังในทางไม่ดี กับทีมงานคนสำคัญ ไม่ใช่ตำหนิทหารไม่ได้ แต่ตำหนิในวงของเรา ไม่ใช่ว่าตำหนิแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้หรือจะเห็นด้วย กับแม่ทัพภาค 2 ทุกเรื่องไม่จำเป็น แต่เราต้องกลับมาคุยในวงประชุมของเรา”นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์ ยังกล่าวต่อว่า หลักการง่ายๆ ไม่ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีแค่บริหารบริษัทหนึ่ง ถ้าในฐานะผู้จัดการไม่พอใจผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองก็ควรเอาลูกน้องตัวเองไปด่าให้กับคู่ค้าฟังหรือไม่ ก็ต้องมาตำหนิติติงกันภายในบริษัทในห้างร้านของเรา ขนาดการจัดการบริษัทเขายังไม่ทำกันเลย ตนจึงบอกว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีทำตอนนี้มันยากเกินที่จะอธิบายและยากเกินกว่าที่คนไทยจะยอมรับ และให้ความไว้เนื้อเชื่อใจได้แล้ว

เมื่อถามว่า อาจจะเป็นการยุยงของทางฝั่งกัมพูชาให้คนไทยแตกแยกกันเอง ใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า แน่นอน คลิปอันนี้ยืนยันว่าคนปล่อยไม่ใช่ฝั่งไทยแน่ๆ แล้วมีความเป็นไปได้สูงว่าจะปล่อยมาจากทางฮุน เซน หรือฮุน มาเนต แต่คำถามคือถ้าเราเลือกวิธีทางที่ถูกต้องจะมีคลิปแบบนี้เกิดขึ้นหรือ ดังนั้นตนคิดว่า มีความเป็นไปได้ว่า การปล่อยคลิปต่างๆก็อาจจะมาจากทางฝั่งกัมพูชา แต่ถ้าฝั่งเรายึดมั่นการเจรจา อย่างเป็นทางการเป็นหลักทำงานในฐานะทีม อย่างมีเอกภาพก็จะไม่มีอะไรแบบนี้เกิดขึ้น

“เป็นนายกรัฐมนตรีไปถูกล่อซื้อแบบนี้ได้หรอ ถ้ายึดมั่นการดำเนินการอย่างเป็นทางการไม่ว่าจะกระทรวงการต่างประเทศหรือทางกลไกความมั่นคงผ่านสภาความมั่นคงก็ไม่มีปัญหา หรือผ่านการมอบหมายให้ท่านทูต ก็จะไม่มีเหตุการณ์อะไรแบบนี้เกิดขึ้นหรือใช้กลไกของ ปปง.ในการสืบเส้นเงิน และใช้มาตรการ ที่ตนให้คำแนะนำไปใช้กลไกของตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจเศรษฐกิจตำรวจไซเบอร์ จะไม่มีอะไรที่หลุดออกมาแบบนี้เลย ใช่ครับอาจจะเป็นแผนการที่ทางฝั่งตรงข้ามจงใจทำลายภาพลักษณ์นายกรัฐมนตรีแต่ เป็นนายกรัฐมนตรีเองใช่หรือไม่ที่เดินไปในหลุมพรางที่เขาขุดเอาไว้และไม่เคยเชื่อกลไกอย่างเป็นทางการ และยังเชื่อในการ ดีลประชุมลับ นี่คือประเทศไทยไม่ใช่ธุรกิจของท่าน ไม่ใช่ทรัพย์สินภายในตระกูลของท่านที่ท่านจะใช้ตั๋ว PN แลกไปแลกมา จึงบอกว่านายกรัฐมนตรีหมดความชอบธรรมแล้ว” นายวิโรจน์ กล่าว

เมื่อถามว่า ตอนนี้บิดาของนายกรัฐมนตรีควรมีบทบาทอย่างไร นายวิโรจน์ กล่าวว่าไม่ต้องมีบทบาท ตั้งแต่ที่พูดเรื่องพื้นที่เตะตะกร้อก็ไม่สมควรอย่างมาก ตอนนั้นต้นยังแอบให้ความเห็นในเชิงบวกว่าหายเข้ากลีบเมฆไปดีแล้ว เพราะความเห็นไม่เป็นคุณต่อการเจรจา การให้สัมภาษณ์ว่าให้เอาพื้นที่ไปเตะตะกร้อ ก็ต้องเข้าใจถึงการตัดสินใจของทางฝั่งกัมพูชา ถ้าเกิดเขาโอนอ่อนผ่อนตามเขาก็มีศักดิ์ศรีของเขา เรากำลังหยิบยืมเงื่อนไขที่เขาก็ยาก ที่จะรับได้และไม่เป็นผลดี และบิดาของนายกรัฐมนตรีมีอำนาจอะไร คิดว่าวินาทีนี้ไม่มีประโยชน์แล้ว ตอนนี้สิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุดที่นายกรัฐมนตรีจะทำให้ประเทศได้คือการแถลงลาออก

ส่วนประเมินสถานการณ์ที่เปราะบางและนายกรัฐมนตรียังไม่ลาออก จะมีการ ทำรัฐประหารหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า รัฐประหารไม่มีอยู่แล้ว และจะยิ่งเข้าทาง “ฮุนเซน” และ “ฮุนมาเนต” ที่จะทำลายความชอบธรรมของรัฐบาลไทย คนย้ำได้หลายเวทีว่าความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความชอบธรรม หากไม่มีความชอบธรรมอีกฝ่ายหนึ่งจะเล่นบทเหยื่อและตีฆ้องร้องเปล่าไปในเวทีโลก เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในเวทีนานาชาติ ความชอบธรรมจึงสำคัญที่สุดหากมีการทำรัฐประหารในช่วงนี้ ก็ไม่ต้องเจรจากันแล้วแค่เดินสายอธิบายในนานาประเทศ ถึงการดำรงอยู่ของรัฐบาลที่มาจากการทำรัฐประหาร สถานภาพของรัฐบาลก็อยู่ยากมาก ๆ

เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะเป็นเหตุชนวนให้ประชาชนลงถนนไล่รัฐบาลหรือไม่ นายวิโรจน์ ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ตนกังวล สิ่งที่ดีที่สุดที่นายกรัฐมนตรีจะทำให้ประเทศได้ตอนนี้คือการลาออก

“และอยากบอกไปถึงนายกรัฐมนตรีจริงๆว่าหากไตร่ตรองหรือนั่งเงียบๆเงียบๆคนเดียว ถ้าท่านเป็นประชาชนคนหนึ่ง ยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วเจอนายกที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาแบบนี้ แล้วท่านยังจะไว้วางใจคนแบบนี้ ไปเจรจาเพื่อคลี่คลายข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาได้หรือ เราจะไว้วางใจได้อย่างไร ว่าคนคนนี้จะเจรจาเพื่อผลประโยชน์สูงสุดและผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศและประชาชนของเรา เรื่องนี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด คิดว่านายกรัฐมนตรีควรไตร่ตรองดูการลาออกของท่านจะเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่ประชาชนจะให้อภัยและประเทศชาติจะเดินหน้าต่อได้ คิดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดตอนนี้ ” นายวิโรจน์กล่าว

เมื่อถามว่ามีอะไรฝากถึงกองทัพโดยเฉพาะแม่ทัพภาคที่ 2 หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ให้ปฏิบัติตามหน้าที่ตามกรอบรัฐธรรมนูญ และย้ำเสมอว่าคลิปเสียงที่เกิดขึ้น หากมองลึกๆ เขาต้องการบ่อนทำลายเอกภาพของประเทศ ตนรู้ชั่วดี พอใจไม่พอใจ ณ วันนี้ ต้องนับหนึ่งถึงล้าน เอาหน้าที่เป็นหลัก สิ่งที่ฮุนเซนแล้วฮุนมาเนตอยากได้เราต้องไม่ให้ น้ำขุ่นอยู่ในน้ำใสอยู่นอก ส่วนเข้าใจความเจ็บปวดกับความไม่พอใจแต่เราให้สิ่งที่เขาต้องการไม่ได้จริง ๆ.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]