“ชาญชัย” เตรียมเอกสารมาแจงเพิ่ม กรณี “ทักษิณ” หากศาลต้องการ

ศาลฎีกาฯ 13 มิ.ย.-“ชาญชัย” ย้ำไม่ใช่คดีการเมือง แต่คือการพิสูจน์ว่า “ทักษิณ” ถูกบังคับโทษจริงหรือไม่ พร้อมเผยเตรียมเอกสารมาแจงเพิ่ม หากศาลต้องการก็พร้อมแจงทันที

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตผู้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการบังคับโทษตามกฎหมายหรือไม่ เข้าร่วมรับฟังการไต่สวน พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้เป็นนัดแรกที่ศาลเรียกทุกฝ่ายเข้ามา เพื่อดำเนินกระบวนการไต่สวนตามคำร้องที่เคยยื่นไว้ก่อนหน้านี้


นายชาญชัย ระบุว่า ตนเดินทางมาเพื่อรับฟังและเตรียมความพร้อม หากศาลเปิดโอกาสให้ชี้แจงเพิ่มเติมจะได้นำเสนอเอกสารหลักฐานใหม่ที่เกี่ยวข้อง โดยยืนยันว่าข้อมูลที่ยื่นไปก่อนหน้านี้มีรายละเอียดจำนวนมาก และหากฝ่ายใดให้ข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ตนก็จะเสนอข้อมูลให้ศาลพิจารณาเพิ่มเติม

นายชาญชัย ย้ำว่า คดีนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องการสร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมให้มีความถูกต้อง ทั้งยังมองว่า ศาลมีอำนาจเรียกพยานและบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อไต่สวนข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน


สำหรับกรณีที่ทนายของนายทักษิณขอขยายเวลาชี้แจงคำร้อง นายชาญชัย เห็นว่าเป็นสิทธิที่สามารถใช้ได้ เพราะศาลได้ออกหมายกำหนดให้ส่งคำชี้แจงภายใน 30 วันหลังได้รับคำสั่ง และหากเพิ่งได้รับหมายในภายหลัง ก็ถือเป็นการนับเวลาใหม่ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติ พร้อมระบุว่าศาลอาญามักให้ความเป็นธรรมกับจำเลยเป็นหลัก

ในส่วนที่เกี่ยวกับมติของแพทยสภาซึ่งลงโทษแพทย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีนี้ นายชาญชัยกล่าวว่า ทุกองค์ประกอบสามารถเกี่ยวโยงได้ แต่สุดท้ายศาลจะวินิจฉัยจากข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงว่าการบังคับโทษที่มีพระบรมราชโองการให้จำคุกหนึ่งปีนั้น มีการปฏิบัติจริงหรือไม่

นายชาญชัย ระบุด้วยว่า ศาลจะไม่ย้อนพิจารณาคดีเดิม แต่จะพิจารณาเฉพาะประเด็นว่า มีการจำคุกจริงตามคำพิพากษาหรือไม่ โดยจะพิจารณาจากหลักฐาน เช่น เวชระเบียน ใบเสร็จ หรือหลักฐานการรักษาพยาบาล เพื่อยืนยันความชอบด้วยกฎหมายของการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำ


นายชาญชัย ยังกล่าวถึงประเด็นที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการเลื่อนนัดไต่สวนออกไปว่า ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ซึ่งตนไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะขณะนี้ยังอยู่ระหว่างกระบวนการไต่สวน และศาลก็ยังไม่ได้อนุญาตให้เปิดเผยรายละเอียดคำร้องที่ตนยื่นไว้ โดยตนมาในวันนี้เพื่อรับฟัง และเตรียมความพร้อม หากศาลเปิดโอกาสให้เพิ่มเติมข้อมูลก็พร้อมที่จะยื่นเอกสารเพิ่มเติม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีประชาชนจำนวนมากติดตามคดีนี้ และอยากทราบว่าอยากฝากอะไรถึงประชาชนหรือไม่ นายชาญชัย ระบุว่า ขณะนี้ศาลอยู่ในระหว่างพิจารณาหาข้อเท็จจริง โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และตั้งแต่ศาลรับคำร้องของตน ก็เปรียบเสมือนศาลเป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนและมีหน้าที่ตรวจสอบกระบวนการทั้งหมดว่าถูกต้องหรือไม่

นายชาญชัย อธิบายเพิ่มเติมว่า ศาลได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นอัยการ สำนักงาน ป.ป.ช. หรือราชทัณฑ์ เข้ามาชี้แจงว่าในกระบวนการที่ผ่านมามีความผิดปกติหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นว่า “นายทักษิณ” ได้รับการบังคับโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ เช่น การถูกคุมขังจริงหรือไม่ ระยะเวลารักษาพยาบาลนอกเรือนจำมากกว่า 80 วันนั้น มีหลักฐานทางการแพทย์รองรับหรือไม่

นายชาญชัย ย้ำว่า ศาลไม่ได้กล่าวหาใคร แต่เป็นการไต่สวนเพื่อค้นหาความจริง และศาลมีอำนาจเรียกพยานหรือผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมหากเห็นว่าจำเป็น โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้กระบวนการไต่สวนตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้การตรวจสอบบุคคลดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นไปโดยรอบคอบและยุติธรรม

นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเสริมว่า การบังคับคดีนั้นมีบางฝ่ายที่พยายามบอกว่าการบังคับคดีเป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์แต่เพียงฝ่ายเดียวซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะการบังคับคดีนั้นมีการคาบเกี่ยวระหว่างกรมราชทัณฑ์เรือนจำและศาลที่ยังมีอำนาจอยู่ ที่ต้องขอติดตามว่าการบังคับคดีนั้นทำได้ถูกต้องหรือไม่ เมื่อ นายชาญชัย เห็นว่า การบังคับคดีนั้นยังไม่ถูกต้องจึงมาร้องตามข้อบังคับที่ 62 ของข้อบังคับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าบุคคลใดที่พบเห็นว่ามีการกระทำผิดระหว่างบังคับคดีสามารถร้องต่อศาลได้

นพ.ตุลย์ แจงว่าการบังคับคดีไม่ใช่เพียงแค่ของกรมราชทัณฑ์ฝ่ายเดียวเพราะศาลก็ยังมีอำนาจ ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 66 ที่ไหนทักษิณได้เปลี่ยนสถานที่จากเรือนจำไปอยู่โรงพยาบาลตำรวจโดยมีความเห็นของแพทย์ที่ราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจให้อยู่ตลอด 180 วันนั้นตนมองว่าข้อเท็จจริงในเรื่องนี้อาจจะมีส่วนสำคัญถ้าศาลจะเห็นว่าการบังคับคดียังไม่เกิดขึ้นแม้แต่วันเดียว ซึ่งอาจจะมีผลต่อการพิจารณาว่าการบังคับคดีได้เกิดขึ้นแล้วหรือไม่ ส่วนการพักโทษภายหลังจากรักษาตัวไป 180 วันนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ เพราะหากศาลพิจารณาเห็นว่าไม่ถูกต้องทั้งสองส่วนก็อาจจะทำให้ นายทักษิณกลับมาสู่เรือนจำตามพระบรมราชโองการลดโทษเหลือหนึ่งปี

ด้านนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา เผยว่า คดีนี้เป็นคดีที่จะดำเนินการไต่สวนเพื่อบังคับคดีคือมีเหตุกรณีว่าศาลมีการพิพากษาจำคุกไปแล้วนั้นมีการบังคับโทษให้จำคุกจริงหรือไม่ วันนี้จะมีการไต่สวนหรือไม่นั้นก็ต้องดูบุคคลที่ศาลให้ออกคำชี้แจงมาซึ่งจะมีกรมราชทัณฑ์ราชธาน โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง (ปปช.) และนายทักษิณ ซึ่งแต่ละคนต้องส่งเอกสารเข้ามาและตัวบุคคลก็ต้องมา ซึ่งที่ศาลนัดในวันนี้เป็นสองเรื่องคือการไต่สวนและนัดพร้อมถ้าหากว่ามีพยานมาแล้วและเห็นควรว่าจะไต่สวนก็ควรมีพยานมาซึ่งประเด็นของคดีอยู่แค่ตรงส่วนนี้ ส่วนหากพบว่าการบังคับโทษยังไม่ถูกต้องและเป็นไปตามกฏหมายและใครเป็นผู้กระทำบ้างอันนั้นนั้นศาลจะลงในรายละเอียดเอาไว้และจะดำเนินคดีกันอีกส่วนหนึ่งศาลคงจะทำให้เกิดความกระจ่างและเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเพื่อไม่ให้มีข้อสงสัยและให้เวลากัยลูกความตามกฎหมายอย่างเต็มที่

นายนิติธร ยังกล่าวอีกว่า เมื่อศาลใช้ระบบไต่สวนนั้นตนก็เข้าใจว่าศาลคงรวบรวมพยานหลักฐานไปแล้วแต่ส่วนหนึ่งหากศาลเห็นว่าอันนี้เป็นเอกสารสำคัญก็อาจจะออกหมายเรียกให้แพทยสภาส่งมาซึ่งทั้งหมดเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันหมดเพราะทุกฝ่ายที่ทำงานนั้นมาจากรปัญหาเดียวกันคือการบังคับโทษของนายทักษิณ ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็จะถูกเรียกเอกสารมาที่ศาล

เมื่อถามว่า ทิศทางนั้นจะกลับไปสู่จุดเริ่มต้นที่นายทักษิณถึงไทยเลยหรือไม่ นายนิติธร เผยว่า ประเด็นอยู่ที่การบังคับโทษว่ามีการบังคับโทษหรือไม่ถ้าหากราชธานบอกว่าบังคับโทษไปแล้วนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่แต่ในขณะเดียวกันมีประเด็นปัญหาว่าประกาศคำสั่งระเบียบข้อบังคับหรือกฎหมายบางเรื่องที่ออกมานั้นอยู่ภายใต้บังคับของประมวลกฎหมายอาญาเพราะหลักนี้ใช้พรบ.ราชทัณฑ์ แต่ว่ามาตรา หก ของ พรบมาตรฐานนั้นบอกว่าที่ผ่านมาทุกเรื่องที่ต่อจากนี้ก็อยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายอาญา ถ้าการบังคับโทษไม่เกิดขึ้นก็ต้องมีการบังคับโทษ ส่วนแต่ละฝ่ายที่ไม่ได้บังคับโทษให้เป็นไปตามกฏหมายนั้นก็ต้องว่ากันอีกทีนึง

เมื่อถามย้ำว่า หากความจริงของคดีนี้กระจ่างขึ้นมาส่งผลมากน้อยแค่ไหนต่อรัฐบาล นายนิติธร มองว่า รัฐบาลมีส่วนร่วมให้เกิดแบบนี้ขึ้นเพราะตัวนายกรัฐมนตรีจะต้องมีส่วนในการบังคับคดีและการบริหารกระบวนการยุติธรรมซึ่งต้องรับผิดชอบในกรณีที่เกิดว่าการบังคับใช้กฎหมายไม่ถูกต้องหรือไม่ ส่วนรัฐมนตรีทุกคน ตั้งแต่อดีตนายกเศรษฐา มาจนถึงนางสาวแพทองธาร ทุกคนเพิกเฉยหมดซึ่งคดีนี้จะเป็นบรรทัดฐานและย้อนกลับไปถึงกรณีที่มีการพักโทษ.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]