ภูเก็ต 12 มิ.ย.- รอง ผอ. สำนักกิจการมวลชนและสารนิเทศ กอ.รมน. ลงพื้นที่ภูเก็ต ร่วมประชุมและติดตามงานด้านความมั่นคง เดินหน้าขับเคลื่อนมวลชน ประชาสัมพันธ์ ขยายผลเชิงรุกสู่ความมั่นคงยั่งยืน
พล.ต. ธนาธิป สว่างแสง รองผู้อำนวยการสำนักกิจการมวลชนและสารนิเทศ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อร่วมประชุมและติดตามการดำเนินงานทางฝ่ายอำนวยการด้านความมั่นคงในพื้นที่พร้อมหารือแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจการขยายเครือข่ายด้านมวลชนและการประชาสัมพันธ์ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงทางทะเล ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
โดยมี พล.ร.ต.ประพันธ์ ศรีสุวิภา รอง ผอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต (ฝ่ายทหาร) ให้การต้อนรับ และเข้าร่วมการประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องภารกิจครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างกลไกการประสานงานระหว่างหน่วยงานของ กอ.รมน. และหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานหลักในพื้นที่ ได้แก่ ทัพภาคที่ 3, ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค 3) และศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเล ไทย – เมียนมา (ศปชล.ทม.)
ทั้งนี้พล.ร.ท.สุวัจ ดอนสกุล ผบ.ทรภ.3 และ ผอ.ศรชล.ภาค3 ร่วมหารือและให้ข้อมูลประเด็นในการป้องกันภัยคุกคามทางทะเล เช่น การขนยาเสพติดข้ามชาติ การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ การกระทำผิดกฎหมายของเรือประมงในน่านน้ำ ทั้งนี้ ทรภ.3/ศรชล.ภ3 ได้จัดเรือและอากาศยาน ร่วมกับเครือข่ายมวลชนทางทะเล รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยธรรมชาติ และการดูแลรักษาทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน โดยมีผลปฏิบัติงานในรอบ 6 เดือน สรุปได้ดังนี้
1.การถวายความปลอดภัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และพระบรมวงศ์สานุวงศ์, เรือรบต่างชาติรุกล้ำน่านน้ำ, เรือประมงต่างชาติรุกล้ำน่านน้ำ, เรือรบต่างประเทศเยือนเมืองท่าประเทศไทย, การค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล, การจับกุมยาเสพติด, การจับกุมสินค้าผิดกฏหมาย และการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมแก่ผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย รวมทุกเหตุการณ์ทั้งสิ้น 140 เหตุการณ์
2.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 การค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัย, การค้ามนุษย์และการลอบเข้าเมืองทางทะเล, การทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง, การทำประมงผิดกฏหมาย, การลักลอบขนยาเสพติด สินค้าผิดกฏหมาย และด้านสาธารณะภัยและภัยพิบัติทางทะเล รวมทุกเหตุการณ์ทั้งสิ้น 303 เหตุการณ์
การประชุมครั้งนี้ยังได้ให้ความสำคัญกับการ “ขยายผลการดำเนินงานด้านมวลชน” โดยมีการประเมินผลการสื่อสารในระดับพื้นที่ วิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อน และแนวทางการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพการขยายเครือข่ายมวลชนในชุมชนทั้งทางบกและทางทะเล ให้สามารถเป็นพลังสนับสนุนภารกิจความมั่นคงในระยะยาว
ทั้งนี้ พล.ร.ต.ประพันธ์ ได้นำเสนอภาพรวม การดำเนินงานในพื้นที่ พร้อมย้ำถึงบทบาทของ กอ.รมน. จังหวัด ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เชิงรุกด้วยการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งจากภาครัฐ เอกชน และ ภาคประชาชน พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารจากชุมชนสู่การกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาให้ตรงกับนโยบายอย่างตรงจุด ผลสัมฤทธิ์ของการประชุมร่วมกันระหว่าง กอ.รมน. และ หน่วยงานความมั่นคงทางทะเล ในครั้งนี้ ในการบูรณาการการขยายเครือข่ายหน่วยงานความมั่นคงนั้น กำลังของทัพเรือภาค 3, ฝ่ายปกครอง และ กอ.รมน. เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบแรงงาน
อีกทั้งยังได้เพิ่มความเข้มงวดสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งเป็นจุดเน้นของการบูรณาการระหว่างกองทัพเรือ และ กอ.รมน. ที่สามารถควบคุมแรงงานผิดกฎหมาย และป้องกันปัญหาด้านความมั่นคงเชิงท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีเป้าหมายจะขยายผล ต่อไป
“การลงพื้นที่ของ ในครั้งนี้ จึงถือเป็นการเสริมสร้างกระชับความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงในระดับพื้นที่ ทั้งด้านปฏิบัติการ ด้านมวลชน และการประชาสัมพันธ์ พร้อมยกระดับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “สร้างความเข้าใจ สร้างความร่วมมือ และขยายมวลชน” เพื่อยกระดับการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงให้แน่นแฟ้น มั่นคง และ ยั่งยืน มากยิ่งขึ้น”พล.ต.ธนาธิป กล่าว-313 .-สำนักข่าวไทย
