นายกฯ ถก สมช. ชี้รัฐบาล-กองทัพ ไร้ปัญหา ทำงานเป็นเอกภาพ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.-นายกฯ ถก สมช.แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้รัฐบาลกับกองทัพ เคลียร์อำนาจหน้าที่แล้วไร้ปัญหา ย้ำ ทำงานเป็นเอกภาพ รักษาเอกราชอธิปไตยของประเทศ พร้อมรับทุกสถานการณ์ ยึดสันติวิธี บอกมอบหน้างานประเมินหากต้องปะทะ ทุกอย่างยังโอเค ยืนยันรัฐบาลทำงานไม่ช้า กำชับ ก.ดีอี ดูเนื้อหาปลุกปั่นหวั่นขยายขัดแย้ง ด้าน ผบ.ทสส. ลั่น กองทัพพร้อมหนุนรัฐบาล แจงประชุมเหล่าทัพไม่เชิญสื่อ ขอทำงานมืออาชีพ


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เพื่อหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง

โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้มีการพูดคุยถึงมาตรการต่างๆ ในการรับมือสถานการณ์ หลังจากเมื่อวานนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปคุยกับทีมกัมพูชา ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้สถานการณ์ยังโอเคอยู่ และยืนยันว่า ทุกหน่วย ทุกฝ่ายทั้งกองทัพและรัฐบาลมีการปรึกษากันตลอดก่อนที่จะดำเนินการใดใด อำนาจไหนที่เป็นของใคร และทุกคนทราบในอำนาจของตัวเองเป็นอย่างดี และวันนี้สิ่งที่ต้องการคือความเป็นเอกภาพในการทำงานทั้งหมด ซึ่งวันนี้ ได้คุยกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมด้วย ว่า ไม่อยากให้เกิดกระแส หรือการปลุกปั่นว่า รัฐบาลกับกองทัพมีปัญหากัน ซึ่งความจริงแล้วไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น มีแต่การสนับสนุนกันอย่างดี และมีการเคลียร์กันว่าอำนาจหน้าที่ เนื้องานเป็นอย่างไรใครจะตัดสินใจ


ส่วนเรื่องการเจรจา และรายละเอียดอาจจะไม่ได้ให้รายละเอียดทั้งหมด แต่ขณะนี้ยืนยันว่ามีความเข้าใจ และยังไม่มีความรุนแรงที่ขยายมากขึ้น ขณะนี้ ทางกองทัพก็ ยืนยัน มีการจำกัดวงเพื่อไม่ให้ขยายความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐบาลสนับสนุนอยู่แล้ว

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องอธิปไตยเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่หากเปรียบว่าเป็นบ้านจันทร์ส่องหล้า หรือ บ้านของนายกรัฐมนตรีเองมีคนมารุกราน นายกฯ จะแก้ปัญหาอย่างไรให้รวดเร็วกว่านี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) มีการพูดคุยกันแล้ว แต่รายละเอียดต้องเคารพทั้งสองฝ่ายว่าสามารถให้ข้อมูลได้มากน้อยแค่ไหน เพราะขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจา เข้าใจว่าสื่อมวลชนอยากได้เนื้อข่าว แต่การพูดคุยของทั้งสองฝ่ายโอเคทั้งหมด

ขณะเดียวกันกองทัพก็ยืนยันแล้วว่ามีความพร้อมทุกรูปแบบ พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ซึ่งกองทัพทราบอยู่แล้วว่าเหตุการณ์หน้างานเป็นอย่างไร ถึงเวลาที่ต้องปะทะหรือยัง และเป็นการตัดสินใจของกองทัพจะเป็นคนประเมินหน้างาน ว่าถึงขั้นที่ต้องปะทะหรือไม่ แต่หากยังไม่จำเป็น การที่จะปะทะไปจะเกิดความเสียหาย มากกว่าแรงเชียร์ที่ต้องการให้เกิดการปะทะ พร้อมย้ำว่าต้องใช้สันติวิธีให้ได้มากที่สุด


“ยืนยันว่า ไม่มีใครช้าในเรื่องนี้ ทุกคนทำกันหมดแหละคุยกันหมดแล้ว อยู่ที่ว่าจะฟังส่วนไหนไม่ฟังส่วนไหนมากกว่า และรัฐบาลก็มีการออกแถลงการณ์ไปสองฉบับในการดำเนินการและแนวทางที่ประเทศไทยจะไปต่อ” นายกฯ ระบุ

ด้านนายภูมิธรรม ย้ำว่า เรายังคงยืนยันในหลักการปกป้องอธิปไตย และดำรงความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ โดยการพูดคุยวันนี้หลักการสำคัญมีอยู่สามด้าน คือ การต่างประเทศ กองทัพและการสื่อสาร ซึ่งจะมีการปรับให้ชัดเจนขึ้นเพื่อให้เกิดการร่วมกันทำงาน ก่อนยืนยันว่ากองทัพพร้อมที่จะรักษาเอกราชอธิปไตยของประเทศ และบูรณภาพแห่งดินแดน ซึ่งได้มีการพูดคุยเป็นเนื้อเดียวกัน

โดยกระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นเจ้าภาพหลักในการชี้แจงเรื่องนี้ และจะประสานกับโฆษกกระทรวงกลาโหม กองทัพบก และดีอี เพื่อไม่ให้บรรยากาศการเจรจาหรือการหาข้อสรุปเกิดขึ้นยากลำบาก

พร้อมกล่าวย้ำว่า สมช. เห็นพ้องกันว่าอธิปไตยถือเป็นเรื่องสำคัญหลักที่ต้องดูแลอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องอื่นๆจะประคองให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี ไม่ให้เกิดการเสียประโยชน์ทั้งประเทศเราและประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด ที่จะมีภาระความจำเป็นต่อเนื่องกันอีก อย่างเรื่อง ยาเสพติด ไซเบอร์ จึงอยากให้ความขัดแย้งจำกัดวงให้ได้มากที่สุด

ด้าน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ในส่วนของการต่างประเทศและการทหารต้องไปด้วยกันเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากทั้งสองประเทศ มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาอย่างยาวนาน และเห็นพ้องกันว่าการเจรจา กับฝ่ายกัมพูชา ต้องใช้กลไกที่มีอยู่ ในปัจจุบัน เป็นหลัก คือทวิภาคี และเป็นสิ่งที่ผู้นำสองฝ่ายได้พูดคุยกันตั้งแต่ต้น คือใช้กลไกคณะกรรมการที่มีอยู่แล้ว ทั้ง JBC RBC หรือ GBC ที่เป็นกลไกหลักในขณะนี้ และเป้าหมายของการเจรจาในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ระหว่างคณะกรรมการร่วมสองฝ่ายจะต้องเน้น เรื่องของจุดปะทะ เพื่อแก้ปัญหาการกระทบกระทั่งกันเป็นหลัก เรื่องอื่นๆเราจะยังไม่ให้ความสำคัญ จะพูดเรื่องของการแก้ปัญหาที่มีการเผชิญหน้า และลดความตึงเครียด ในกรอบของกำลังทหารร่วมกัน ให้เป็นเรื่องเป็นราว ซึ่ง JBC มีหน้าที่อยู่แล้ว ที่จะเจรจาเรื่องเขตแดน เพราะฉะนั้นจะดำเนินการไปพร้อมกัน แต่สิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก คือการพูดคุยลดความรุนแรง ลดบรรยากาศ ที่จะมีการกระทบกระทั่งกัน เป็นหลัก

ส่วนการชี้แจง จะมีการประสานความร่วมมือกันกับกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพบก ร่วมกับกระทรวงกลาโหม เพื่อให้การสื่อสารแก่ประชาชนให้เข้าใจ ทุกอย่างไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมระบุว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดเรื่องข่าวสาร มากยิ่งขึ้นกว่านี้ ยืนยันว่า การทหารและการต่างประเทศไปด้วยกันอย่างแน่นอน

ขณะที่พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ประเด็นแรกได้เน้นย้ำว่ากองทัพสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ปัญหาและคลี่คลายสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้วยสันติวิธี เป็นเรื่องแรก

ส่วนเรื่องที่ 2 กองทัพได้ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในการรักษาอธิปไตย และคุ้มครองปกป้องประชาชนตามแนวชายแดนซึ่งได้ดำเนินการมาตลอด

เรื่องที่ 3 ได้ยืนยันว่าในการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพวันนี้ เป็นการประชุมตามวงรอบปกติ ทุก 2 เดือน ซึ่งแน่นอนว่าจะมีการพูดคุยเรื่องสถานการณ์ไทย-กัมพูชาด้วย ในลักษณะที่สนับสนุนแนวทางของรัฐบาลและแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ได้ประชุมกันวันนี้ และเพื่อความโปร่งใสหลังการประชุมเสร็จ จะมีเอกสารการแถลงข่าวออกมาว่าสิ่งที่คุยกันวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ส่วนที่ไม่ได้เชิญสื่อมวลชน เพราะเป็นการทำงานแบบมืออาชีพ และอยากให้เป็นการสื่อสารในแนวทางเดียว คือกระทรวงต่างประเทศ รัฐบาล กระทรวงกลาโหมและกองทัพ และตนในฐานะผู้ปฏิบัติงานขอสงวนการให้ข้อมูลในเรื่องนี้

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินออกจากวงแถลงข่าว ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะถามว่า จะให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไปพูดคุยกับ กัมพูชาด้วยหรือไม่ โดยรัฐมนตรี มีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ได้ตอบคำถามก่อนจะขึ้นรถกอล์ฟ กลับไปปฏิบัติงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่านายกรัฐมนตรี ได้ยกเลิกภารกิจการประชุมติดตามมาตรการป้องกันปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลวันนี้ (6 มิ.ย.) จากเดิมมีวาระการประชุมในเวลา 10:00 น. และเลื่อนเป็น 11:00 น. จนกระทั่งมีการแจ้งยกเลิกเนื่องจากนายกเข้าร่วมประชุมกับ สมช..-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]