“พรรณิการ์” เชื่อกลไกทวิภาคีมีประสิทธิภาพที่สุด ชี้นายกฯ ไร้ภาวะผู้นำ

รัฐสภา 4 มิ.ย.-“พรรณิการ์” ชม “รมว.กลาโหม” ปมปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่เอาขึ้นศาลโลก เชื่อกลไกทวิภาคีมีประสิทธิภาพที่สุด ชี้ “นายกฯ อิ๊งค์” ไม่มีภาวะผู้นำ ไร้เดียงสาทางการเมือง ซัดรัฐบาลเอาให้ชัดจะทำอย่างไร เหตุขาดเสถียรภาพ ประชาชนไม่เชื่อมั่น มองอนาคต กัมพูชาไม่ยอมลงใน JBC แน่นอน แนะหามาตรการควบคู่ ควรยุติความสัมพันธ์ส่วนตัว เพราะเรื่องนี้เป็นผลประโยชน์รัฐต่อรัฐ

นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า  กล่าวถึง การแก้ปัญหาของรัฐบาลกรณีชายแดนไทยกัมพูชา ว่า อย่างน้อยที่สุดวันนี้ ต้องชมรัฐบาลโดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่บอกว่าจะไม่มีการนำเรื่องนี้ขึ้นสู่ศาลโลก ขอเป็นเรื่องที่แขวนลอยอยู่บนอากาศ โดยการโยนมาจากฝั่งกัมพูชาหลายวันแล้ว เรื่องนี้ตนเห็นด้วยว่ายังไงกลไกทวิภาคี ระหว่าง 2 ประเทศจะเป็นกลไกที่ดีที่สุด และมีประสิทธิภาพที่สุด ในการคลี่คลายความขัดแย้งทางชายแดน โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปขึ้นศาลโลก


ทั้งนี้ เรื่องที่รัฐบาลยังทำไม่พอมีเยอะ ประเด็นแรกสำคัญที่สุดนั่นก็คือภาวะผู้นำ สถานการณ์ในวันนี้ค่อนข้างวิกฤต และเป็นสถานการณ์ที่ประชาชนติดตามอย่างใกล้ชิด และ รู้สึกว่าประเทศจำเป็นจะต้องตอบโต้กับกัมพูชา ตนไม่ได้เห็นด้วยแน่ๆ กับการให้รบกันซึ่งจะนำมาสู่ความสูญเสียของทางฝั่งไทย ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพี่น้องประชาชนที่อาจจะต้องอพยพ หรือต้องสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน แต่ต้องยอมรับว่านายกรัฐมนตรี วุฒิภาวะและภาวะผู้นำ ยังถือว่าพร่องไป เพิ่งรู้ว่าหลายวันที่ผ่านมาเราเห็นทั้งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและพ่อของนายกรัฐมนตรีซึ่งดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาด้วย และเป็นประธานองคมนตรีด้วย ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญ ออกมาตอบโต้โจมตีไทยตลอด ทุกวัน บางวันก็มีหลากหลายประเด็น แต่ในระดับ การตอบโต้ของประเทศไทยเราจะเห็น เพียงแต่นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่มีการแถลงและ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนวันนี้ที่นายกรัฐมนตรีเลือกที่จะพูดก็กลายเป็นว่าประเด็นที่ได้รับความสนใจ กลับเป็นประเด็นที่นายกรัฐมนตรีไม่พอใจนักข่าว ที่ไปสอบถามในประเด็นที่ทุกคน อยากรู้ว่านายกจะตอบอย่างไรถึงท่าที จุดยืนของไทยอ่อนไปหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องนี้ที่ประเทศชาติอยู่ในสภาวะวิกฤตทางชายแดนแบบนี้

“เราต้องการภาวะผู้นำจากนายกรัฐมนตรีนี่คือสิ่งสำคัญที่สุด แต่สิ่งที่เราได้รับในวันนี้ต้องขอให้นายกรัฐมนตรี ปรับปรุงจริงๆ เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ท่าทางเขาตอบโต้กลับมาโดยการใช้ นายกรัฐมนตรีหรือพ่อของนายกรัฐมนตรี อย่างน้อยที่สุดทางการไทย ก็ต้องให้นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบโต้เพื่อท้าตีท้าต่อย แต่มีหลากหลายวิธีที่จะยืนยันในจุดยืน และเกียรติภูมิของประเทศของเรา โดยผู้นำของเราเอง” นางสาวพรรณิการ์กล่าว


นางสาวพรรณิกา ยังกล่าวต่อว่าประเด็นที่2 ที่ยังพร่องไป คือการแสดงจุดยืนและนโยบายที่เป็นรูปธรรม ว่าเราจะตอบโต้กัมพูชาอย่างไร โดยที่ไม่ใช่การรบ วันนี้ นายภูมิธรรม พูด 1 ประโยคที่ ตนก็ตกใจเหมือนกัน ที่บอกว่า”คนไทยอย่ารู้มากไปเลย เดี๋ยวจะเสียเปรียบในการเจรจา รัฐบาลเตรียมไว้อยู่แล้ว” คือพูดในทำนองว่า”เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย เชื่อเถอะว่าเอาอยู่เตรียมไว้หมดแล้ว ถ้าพูดออกไปเยอะเดี๋ยวจะไปเสียเปรียบเขา”ซึ่งตนคิดว่าถ้าเราพูดโดยรัฐบาล ที่มีเสถียรภาพ และประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลเอาอยู่จัดการได้ อันนี้ยังพอฟัง แต่ถามประชาชนทุกคนว่าวันนี้ รัฐบาลเรามีเครดิตขนาดนั้นไหม ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือเวทีระดับ ระหว่างประเทศ รัฐบาลเราได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ จากประชาชนในระดับนั้นหรือไม่

“ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของรัฐบาลเพื่อไทยจริงๆ ที่ประเทศเผชิญวิกฤตแบบนี้ แล้วยังมีรัฐบาลที่ขาดเสถียรภาพ ขาดความมั่นใจจากประชาชน ขาดแรงหนุนจากประชาชน แต่ในเมื่อเป็นแบบนั้นไปแล้ว แทนที่จะบอกว่าให้เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย แต่สิ่งที่ดีที่สุดที่จะสร้างเครดิตให้กับรัฐบาลในภาวะฉุกเฉินแบบนี้ คือต้องเอาให้ชัดว่าจะทำอย่างไร” นางสาวพรรณิการ์กล่าว

นางสาวพรรณิการ์กล่าวต่อว่า นำมาสู่ข้อกังวลที่ 3 จากการที่ได้ฟังคำพูดของนายภูมิธรรมวันนี้ ที่ฝากความหวังไว้ที่ JBC ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน การเจรจาโดยใช้กลไกปกติที่มีอยู่แล้ว เป็นเรื่องดี แต่ก็ขอฝากไปให้พิจารณาว่า โต๊ะกลไก JBC ซึ่งเป็นกลไกปกติ เพียงพอหรือไม่ ในการคลี่คลายสถานการณ์วิกฤตในรอบนี้ เพราะทางฝั่งกัมพูชาทั้งนายฮุน มาเนต, นายฮุน เซน ดูแล้วโหมกระพือหนัก คิดว่าเป็นไปได้ยากที่จะยอมลงให้กันใน JBC เพราะฉะนั้นแทนที่เราจะสงบอยู่ในที่ตั้งและรอเจรจาใน JBC อย่างเดียว รัฐบาลไทยควรพิจารณามาตรการควบคู่กันไป ซึ่งมีหลากหลายวิธีที่ไม่ใช่การแสดงออกทางการทูต เช่น ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ปอยเปต ไฟที่ส่งไปให้ เน็ตที่ส่งไปให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พิจารณาตัดไหม พรก. เรื่องอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพิ่งผ่านไปใช้เลยหรือไม่ เพราะว่าไม่เช่นนั้นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต จะต้องรับผิดชอบรับผิดร่วมกันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เรื่องเหล่านี้ได้ประโยชน์ทั้งฝั่งไทย และได้ประโยชน์กับทั้งฝั่งคนที่เป็นประชาชนชาวกัมพูชา เพราะเราไม่ได้ไปตัดน้ำตัดไฟประชาชน แต่เราตัดไฟตัดเน็ต แก๊งคอลเซ็นเตอร์


“อย่างที่นายรังสิมันต์ โรมบอกเช็คเลยบรรดาออกญาต่างๆ ที่เกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีทรัพย์สินเท่าไหร่ในเมืองไทย DSI อายัดได้หรือไม่ เรื่องต่างๆเหล่านี้เป็นกระบวนการที่เราสามารถทำได้ ภายใต้กรอบกฎหมายของเรา ขณะเดียวกันก็เป็นการแสดงท่าที ที่เราตอบโต้อย่างรักษาเกียรติภูมิของประเทศ และไม่ได้เป็นอันธพาล ไม่ได้เป็นการท้าตีท้าต่อย จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณา เพราะลำพังหวังเพียงการเจรจาใน JBC ต้องบอกตามตรงว่า ดูจากประวัติที่ผ่านมาของการการดำเนินนโยบายต่างประเทศของฮุนเซน ถ้าเขายอมลงให้เรารอบนี้ใน JBCถือว่าแปลกมาก คงจะไม่ใช่อดีต นายกฮุน เซน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดินทางมาไกลขนาดนี้แล้ว ถึงขั้นพูดว่าจะเป็นฉนวนกาซ่า หรือจะเอาขึ้นศาลโลก ดิฉันคิดว่าไทยเองควรจะต้องตอบโต้ ให้อยู่ในน้ำหนักเดียวกับ ที่กัมพูชาตอบโต้กับเรา” นางสาวพรรณิการ์กล่าว

ส่วนที่มีความพยายามเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างนายฮุน เซนกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะเป็นผลดีหรือผลเสียกับเรา นางสาวพรรณิการ์กล่าวว่า เมื่อฟังคำพูดของนายกรัฐมนตรีในวันนี้เป็นคำพูดที่น่าตกใจ ที่ยอมรับว่าผู้นำไทยกับกัมพูชา เป็นเพื่อนกัน คำนี้ถ้าพูดกันในภาวะปกติไม่แปลก ผู้นำประเทศในไหนก็เป็นเพื่อนกันได้อยู่แล้ว เพียงแต่การพูดในสถานการณ์แบบนี้ นายกรัฐมนตรีอาจจะขาดความเข้าใจ สถานการณ์ทางการเมืองภายในกัมพูชา นายสม รังสี ผู้นำฝ่ายค้านพลัดถิ่นของกัมพูชา โจมตีรัฐบาลนายฮุน เซน นายฮุน มาเนตมาโดยตลอด ว่าเป็นพวกที่ขายชาติ เป็นคนที่มาเกลี้ยงเบียร์กับตระกูลชินวัตรของไทย ทำให้ผลประโยชน์แห่งชาติของกัมพูชาสูญเสียไป และมีการคาดการณ์กันว่านี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ นายฮุน เซน นายฮุน มาเนต มีท่าทีแข็งกร้าว เพื่อลบข้อครหาที่ว่าทางตระกูลฮุนเซนกับตระกูลชินวัตร เกี๊ยะเซี๊ะกันเพื่อประโยชน์ของตนเอง และละเลยผลประโยชน์ชาติ

“เพราะฉะนั้นคำพูดของนายกรัฐมนตรี ในวันนี้ดิฉันจึงถือว่า เบาที่สุด คือนายกรัฐมนตรีขาดความเข้าใจอย่างหนัก และคิดว่าอาจจะไร้เดียงสาทางการเมืองเกินไป ในการที่พูดประโยคนี้ออกมา ซึ่งเราไม่รู้ว่าทางกัมพูชา จะนำไปต่อยอดหรือนำไปปั่นกระแส กันมากแค่ไหน แต่ในเมื่อพูดออกไปแล้วเราก็ต้องเฝ้าระวัง และติดตามอย่างใกล้ชิด สถานการณ์ ณ ตอนนี้สิ่งที่เราควรทำมากที่สุดคือ ยุติการชูความสนิทสนมส่วนบุคคลเพราะนี่คือเรื่องของบูรณภาพทางดินแดน นี่เป็นเรื่องของผลประโยชน์รัฐต่อรัฐ ” นางสาวพรรณิการ์กล่าว

นางสาวพรรณิการ์กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นในกลไกของกระทรวงการต่างประเทศและสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตนเชื่อว่ากลไกเหล่านี้รวมถึงทหารที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดน เป็นกลไกปกติ แบบรัฐต่อรัฐ ที่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ ขอให้หยุดใช้เรื่องส่วนตัวหรือสายสัมพันธ์ส่วนตัว มาบอกว่าคลี่คลายสถานการณ์ได้ ด้วยความสนิทสนมกัน เพราะยิ่งเหมือนกันราดน้ำมันลงบนกองไฟ จะทำให้คุณเซ็นอาจจะต้องตอบโต้ ด้วยท่าทีแข็งกร้าว ยิ่งขึ้นเพื่อลบข้อครหาที่เขาถูกโจมตี

ส่วนที่มีหลายคนเป็นห่วงว่าครั้งนี้ไทยอาจจะเสียดินแดนไปอีก เหมือนเช่นครั้งเขาพระวิหาร นางสาวพรรณิการ์กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าเราจะเสียดินแดน เรื่องนี้ไม่ว่าอย่างไร ก็จะสามารถคลี่คลายไปได้ แต่สิ่งที่อยากให้ระวังคือกระแสชาตินิยมเข้มข้น ชาตินิยมสุดโต่งกันในช่วงนี้ ด้วยการกระตุ้นความยั่วยุ จากประเทศข้างๆ ซึ่งก็เห็นกันอยู่ว่ามีความพยายามยั่วยุปลุกปั่นเพื่อคะแนนนิยม ภายในประเทศของเขาจริงๆ ตนอยากจะเตือนประชาชนคนไทยว่าอย่าไปเข้าทางเขา เรื่องการเสียดินแดนไม่เสียหรอก เราจะสามารถพูดคุยเจรจา และใช้มาตรการตอบโต้ อื่นๆ ที่ไม่ใช่การสู้รบ ในการจัดการปัญหานี้ได้ เพียงแต่ขอให้รัฐบาล มีท่าทีที่ชัดเจน และเข้มแข็งกว่านี้ ในการตอบโต้กับกัมพูชาที่มีน้ำหนักเสมอกัน.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]