สส.ปชน.ชี้รัฐบาลต้องกู้วิกฤติประกันสังคม-จัดทำระบบตรวจสอบให้โปร่งใส

รัฐสภา 31 พ.ค. – “สหัสวัต” ชี้รัฐบาลต้องกู้วิกฤติสำนักงานประกันสังคม เริ่มจากการใช้หนี้คืนกองทุน-แก้กฎหมายปรับโครงสร้างบอร์ดกองทุนประกันสังคม ให้ยึดโยงกับผู้ประกันตน และจัดทำระบบตรวจสอบให้โปร่งใส ปิดช่องไม่ให้พวกปรสิตสูบโกงกินเงิน


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม ในวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 โดยนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน อภิปรายงบสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ที่ได้รับการจัดสรรงบในกระทรวง 68,069 ล้านบาท และเป็นงบประมาณของสำนักงานประกันสังคม 61,666 ล้านบาท หรือ 90% แม้จะเป็นงบประมาณจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถจ่ายดูแลผู้ประกันตนได้อย่างเพียงพอในอนาคต และการวิพากษ์ว่ากองทุนประกันสังคมวิกฤติเสี่ยงร่มในช่วง 25-30 ปี ที่หมายถึงบุคคลที่ส่งประกันสังคมไป แต่อาจไม่ได้รับสิทธิในการรักษาในช่วงวัยเกษียณ

“เราอยู่ในวิกฤติที่อีก 30 ปี ประชาชนคนไทยจะเจ็บป่วยไม่ได้ ตกงานไม่ได้ หยุดทำงานไม่ได้ เพราะหยุดเมื่อไรจะลบทันทีแบบไม่มีโอกาสลุก แม้แต่รัฐมนตรีพิพัฒน์ได้พูดว่ากองทุนประกันสังคมเสี่ยงล้มละลายภายใน 30 ปี จนมีการสรุปว่ารายรับไม่สัมพันธ์กับรายจ่ายในอนาคต และมีการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา 4 ข้อ ขยายอายุการเกษียณ กำหนดเพิ่มอัตราสมทบระยะสั้น ขยายเพดานค่าจ้าง ร่วมมือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง”


นายสหัสวัต ชี้ว่าหากรัฐบาลต้องการกู้วิกฤติประกันสังคม ต้องเริ่มจากตัวเอง จากการใช้หนี้กองทุนประกันสังคม หนี้ที่ติดผู้ประกันตนทั้งประเทศ ซึ่งจากข้อมูลที่มีรัฐบาลติดหนี้ตั้งแต่ปี 2534-2539 ค้างชำระกว่า 1 แสนล้านบาท เนื่องจากในอดีตมีงบประมาณก้อนหนึ่ง หรืองบประมาณพัฒนาจังหวัด หรืองบ สส. ที่จะเห็นป้ายตามศาลาพักร้อนหรือสะพานว่าจัดสรรโดย สส.คนนั้นคนนี้ เงินผู้ประกันตนของคนทั้งประเทศโดนล้วงเอาไปใช้เอาหน้า โดยที่ผู้ที่ส่งเงินสมทบเป็นผู้เสียประโยชน์ เพียงพอต้องตัดเอาไปให้ สส. ที่อยากมีหน้ามีตาเอาเงินไปสร้างถนนสร้างสะพาน แต่ความซวยตกอยู่กับผู้ประกันตน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลค้างจ่ายเงินเงินประกันสังคมอยู่ที่ 56,000 ล้านบาท และทุกปีที่รัฐเบี้ยวหนี้คือการขโมยเงินในอนาคตของผู้ประกันตน เสียโอกาสในการลงทุนออกดอกผลให้มาเป็นสิทธิประโยชน์ประชาชน

พร้อมกันนี้ได้คำนวณเงินค้างจ่ายของรัฐบาลต่อประกันสังคม ในเรทอัตราดอกเบี้ยเดียวกันกับการเก็บผู้ประกอบการ จะทำให้มีค่าปรับและค่าเสียโอกาสจากการค้างจ่ายสมทบของรัฐบาลอยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งสามารถยืดอายุกองทุนได้อย่างน้อย 4 ปี ก่อนจะเรียกร้องให้รัฐบาลกลางใช้หนี้อย่างจริงจัง เพราะขณะนี้ประชาชนไม่เชื่อมั่นในกองทุน เนื่องจากปัญหาความโปร่งใส

“จะใช้ให้หมดภายในกี่ปี จ่ายดอกปีละเท่าไร ทำจริงจังออกมา หยุดเอาเปรียบลูกจ้างนายจ้าง หวังว่าจะได้เห็นแผนใช้หนี้นี้ในปีหน้า ยังนับว่าเริ่มแรกหลักประกันสังคมคือการสมทบ 3 ฝ่าย ผู้ประกันตน นายจ้าง จ่ายคนละ 5% แต่รัฐจ่ายเพียง 2.75% แบบนี้จ่ายน้อยที่สุด เอาเปรียบตั้งแต่ต้นไม่พอยังค้างจ่าย แบบไม่มีค่าปรับดอกเบี้ยอะไร นี่เอาเปรียบทั้งคนทำงานและนายจ้าง แบบนี้ก็เจ๊งสิ”


นายสหัสวัต กล่าวต่อว่า แม้แต่ตึก Skyy9 บอร์ดประกันสังคมยังไม่เคยรู้ว่าเป็นการลงทุน เพราะกฎระเบียบเปิดช่องว่างให้มีการแต่งตั้งอนุฯ ชงให้กองทุนซื้อของมูลค่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งความไม่โปร่งใส ส่งผลต่อความไม่มีประสิทธิภาพ ผ่านผลตอบแทนการลงทุน ซึ่งกองทุนประกันสังคมในช่วง 10 ปี เติบโตปีละ 3% หากเปรียบเทียบกับกองทุนในประเทศอื่น โต 5% ซึ่งแม้จะห่าง 2% แต่คือเงินนับ 100,000 ล้านบาท

พร้อมกันนี้กล่าวถึงการใช้งบประมาณในสำนักงานประกันสังคม ที่รับการจัดสรรงบ 937 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ 880 ล้านบาท คือเงินใช้จ่ายบุคลากรและอีก 54 ล้านเป็นงบที่ใช้ดำเนินงาน โดยยังมีเงินนอกงบประมาณ ใช้เงินสมทบของผู้ ประกันตน ซึ่งตามกฎหมายสามารถใช้ได้ 10% ของเงินสมทบ แม้สำนักงานจะบอกว่าใช้เพียง 3% แต่สูงถึงปีละ 6000 ล้านบาท ที่ไม่ต้องผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎรและตรวจสอบไม่ได้ เมื่อย้อนไปดูใช้เงินของสำนักงานประกันสังคม จะเห็นว่ามีการตั้งคำถามว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกันตนอย่างไร

“ไม่ว่าจะเป็นการทำปฏิทินปีละกว่า 50 ล้านบาท ที่ผู้ประกันตนส่วนใหญ่ไม่มีใครเคยได้ ไม่รู้แต่ไปทำไมหรือกรณีที่ผมเพิ่งเปิดเผยไม่นานมานี้คือการซื้อรถของประกันสังคม ซึ่งไม่ได้มีความจำเป็น แต่มันคือการเอาเงินสี่ล้านบาทของผู้ประกันตนไปซื้อรถหรู เขียนโครงการด้วยความสวยหรือว่ารถสนับสนุนภารกิจของกระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคม แต่ที่จริงคือเอารถไปใช้ประจำตำแหน่ง”

นายสหัสวัต กล่าวว่า ให้ตัดการใช้จ่ายที่สุรุ่ยสุร่ายออกไปและขยายสิทธิให้ผู้ประกันตนสามารถไปถึงไหนต่อไหนแล้ว พร้อมทักท้วงเรื่องการให้บริการประชาชนเรื่องสายด่วน 1506 ที่ไม่สามารถติดต่อได้ เพราะสำนักงานมีการไปจ้างบริษัทนอกมาดำเนินการ ซึ่งไม่ได้มีความเชี่ยวชาญเข้าใจข้อมูลของประกันสังคม ซึ่งใช้งบประมาณในส่วนนี้ปีละกว่า 100 ล้านบาท เป็นระยะ 10 ปีก็เป็นมูลค่า 1000 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงงบที่เกี่ยวกับระบบไอทีของสำนักงานสำนักงานประกันสังคม วงเงินปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และใช้มานานเป็นระยะ 10 ปี หมดไปนับ 10,000 ล้านบาท กับการทำแอปพลิเคชันที่ไม่สามารถบริการประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิ ก่อนที่จะเสนอแนะให้ปรับเปลี่ยนงบในส่วนนี้ไปสนับสนุนด้านบุคลากรเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

พร้อมกันนี้กล่าวถึงการปฏิรูปโครงสร้างสำนักงานประกันสังคมทั้งหมด โดยผู้มีอำนาจในการตัดสินใจมีไม่กี่คน ที่ทำงานภายใต้อำนาจของนักการเมือง ซึ่งข้าราชการในกระทรวงไม่เคยจ่ายเงินสมทบ แต่ไปคิดแทนผู้ประกันตน เป็นการเปิดช่องโหว่ให้นักการเมืองฉ้อฉล และข้าราชการน้ำเสียรวมหัวคอร์รัปชันสูบกินเงินของผู้ประกันตน อย่าว่าเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะยกเครื่องพระราชบัญญัติประกันสังคม

“โดยแก้หลักการว่ากองทุนประกันสังคมต้องยึดโยงกับนายจ้างและผู้ประกันตนให้มากที่สุดผ่านการเลือกตั้ง คนบริหารต้องมาจาก 3 ฝ่ายอย่างแท้จริง ไม่ใช่รัฐที่จ่ายน้อยที่สุดแต่มีอำนาจสูงสุด และต้องมีกลไกตรวจสอบได้ตลอดเวลา ปิดโอกาสปิดช่องไม่ให้พวกปรสิตมาสูบโกงกินเงินของพวกเราที่ทำงานอย่างหนัก ส่งเงินเข้ากองทุนนี้เพื่อหวังจะมีเบาะรองในชีวิต”

ทั้งนี้ นายสหัสวัต ได้เสนอกู้วิกฤติประกันสังคม คือการใช้หนี้ ทำให้โปร่งใส ปฏิรูปโครงสร้าง.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]